กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ ๕ พาณิชย์จังหวัด พาชุมชนต้นแบบ ‘Smart village’ บุกเปิดตัว “ชุมชนนาข่า ชุมชนใบชาดอยแม่สลอง ชุมชนด่านเกวียน ชุมชนบ้านวังส้มซ่า และชุมชนควนขนุน” หลังผ่านการปรับภาพลักษณ์ให้ผลิตภัณฑ์ และเคี่ยวด้านการทาธุรกิจอย่างเข้มข้น พร้อมแล้วที่จะออกสู่ตลาดแบบเปิดกว้างทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ 

นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุดรธานี เชียงราย นครราชสีมา พิษณุโลก และพัทลุง จัดกิจกรรม Show case “Smart Village Online” ระหว่างวันที่ ๒๖-๒๘ กันยายน ๒๕๖๒ ณ ลาน Atrium ชั้น ๓ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้คัดเลือก ๕ ชุมชนที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมพัฒนาต้นแบบตามโครงการ Smart Village Online ซึ่งชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการพัฒนาธุรกิจตลอดกระบวนการเริ่มตั้งแต่การสร้างผู้ประกอบการที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นในชุมชน สร้างอาชีพให้ตรงกับความถนัดของคนในชุมชน จากนั้นได้ปรับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ในชุมชนให้สอดคล้องกับความต้องการและ Lifestyle ของตลาดในยุคปัจจุบัน แต่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนนั้นได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นความท้าทายในการทำงานอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงจากการทำธุรกิจแบบเดิมของคนในชุมชนที่ยึดถือกันมายาวนาน ให้ผลักดันไปสู่การทำตลาดแบบมืออาชีพ ที่ต้องอาศัยทักษะและการเรียนรู้จากพฤติกรรมของผู้บริโภค (Digital Transformation) เป็นหลัก รวมไปถึงการสื่อสารเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ที่เน้นการนำเสนอคุณค่าและอัตลักษณ์ให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค และสามารถนำผลิตภัณฑ์เข้าไปสู่การตลาดในช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้

รองอธิบดี กล่าวต่อว่า “จากผลงานการผลักดันชุมชนที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าสู่การเป็น Smart Village Online นับเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เราสามารถพาทั้ง ๕ ชุมชนให้กลายไปเป็นผู้ประกอบการแบบมืออาชีพ ซึ่งได้รับการฝึกภาคปฏิบัติ ในวิธีการนำผลิตภัณฑ์เข้าไปเสนอขายบนโลกออนไลน์ เทคนิคการถ่ายภาพ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านเรื่องราว (Story Telling) และการสื่อสารทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดซื้อ กระทั่งปัจจุบันสามารถขยายช่องทางการตลาดเข้าสู่แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ระดับโลกอย่าง Lazada ได้สาเร็จ ประกอบกับเพิ่มมูลค่าการซื้อขายให้กับชุมชน ควบคู่ไปกับการขายผ่านทางหน้าร้านแบบปกติ (Omni channel) นำมาสู่การจัดงานประกาศความสาเร็จในครั้งนี้ ที่กรมฯ ได้พาผู้ประกอบการมาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และโชว์ผลงานที่ผ่านการพัฒนาอย่างเข้มข้น ประกอบไปด้วย ๕ ชุมชน ดังนี้ ๑) ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง ๒) ชุมชนใบชาดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ผลิตภัณฑ์ใบชา ๓) ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา ๔) ชุมชนบ้านวังส้มซ่า จังหวัดพิษณุโลก ผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า และ ๕) ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมกระจูด” 

“โครงการ Smart Village Online มีจุดเริ่มต้นมาจากความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก โดยนำแนวคิดจากหมู่บ้านเถาเป่า (Taobao Village Model) มาปรับใช้ ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่ประเทศจีนสามารถแก้ปัญหาความยากจนในชุมชนที่ห่างไกล ด้วยการใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และระบบโลจิสติกส์ ในการกระจายผลผลิตทางการเกษตร สินค้าชุมชน และท้องถิ่นให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกพื้นที่ได้มากยิ่งขึ้น จนประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สำหรับแนวทางการพัฒนาต่อไป กรมฯ จะเดินหน้าสร้างชุมชนที่มีความพร้อมให้ขยายจำนวนออกไปทั่วประเทศ พร้อมผลักดันให้ขยายช่องทางการตลาดไปสู่ตลาดออฟไลน์แหล่งใหญ่ของประเทศ อาทิ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน และเส้นทางท่องเที่ยวต่างๆ ประกอบกับตลาดออนไลน์ในต่างประเทศ ผ่าน www.Thaitrade.com โครงการนี้ได้ตั้งเป้าความสำเร็จว่า จะช่วยสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน โดยใช้ความมีอัตลักษณ์ของชุมชนเป็นจุดขาย สร้างการจดจำชุมชนเชื่อมโยงสู่การท่องเที่ยว เกิดระบบการกระจายสินค้าผ่านช่องทางการค้าออนไลน์และออฟไลน์ในรูปแบบ Omni Channel ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าชุมชนได้สะดวก และที่สำคัญส่งผลให้ชุมชนที่ห่างไกลเกิดการพัฒนาธุรกิจให้ทันต่อยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอีกด้วย” รองอธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๕๙๗ วันพุธที่ ๙ - วันอังคารที่ ๑๕ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒