24thApril

24thApril

24thApril

 

May 22,2019

บางจาก’โชว์ผลงานไตรมาสแรก กวาดรายได้ ๔๕,๕๓๕ ล้านบาท มุ่งแสวงหารายได้เพิ่มในทุกธุรกิจ

        บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรก บางจากฯ ปี ๒๕๖๒ มีรายได้ ๔๕,๕๓๕ ล้านบาท EBITDA รวม ๑,๙๕๙ ล้านบาท กำไรสุทธิ ๓๙๕ ล้านบาท มุ่งลงทุนพัฒนาศักยภาพ และแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

 

        เมื่อเร็วๆ นี้ นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกในปี ๒๕๖๒ ว่า บริษัท บางจากฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ ๔๕,๕๓๕ ล้านบาท ลดลงร้อยละ ๗ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน องปีก่อน มีกำไรก่อนหักต้นทุนทางการเงิน ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ๑,๙๕๙ ล้านบาท มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ ๒๑๔ ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น ๐.๑๖ บาท

        ด้านกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA ๕๑๗ ล้านบาท มีค่าการกลั่นพื้นฐานอยู่ที่ ๓.๔๓ เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยในไตรมาสนี้โรงกลั่นมีอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่ ๑๑๐,๑๒๐ บาร์เรลต่อวัน เป็นการลดกำลังการกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม อีกทั้งมีการหยุดซ่อมอุปกรณ์บางส่วนในหน่วยกลั่นในเดือนมีนาคม จึงทำให้ไม่สามารถเดินหน่วยกลั่นได้อย่างเต็มที่ แต่ในส่วนของธุรกิจการค้าน้ำมันโดย บริษัท BCP Trading จำกัด มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากธุรกรรมโดยรวมของบริษัททั้งด้านปริมาณการค้าในทุกผลิตภัณฑ์และด้านธุรกรรมกับบริษัทคู่ค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น

        ทั้งนี้ ธุรกิจโรงกลั่นยังคงได้รับผลกระทบจากความผันผวนของสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม ต่อเนื่องมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ และส่งผลให้ธุรกิจโรงกลั่นในไตรมาสนี้มีค่าการกลั่นพื้นฐานปรับตัวลดลง แต่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่เข้ากลั่นในไตรมาสนี้บางส่วน ยังคงสะท้อนราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นยังมี Inventory Loss เล็กน้อย

        กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA ๖๑๒ ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวม ๑,๕๒๑ ล้านลิตร และยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดด้านปริมาณการจำหน่ายผ่านสถานีบริการอยู่ในอันดับที่ ๒ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสะสมเดือนมกราคม – มีนาคม ปี ๒๕๖๒ อยู่ที่ร้อยละ ๑๕.๖ มีปริมาณการจำหน่ายในส่วนของตลาดค้าปลีกที่เป็นช่องทางหลักเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการขยายฐานลูกค้า และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันดีเซล B20 ร่วมกับการจัดแคมเปญลดราคาพิเศษสำหรับน้ำมันไฮพรีเมียมดีเซล เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐในการส่งเสริมการใช้น้ำมันคุณภาพที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์ม ตลอดจนการผลักดันยอดขายผ่านโปรแกรมการตลาด เพิ่มความหลากหลายของธุรกิจเสริมและบริการต่างๆ ในสถานีบริการ รวมทั้งการขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันและร้านค้าเพิ่มขึ้น โดย ณ ไตรมาส ๑ ปี ๒๕๖๒ มีจำนวนสถานีบริการฯ ทั้งสิ้น ๑,๑๗๖ สาขา ร้านสะดวกซื้อ SPAR  ๔๗ สาขา ร้านกาแฟอินทนิล ๕๒๙ สาขา

        โดยค่าการตลาดรวมสุทธิปรับตัวลดลงในส่วนของตลาดค้าปลีก เนื่องจากในไตรมาสนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้ราคาต้นทุนผลิตภัณฑ์ปรับสูงขึ้นในขณะที่ราคาหน้าสถานีบริการน้ำมันปรับขึ้นได้ช้ากว่า อีกทั้งการตรึงราคาน้ำมันเพื่อช่วยลดภาระแก่ผู้บริโภคในบางช่วงเวลา ทำให้ราคาขายปลีกไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

        สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตไฟฟ้า ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) มี EBITDA ๗๓๖ ล้านบาท และมีรายได้ ๘๐๘ ล้านบาท โดยมีปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าทุกโครงการรวม ๗๕.๙๗ ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ในไตรมาสนี้ ธุรกิจพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ มีส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานและค่าตัดจำหน่ายสิทธิการขายไฟ รวม ๒๙ ล้านบาท และมีผลการดำเนินงานดีขึ้นเนื่องจากเป็นช่วง High Season จากที่มีพายุพัดผ่านทำให้ความเร็วลมเพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย มีส่วนแบ่งกำไรดังกล่าวข้างต้นรวม ๙๓ ล้านบาท

        กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพภายใต้การดำเนินงานของบริษัท บีบีจีไอ จำกัด มี EBITDA รวม ๑๙๔ ล้านบาท โดยธุรกิจผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซลมีรายได้จากการขาย ๑,๒๗๕ ล้านบาท มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ B100 ลดลง โดยปริมาณผลิตอยู่ที่ ๖๗.๒๖ ล้านลิตร และปริมาณจำหน่ายอยู่ที่ ๗๑.๑๕ ล้านลิตร และยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศที่ยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง รวมทั้งกำลังการผลิตรวมของผลิตภัณฑ์ B100 ในประเทศที่ เพิ่มขึ้น ๑.๒๐ ล้านลิตรต่อวัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เกิดการแข่งขันสูง

        ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมีรายได้จากการขาย ๑,๐๗๑ ล้านบาท มีปริมาณการจำหน่ายรวมของผลิตภัณฑ์เอทานอลอยู่ที่ ๔๗.8๙ ล้านลิตร โดยมีปริมาณการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เอทานอลเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิต ของโรงงานผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาล ที่อำเภอบ่อพลอย ของบริษัท เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) เป็น ๓๐๐,๐๐๐ ลิตรต่อวัน ขณะที่กำไรขั้นต้นผลิตภัณฑ์เอทานอลลดลงเนื่องจากราคาขายเฉลี่ยในไตรมาสนี้ปรับลดลง เป็นผลจากสต๊อกเอทานอลในประเทศที่อยู่ในระดับสูง และกำลังการผลิตรวมของประเทศที่เพิ่มขึ้น

        กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลการดำเนินงานลดลง แต่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม OKEA AS (OKEA) ๘ ล้านบาท ในไตรมาสนี้ OKEA ได้มีการตั้งด้อยค่า Technical Goodwill ของแหล่ง Gjoa เนื่องจากราคาขายก๊าซธรรมชาติมีทิศทางปรับตัวลดลง นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน ๙๙ ล้านบาท ของรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินบาทเทียบกับสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ

        ทั้งนี้ ในปี ๒๕๖๒ บริษัท บางจากฯ ยังคงมุ่งลงทุนพัฒนาศักยภาพ และแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างรายได้เพิ่มในทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นใช้นวัตกรรมสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาผลักดันและเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกลุ่มธุรกิจของบางจากฯ ให้เติบโตต่อเนื่อง และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศตามภารกิจหนึ่งขององค์กร โดยล่าสุดได้ผุดโครงการ Rocket Project เพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นให้ดียิ่งขึ้น และจะสร้างรายได้เพิ่มให้ได้ตามเป้าหมาย

 

 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๓ วันอังคารที่ ๒๑ - วันเสาร์ที่ ๒๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

690 1344