อุดรธานีจัดงานแสดงและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี “อุดรธานี อีคอมเมิร์ซ แฟร์” สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อแข่งขันได้ สร้างพันธมิตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ก้าวสู่เมืองของการทำอี-คอมเมิร์ซ

          เมื่อเวลา ๑๔.๓๐ น. วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ที่อุดรธานีฮอลล์ ชั้น ๔ เซ็นทรัลพลาซาอุดรธานี นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานแสดงและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี “อุดรธานี อีคอมเมิร์ซ แฟร์ : Udonthani E- Commerce Fair ภายใต้โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อแข่งขันได้ ในกิจกรรมการจัดแสดงสินค้าและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี โดยมีนายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการร่วมงาน

          นายประเสริฐ ฝ่ายชาวนา พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือของจังหวัดอุดรธานี พาณิชย์จังหวัดอุดรธานี และศูนย์เครือข่ายเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนอุดรธานี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านการตลาด สร้างพันธมิตรหรือเครือข่ายทางการค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด และขยายฐานการผลิตสินค้าของ ผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจส่งเสริมการค้าการลงทุน และสร้างโอกาสขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์ชุมชุน(OTOP) เกษตรแปรรูป ให้เข้าถึงตลาดโดยตรง เพิ่มมูลค่าการจำหน่ายและรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ Udonthani E-Commerce City

          โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๖-๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๒ มีคูหาจำหน่ายสินค้าจำนวน ๒๐ บูธ และบูธให้บริการด้าน E-Commerce มาให้บริการกว่า ๕๐ บูธ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการขาย การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี การจัดนิทรรศการ Display จุดแสดงเทคโนโลยี กิจกรรมออกบูธให้บริการด้านการทำธุรกิจ E-Commerce การเจรจาธุรกิจ การประกวด Digital Award Moc Udonthani 2019 การประกวดวาดภาพ Digital Art ในหัวข้อเกี่ยวกับ E-Commerce ประกวดการสร้างโปสเตอร์กราฟิกด้าน E-Commerce จากสินค้าในงาน และกิจกรรมประกวดการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ผ่าน Facbook 

          นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า E-Commerce คือโอกาส นอกจากตลาดออนไลน์จะเป็นเทรนด์ที่ยอดฮิตติดอันดับ และมีมูลค่าตามตลาดโลกแต่ต้องให้ชาวอุดรมีส่วนร่วมกับการเติบโตนี้ด้วย ไม่ใช่เป็นแค่ผู้ซื้อ แต่ต้องสามารถ สร้างรายได้จากระบบที่กำลังเร่งเติบโตและพัฒนานี้ด้วย ซึ่งจากผลสำรวจพฤติกรรมของการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยมีค่าเฉลี่ยมากขึ้น นั่นหมายถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป สู่การใช้เทคโนโลยีมากขึ้น โดยการซื้อของออนไลน์เป็นพฤติกรรมที่ติด ๑ ใน ๕ ของพฤติกรรมยอดฮิตของคนไทย กิจกรรมการใช้งานคือการใช้ Social media Search engine ดูหนังฟังเพลง และพฤติกรรมอื่นๆ 

          จากสถิติในปี ๒๕๖๐-๒๕๖๑ พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีการใช้ขายสินค้าและบริการมากขึ้น จาก ๑๓.๗ เปอร์เซ็นต์ เป็น ๒๔.๗ เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่า ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มตื่นตัวที่จะขายสินค้าด้วยระบบ E-Commerce มากขึ้น จากวิธีการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ ชี้ให้ทราบว่า พฤติกรรมต่างๆ เริ่มเปลี่ยนมาเป็นระบบออนไลน์มากขึ้น การซื้อขายสินค้าและบริการมีการใช้งานแบบออฟไลน์มากกว่า แต่มีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้นตามระดับความง่ายและความสะดวกสบายในการซื้อสินค้า เพราะว่าการใช้ระบบ E-Commerce เป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย และประหยัด ซื้อสินค้าง่ายๆ ด้วยแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ไม่ว่าจะซื้อสินค้าผ่าน Social Media หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงการชำระเงินง่ายๆ ผ่านบัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร และง่ายกว่านี้ที่ไม่ต้องมากดเลขที่บัญชี ใช้เพียง Qr Code หรือ Prompt pay ก็ได้ด้วย สะดวกสบายด้วยการรอรับสินค้าถึงบ้าน ด้วยบริการ Logistic ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการขนส่งจากไปรษณีย์ไทย หรือผู้ให้บริการรายอื่น จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาเข้าสู่ยุค ๔.๐ และประชาสัมพันธ์ให้จังหวัดอุดรธานีเข้าสู่ความเป็นเมืองของการทำ E-Commerce อย่างเต็มตัว

หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน ฉบับที่ ๒๕๘๓ วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ - วันจันทร์ที่ ๑๕ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒