29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

August 13,2019

เอไอเอส’ปลื้มปิดไตรมาสสอง ฟันกำไร ๘,๒๓๔ ล้านบาท เตรียมลุยทดสอบ 5G เต็มสูบ

       เอไอเอสแจงผลประกอบการ ไตรมาส ๒ กำไร ๘,๒๓๔ ล้านบาท เติบโตเป็นไตรมาสที่ ๔ ติดต่อกัน ผลจากลูกค้ามือถือที่ยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้มากที่สุด ส่วนเน็ตบ้าน AIS Fibre ยังแรงดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน พร้อมเดินหน้าทดสอบใช้งานเทคโนโลยี 5G Use Case ต่างๆ ทั่วประเทศ และประกาศจ่ายปันผล ๓.๗๘ บาทต่อหุ้น ในวันที่ ๓ กันยายนนี้ 

       “เอไอเอส” รายงานผลประกอบการ ไตรมาส ๒/๒๕๖๒ กำไรสุทธิอยู่ที่ ๘,๒๓๔ ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) เติบโตอย่างแข็งแกร่งเป็นไตรมาสที่ ๔ ติดต่อกัน โดยมีรายได้รวมเติบโตขึ้น ๕.๘% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตของลูกค้ามือถือที่ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้มากที่สุด ส่วนเน็ตบ้าน AIS Fiber ยังแรงดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ขณะเดียวกันเอไอเอสได้เดินหน้าเสริมศักยภาพให้ธุรกิจต่างๆ อย่างเห็นผล ไม่ว่าจะเป็นการเสริมแกร่งดันธุรกิจลูกค้าองค์กรจากมืออาชีพโดย CSL (ซีเอส ล็อกซอินโฟ) พร้อมเดินหน้าทดสอบการใช้งานเทคโนโลยี 5G Use Case ต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ เอไอเอสยังคงนโยบาย จ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า ๗๐% ของกำไรสุทธิ และประกาศจ่ายเงินปันผล ๓.๗๘ บาท ต่อหุ้น ในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๒         

       นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “ในวันนี้ ไม่เพียงแต่เฉพาะธุรกิจโทรคมนาคมที่ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ การสร้าง Business Transformation ในยุค Digital Disruption จึงต้องอาศัยทั้งประสบการณ์ การวางแผน และความสามารถของบุคลากร ให้พร้อมรับกับแรงกระแทกจากปัจจัยรอบด้านอย่างมั่นคงและแข็งแรง โดยตลอดช่วงไตรมาส ๒ ที่ผ่านมา เอไอเอสยังคงมุ่งมั่นทำงานหนัก เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกคน ในฐานะผู้นำ Digital Life Service Provider ได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมๆ กับการเดินหน้าสร้างโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจดิจิทัล พร้อมผนึกกำลังกับอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง และยึดหลักดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มมาโดยตลอด”

       ในโตรมาส ๒ ปี ๒๕๖๒ นี้ เอไอเอสยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตขึ้น ๕.๘% จากปีก่อน จากภาพรวมของการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อเลขหมาย ARPU (Average Revenue per User) สูงขึ้นเป็น ๒๖๓ บาทต่อเดือน และส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต ๕.๓% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจุบันเอไอเอส  ยังคงความเป็นผู้นำอย่างแข็งแกร่งโดยมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือสูงสุดในตลาดที่ ๔๑.๕ ล้านเลขหมาย ขณะที่มีสัดส่วนลูกค้าที่ใช้ 4G สูงถึง ๖๖% และมีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น ๑๑.๕ กิกะไบต์ต่อเดือน จาก ๘.๙ กิกะไบต์ต่อเดือน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน AIS Fibre ยังคงมีรายได้เติบโตต่อ เนื่องอย่างแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตกว่า ๒๖% ด้วยคุณภาพโครงข่ายและงานบริการที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยกลยุทธ์ Fixed Mobile Convergence ที่ดึงดูดใจลูกค้า จึงทำให้ปัจจุบัน AIS Fiber มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น ๘๕๕,๔๐๐ ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ ๕๗ จังหวัดทั่วประเทศ และยังคงเน้นย้ำเป้าหมายจำนวนลูกค้า ๑ ล้านรายภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ผนวกกับการควบคุมต้นทุนต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาส ๒/๒๕๖๒ เอไอเอส มีกำไรสุทธิอยู่ที่ ๘,๒๓๔ ล้านบาท (ไม่รวมรายการพิเศษ) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ๒.๙% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ๘.๑% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา คิดเป็นกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสี่ไตรมาสติดต่อกัน โดยยังคงคาดการณ์รายได้การให้บริการเติบโตทั้งปีที่ ๔-๖% และตั้งเป้าอัตรากำไร EBITDA ทั้งปีใกล้เคียงกับปีก่อนที่ประมาณ ๔๒-๔๔% พร้อมจัดสรรงบลงทุน ๒๐,๐๐๐–๒๕,๐๐๐ ล้านบาทสำหรับลงทุนทั้งในโครงข่าย 4G และไฟเบอร์

       นอกจากนี้ เอไอเอสได้วางรากฐานต่อยอดการเติบโตในอนาคตโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมสู่ 5G ได้แก่ ๑.การพัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อร่วมศึกษาวิจัย ค้นคว้า และทดลองทดสอบ ๒.การรับจัดสรรคลื่นความถี่ 700MHz เพื่อก้าวสู่ 5G โดยจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในเดือนตุลาคมปีหน้า ซึ่งคลื่นความถี่ 700MHz ถือเป็นคลื่นความถี่มาตรฐานของเทคโนโลยี 5G ในย่านความถี่ต่ำที่มีคุณสมบัติเด่นในด้านความครอบคลุม จึงถือเป็นการสร้างความพร้อมสำหรับการให้บริการ 5G ในอีก ๒-๓ ปีข้างหน้าได้เป็นอย่างดี

       ๓.ขยายตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร จากความแข็งแกร่งของ AIS Businees ผนึกเข้ากับ CSL ที่มีความเชี่ยวชาญในฐานะ ผู้ให้บริการ One Stop ICT Srevice แบบครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ 3Ss ประกอบด้วย Solutions, Services และ System  Integration สนับสนุนการให้บริการ Data Center และ Cloud ให้แก่ธุรกิจองค์กรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และ ๔.พัฒนาบริการด้าน IoT เพื่อส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจไทย โดยนำโซลูชัน NB-IoT Motor Tracker เข้ามาเสริม ขีดความสามารถให้กับธุรกิจประกันภัยรถยนต์ โดยบริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด เป็นครั้งแรก ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาบริการดิจิทัลที่ดีที่สุด สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กรในทุกอุตสาหกรรม

       “และสิ่งที่สำคัญไปกว่าความสำเร็จในแง่ธุรกิจ เอไอเอสในฐานะภาคเอกชนของไทย ยังตระหนักถึงการได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศชาติและดูแลคุณภาพชีวิตคนไทยในสังคมยุคดิจิทัล ผ่านโครงการ อุ่นใจไซเบอร์ ภายใต้แนวคิด “ถ้าเราทุกคนคือเครือข่าย” เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความรู้เท่าทันดิจิทัล ผ่านเครื่องมือแบบทดสอบ DQ รวมไปถึงได้ต่อยอด “ภารกิจคิดเผื่อ” องค์ความรู้สู่ระดับภูมิภาคในงาน AIS ACADEMY for THAIs: to the Region ซึ่งถือว่าประสบ ความสำเร็จอย่างมากที่จังหวัดเชียงใหม่ และเตรียมจะจัดขึ้นต่อเนื่องที่จังหวัดขอนแก่นในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น” นายสมชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๕๘๘ วันอาทิตย์ที่ ๑๑- วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

 


694 1338