July 18,2017
ประธานเครือข่ายสวนยางอีสาน แนะชะลอนำยางออกตลาด รัฐบาลขยับขึ้น ๖๐ บ./ก.ก.
แนะเกษตรกรชะลอนำยางออกสู่ตลาดอีก ๑–๒ สัปดาห์ หลังจากรัฐบาลออกมาระบุว่า ราคายางจะขยับขึ้นต่อเนื่องและสูงถึง ก.ก.ละ ๖๐ บาท จากเมื่อช่วง ๒ เดือนที่ผ่านมาราคายางดิ่งถึง ๒๐ บาท ปัจจุบันยางแผ่นดิบเหลือเพียง ก.ก.ละ ๔๙ บาท
เมื่อวันที่ ๑๒ กรกฎาคมที่ผ่านมา นายวิชิต ลี้ประเสริฐ ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดบุรีรัมย์ และในฐานะประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคอีสานตอนล่าง ได้ออกมาแนะให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราทั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และหลายจังหวัดในภาคอีสานตอนล่าง ได้ชะลอนำผลผลิตยางออกสู่ตลาดในช่วงนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาระบุว่าราคายางจะขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีก ๑–๒ สัปดาห์ และคาดว่ายางแผ่นดิบจะสูงถึงกิโลกรัมละ ๖๐ บาท หลังมีการร่วมหารือกับ ๓ ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางที่ตกต่ำให้สูงขึ้นหรือเป็นไปตามกลไกตลาด จากเมื่อช่วง ๒ เดือนที่ผ่านมาราคายางตกต่ำร่วงลงถึง ๒๐ บาท ปัจจุบันก็ยังราคาต่ำโดยยางแผ่นดิบเหลือกิโลกรัมละ ๔๙ บาท และยางก้อนถ้วยเหลือกิโลกรัมละ ๒๔ บาทเท่านั้น
“หากเกษตรกรขายยางในช่วงนี้ก็อาจจะเสียโอกาสได้ราคาที่ไม่คุ้มทุน จึงอยากให้เกษตรกรชะลอดูราคาอีก ๑–๒ สัปดาห์ตามที่รัฐบาลระบุ ก็จะเป็นผลดีกับตัวเกษตรกรเอง แต่หากเกษตรกรรายใดมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน ก็ควรจะนำออกขายเท่าที่จำเป็นก่อนเพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสที่จะขายยางได้ในราคาที่สูงขึ้นกว่านี้ จากข้อมูลพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า ๒๗๐,๐๐๐ ไร่ เปิดกรีดแล้วประมาณ ๒๑๐,๐๐๐ ไร่ ผลผลิตน้ำยางกว่า ๖๐,๐๐๐ ตัน”
นายวิชิต ลี้ประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของตนเองมีพื้นที่ปลูกยางอยู่ ๑,๐๐๐ ไร่ ขณะนี้เปิดกรีดแล้ว ๖๐๐ ไร่ มีประชาชนที่มาดูแลสวนและกรีดยาง ๑๖ ครอบครัว ขณะนี้ยังมียางแผ่นดิบที่เก็บไว้ในสต๊อกยังไม่นำออกขายกว่า ๒๐ ตัน เนื่องจากตอนนี้ราคายังต่ำ แต่คาดว่าอีก ๑–๒ สัปดาห์หากราคายางขยับขึ้นตามที่รัฐบาลประกาศก็จะทยอยนำยางออกขายเช่นกัน
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๔๕ วันอาทิตย์ที่ ๑๖ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
700 1,347