29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

May 14,2019

“โฮมโปร”ครองแชมป์วัสดุก่อสร้าง ไตรมาสแรกโกยเงิน ๑๖,๕๕๓ ล้าน เดินหน้าส่งเสริมการขายต่อเนื่อง

          “โฮมโปร” ครองแชมป์ผู้นำตลาดธุรกิจศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร  ไตรมาส ๑ กวาดรายได้รวม ๑๖,๕๕๓.๐๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๖๕๒.๖๘ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๗๑.๓๗ ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการควบคุม บริหารจัดการค่าใช้จ่าย การปรับเปลี่ยนกลุ่มสินค้าให้ครบทุกกลุ่ม รวมถึงพัฒนาสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯ อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง

 

          นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับไตรมาส ๑ สิ้นสุดวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๒ ว่า บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส ๑ ปี ๒๕๖๒ เท่ากับ ๑,๔๑๙.๘๔ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๓.๗๓% โดยมีปัจจัยหลักจากรายได้รวม จำนวน ๑๖,๕๕๓.๐๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๖๕๒.๖๘ ล้านบาท หรือ ๔.๑๐% โดยประกอบไปด้วย

          ขณะที่รายได้จากการขาย ๑๕,๓๙๙.๗๖ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๕๒๕.๐๑ ล้านบาท หรือ๓.๕๓% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปร และเมกา โฮม รวมถึงการเติบโตของยอดขายจากสาขาใหม่ที่เปิดให้บริการในปี ๒๕๖๑ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้ค่าเช่า และบริการอีกจำนวน ๖๕๗.๙๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๕๘.๖๒ ล้านบาท หรือ ๙.๗๘% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ และรายได้จากค่าบริการ “Home Service”

          นายคุณวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น สำหรับไตรมาส ๑ ปี ๒๕๖๒ จำนวน ๔,๐๓๐.๑๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๑๗๘.๓๔ ล้านบาท หรือ ๔.๖๓% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก ๒๕.๘๙% ในปีก่อน มาอยู่ที่ ๒๖.๑๗% โดยเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนของส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขายทั้งกลุ่มสินค้าทั่วไป และการเพิ่มอัตรากำไรของกลุ่มสินค้า Direct Sourcing รวมถึงการปรับปรุงแผนการจัดซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องของธุรกิจโฮมโปร, เมกา โฮม และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น

          สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร จำนวน ๒,๙๗๐.๔๔ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๕๘.๑๔ ล้านบาท หรือ ๒.๐๐% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักของการเพิ่มขึ้นที่เป็นตัวเงินเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือน ค่าเช่า ค่าซ่อมแซม และค่าใช้จ่ายทางการตลาด อย่างไรก็ตามอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายมีการปรับตัวดีขึ้นโดยลดลงจาก ๑๙.๕๘% ในปีก่อน มาอยู่ที่ ๑๙.๒๙% ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

          “ในช่วงไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๒ เศรษฐกิจยังคงขยายตัวในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนจาก ทั้งในภาคเกษตร โดยเฉพาะการปรับตัวสูงขึ้นของราคาข้าว และการบริโภคนอกภาคเกษตรที่ยังคงปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องด้วยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในปี ๒๕๖๒ จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน ในไตรมาสนี้ยังคงเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ โดยมียอดขายจากสินค้าสำหรับปรับปรุงคุณภาพอากาศที่สูงกว่าปกติเนื่องจากสภาพอากาศที่มีมลพิษในระดับสูงโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคเหนือ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เช่น งาน HomePro Expo ในช่วงวันที่ ๑๕-๒๔ มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายโดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ” นายคุณวุฒิ กล่าวปิดท้าย

 

 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๑ วันเสาร์ที่ ๑๑ - วันพุธที่ ๑๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

 


693 1341