บุกแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่ดินรวมหัวกับพวก เรียกรับเงินรายละหลักหมื่นถึงแสนบาท อ้างจะนำไปเป็นค่าดำเนินการออกโฉนดที่ดิน เป็นเงินร่วมล้าน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”

                เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๐ ร.อ.ทัศนะชัย จันทร์แว่น หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ที่ ๒๐๑ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ (นครราชสีมา) พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ม.๒ บ้านหนองเต็ง และผู้ใหญ่บ้าน ม.๓ บ้านหนองตะคร้อ ต.เมืองฝ้าย อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้นำประชาชน ๒ หมู่บ้านพร้อมหลักฐานสลิปการโอนเงิน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหงส์ ให้ดำเนินคดีกับนางวนิดา ปลอดเขต เจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินที่มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการในพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายสมประสงค์ แก้วจำปา ที่อ้างตัวเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดิน และพวก หลังมีพฤติการณ์ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยเหลือให้ออกเอกสารสิทธิ์จาก สค.๑ เป็นโฉนดได้ หากใครอยากออกโฉนดก็ให้จ่ายเงินค่าดำเนินการ เช่น ค่าจับ GPS ปักหมุดและส่องกล้อง โดยมีประชาชนหลงเชื่อจ่ายเงินให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทั้งจ่ายเป็นเงินสด และโอนเข้าบัญชีธนาคาร ตั้งแต่รายละหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท รวมกว่า ๑๐ คน รวมเป็นเงินที่ถูกหลอกเกือบล้านบาท แต่หลังจากจ่ายเงินไปแล้วนานกว่า ๒ เดือน ก็ไม่มีใครได้ออกโฉนดตามที่กลุ่มบุคคลกล่าวอ้าง แต่กลับมาเรียกเงินจากประชาชนเพิ่มอีกเรื่อยๆ จึงเชื่อว่าถูกหลอกจึงได้พากันมาแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว

                ทั้งนี้ประชาชนยังระบุด้วยว่า สาเหตุที่หลงเชื่อกลุ่มแก๊งดังกล่าวเพราะมีผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ช่วยพูดจาหว่านล้อม ให้ที่พักพิง และใช้ตำแหน่งการันตีเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อ นอกจากนั้นนายสมประสงค์ หนึ่งในแก๊งดังกล่าวยังได้โทรศัพท์มาข่มขู่ ร.อ.ทัศนะชัย  หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านจิตวิทยา ที่มารับเรื่องร้องและช่วยเหลือประชาชนที่ถูกหลอกด้วยว่า “เดี๋ยวโดนย้ายแน่” ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์ที่ไม่เกรงกลัวความผิดและกฎหมายบ้านเมือง

                นายอาน แผ้วพลสง และนางจำรัส บุญมี ประชาชนที่ถูกแก๊งดังกล่าวหลอกเรียกรับเงิน โดยอ้างจะสามารถช่วยให้ออกเอกสารสิทธิ์จาก สค.๑ เป็นโฉนดที่ดินให้ได้จึงหลงเชื่อ เพราะหนึ่งในแก๊งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมด้วย ทั้งยังมีผู้นำท้องถิ่นการันตีรับรองอีกทางหนึ่ง ทำให้ประชาชนหลงเชื่อยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มแก๊งดังกล่าว แต่พอรู้ว่าถูกหลอกไม่ได้ออกโฉนดจริงตามที่มีการกล่าวอ้าง จึงได้พากันเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวตามกฎหมาย

                ร.อ.ทัศนะชัย จันทร์แว่น หัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ที่ ๒๐๑ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒  (นครราชสีมา) ระบุว่า มีหน้าที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ อ.หนองหงส์ ชำนิ และนางรอง หลังจากมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ต.เมืองฝ้าย  อ.หนองหงส์ก็ได้รับแจ้งจากประชาชนมีบุคคลกลุ่มหนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่ดิน และมีเจ้าหน้าที่ดินจากกรมที่ดินซึ่งอ้างว่ามาช่วยราชการในพื้นที่อ.ลำปลายมาศ ชื่อนางวนิดา ปลอดเขต มาหว่านล้อมหลอกลวงว่าจะสามารถช่วยเหลือออกเอกสารสิทธิ์จาก สค.๑ เป็นโฉนดที่ดินให้ได้ โดยมีการเรียกเก็บเงินจากประชาชนรายละตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนบาท จึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบว่า พฤติกรรมของกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน พร้อมได้ประสานข้อมูลกับทางเจ้าพนักงานที่ดิน อ.ลำปลายมาศ ถึงขั้นตอนการออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ในที่ดินจะต้องยื่นแสดงความจำนงที่สำนักงานที่ดิน การเก็บเงิน และสาเหตุที่ประชาชนส่วนใหญ่หลงเชื่อยอมจ่ายเงิน เนื่องจากผู้ที่มาหลอกลวงเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดิน ประกอบกับมีผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ใช้ตำแหน่งเอื้อให้กับบุคคลดังกล่าว ทั้งช่วยพูดจาหว่านล้อม ให้ที่พักพิงด้วย ซึ่งหลังจากพาประชาชนแจ้งความแล้ว ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อดำเนินการกับบุคคลดังกล่าวตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ให้ไปหลอกลวงประชาชนในพื้นที่อื่นซ้ำอีก

                ต่อมาวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๐ ร.ต.อ. อนุเปรม ทุมนานอก พนักงานสอบสวน สภ. หนองหงส์ ก็ได้เรียกสอบปากคำประชาชน และพยานเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกผู้ที่ถูกแจ้งความกล่าวหา มาสอบปากคำตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามจากพฤติการณ์ตามคำให้การของผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ พบว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน แต่ก็ต้องทำการสอบปากคำทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอีกครั้ง

                ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๐ เจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการด้านจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ที่ ๒๐๑ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ (นครราชสีมา) และร.ต.อ.อนุเปรม ทุมนานอก พนักงานสอบสวน สภ.หนองหงส์ ได้ลงพื้นที่สอบปากคำประชาชนที่ถูกหลอก และพยาน เพื่อหาข้อเท็จจริงและรวบรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอน ส่วนพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมหลักฐานประกอบสำนวนคดี ก่อนจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ ซึ่งจากคำให้การของผู้เสียหาย และข้อมูลหลักฐานเบื้องต้นพบว่า ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์เข้าข่ายฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน โดยการหลอกลวงว่าสามารถจะทำ สค.๑ เป็นโฉนดที่ดินได้ หากประชาชนรายใดหลงเชื่อก็จะเรียกรับเงิน อ้างเป็นค่าดำเนินการโดยไม่มีใบเสร็จรับเงิน จากนั้นก็จะทำทีออกมารังวัดที่ ส่องกล้อง และ  ปักหมุดคล้ายกับการรังวัดที่ทั่วไป แต่ส่วนใหญ่กลุ่มบุคคลดังกล่าว จะออกมานอกเวลาราชการในช่วงเย็นถึงค่ำและมาในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ทั้งพบว่าห้วงที่เข้ามาดำเนินการ นางวนิดา นายช่างรังวัดชำนาญงานจากกรมที่ดิน ที่มาช่วยราชการในพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ  ได้มีคำสั่งย้ายกลับกรมที่ดินแล้วแต่ยังมาดำเนินการอีก ซึ่งส่อถึงเจตนากระทำไม่ถูกต้อง

                จากนั้นทหาร และพนักงานสอบสวน ก็ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ที่หมู่บ้านหนองตะคร้อ ก็พบมีการปักหลักหมุดในที่ดินของประชาชนรายที่ถูกหลอกจริง พนักงานสอบสวนจึงได้เก็บหลักหมุดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งให้ประชาชนรายที่ถูกหลอกในลักษณะดังกล่าว เข้าแจ้งความเพิ่มเติม เพื่อจะได้เอาผิดกับบุคคลดังกล่าว เบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๑๐ วันจันทร์ที่ ๑๖ - วันศุกร์ที่ ๒๐ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๐