19thApril

19thApril

19thApril

 

May 16,2019

สาวแอบตั้งจีพีเอสใช้ตามแฟนหนีเที่ยว ทำให้ได้รถคืนหลังถูกโจรขโมย

            พนักงานสาวร้านโทรศัพท์ ถูกโจรเข้าขโมยรถกระบะในบ้าน โชคดีก่อนหน้านี้ แอบนำมือถือเก่ามีจีพีเอสซ่อนไว้ในรถ ใช้ตามหาสามีเวลาหนีเที่ยว กลายเป็นเรื่องดีใช้ตามจนพบรถที่คนร้ายนำไปจอดทิ้งไว้ในบ้านร้าง สงสัยอาจเป็นฝีมือของคนในวงการซื้อขายรถ

            เมื่อเวลา ๒๑.๒๐ น. วันที่ ๑๔ พ.ค. ร.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ รักไทย รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็คสีบอร์น ทะเบียน บห ๑๒๕ อุบลราชธานี ที่จอดอยู่ในบ้านเลขที่ ๗๙ บ้านเค็ง หมู่ ๕ ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี จึงไปตรวจสอบตามที่รับแจ้ง พบนางสาวปิยะนุช  พาแก้ว  อายุ ๒๙ ปี เจ้าของรถยืนคอยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่

            โดยให้การว่า ระหว่างเกิดเหตุมีคนร้ายแอบย่องเข้ามาขับรถยนต์กระบะของตนที่จอดไว้หน้าบ้านไป ทั้งที่กุญแจติดเครื่องรถยังอยู่ภายในบ้าน และยังให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วยว่า รถคันดังกล่าวนางสาวปิยะนุช ได้นำโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่มีจีพีเอสแอบซ่อนไว้ในรถ เพื่อใช้ตามหาสามีเวลาหนีเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงร่วมกับผู้เสียหายตรวจสอบไปยังสัญญาณจีพีเอสของมือถือ พบว่ารถจอดอยู่ในบ้านร้างของหมู่บ้านมัณฑนา ซอย ๒๘ บ้านดอนแค ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี

            จึงเข้าตรวจสอบตรงจุดที่รถดังกล่าวจอดอยู่ ก็พบคนร้ายได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังออก เพื่ออำพราง และเมื่อตรวจสอบบริเวณกุญแจประตูรถและกุญแจ สวิชใช้สตาร์ทรถ ปรากฏไม่มีร่องรอยการงัดแงะ หรือต่อสายตรงของไฟฟ้าระหว่างคนร้ายเข้าโจรกรรม เมื่อนำกุญแจที่มีอยู่ก็ใส่กันได้ แต่ติดเครื่องยนต์ไม่ได้ จึงตรวจสอบบริเวณเครื่องยนต์พบคนร้ายได้ถอดขั้วแบตเตอรี่ของรถออก เพื่อตัดระบบไฟฟ้าของรถทั้งหมดด้วย

            เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน พบว่า เวลาประมาณ ๒๑.๓๑ น. คนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดในบ้านร้าง ก่อนเห็นเป็นเงาคนเดินออกจากบ้านร้างไปยังบ้านฝั่งตรงข้าม จึงเรียกคนในบ้านเปิดประตูออกมาพูดคุย ทราบชื่อว่านายพัน (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ชาวบ้านกระโสบ ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี และแฟนสาวชื่อ น.ส.พา (นามสมมุติ) ๓๘ ปี เบื้องต้นคนในบ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านร้างปฏิเสธไม่รู้เห็นที่รถคันดังกล่าวมาจอดอยู่บ้านร้างฝั่งตรงข้าม

            แต่ระหว่างนั้นนายวุฒิไกร ซึ่งเป็นสามีของนางสาวปิยะนุช เจ้าของรถจำได้ว่า นายพันเป็นผู้ติดต่อนำรถกระบะมือสองที่ถูกขโมยมาขายให้ตนเองเมื่อปี ๒๕๖๑ และได้มอบกุญแจรถให้กับตนไว้เพียงดอกเดียว โดยไม่มีกุญแจดอกสำรอง เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวนายพันกับแฟนสาวมาให้ปากคำที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี แต่ทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธ

            หลังผู้ต้องสงสัยให้ปากคำเบื้องต้น ร.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ ได้ปล่อยตัว โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ต้องสงสัยมีส่วนร่วมในการโจรกรรมรถของนางสาวปิยะนุชหรือไม่ และจะได้ทำการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนติดตามจับคนร้ายที่ขโมยรถคันนี้ให้ได้ต่อไป

            ด้านนางสาวปิยะนุช เจ้าของรถระบุว่า ตนไม่คิดเลยว่า การนำเอามือถือเก่าที่มีจีพีเอส ใช้ติดตามหาแฟนเวลาหนีไปเที่ยว จะช่วยให้สามารถใช้ติดตามรถที่ถูกขโมยไปคืนกลับมาได้ ส่วนความสงสัยคนที่มาขโมยรถของตนครั้งนี้ ก็เชื่อว่าต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถคันนี้ที่ผ่านมาแน่นอน ก็จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการหาหลักฐานมาใช้จับตัวคนร้าย พร้อมเตือนระวังการซื้อรถกับนายหน้าที่นำรถมาขายให้ โดยไม่มีหลักแหล่งแน่นอน ต้องตรวจสอบให้ดีอาจจะเจอแบบตนก็ได้


696 1345