26thApril

26thApril

26thApril

 

March 09,2018

พี่ชาย ฟันน้องหน้าแหก พร้อมจุดไฟเผาบ้านวอด เพียงขอเงินที่บ้านแล้วไม่ได้

           เมื่อเวลา ๐๕.๓๐ น. วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ พ.ต.ท มนต์ศักดิ์  แก้วอ่อน พนักงานสอบสวน สภ.เมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งขอความช่วยเหลือให้ไประงับเหตุชายคลุ้มคลั่งอาละวาดจะทำร้ายผู้อื่นที่บ้านเลขที่ ๑๓๙ บ้านบึงแสนสุข หมู่ ๗ ต.โพธิ์กลาง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจให้รีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกสร้างเป็นลักษณะโกดังเก็บของ พบชายสูงวัยทราบชื่อคือนายฉลอง ไพบูลย์สรุการ อายุ ๗๐ ปี แสดงตนเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้บอกเล่าเหตุการณ์ระบุผู้ก่อเหตุ คือนายจตุพร ไพบูลย์สุรการ อายุ ๔๐ ปี ลูกชายของตน มีอาการป่วยทางจิตเวชแต่ไม่ได้รับยามาทานนานนับปี ทำให้มีอาการกำเริบ ทันทีที่นายจุตพร เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รีบวิ่งเข้าไปหลบซ่อนภายในบ้านพร้อมปิดประตูด้านในขังตัวเองและไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปได้ โดยแสดงอาการคลุ้มคลั่งส่งเสียงร้องโวยวายตลอดเวลา นายฉลอง จึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่และไทยมุงเดินทางกลับก่อน เกรงหากลูกชายเห็นคนอื่น อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยขอพูดคุยกันเอง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนบ้านจึงพากันแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน


           เวลาผ่านไปร่วม ๓ ชั่วโมง นายจตุพร เริ่มมีอาการสงบ นายจตุรงค์  ไพบูลย์สรุการ อายุ ๓๕ ปี น้องชาย ได้ฉวยโอกาส โดยพยายามจะปลดล็อคประตูหน้าบ้าน เพื่อเข้าไปในบ้านพัก นายจตุพร ไม่ยอม จึงใช้มีดทำครัวฟันที่ใบหน้าน้องชายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ต้องรีบนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา จากนั้นนายจตุพร  ได้คลุ้มคลั่งนำเสื้อผ้ามาก่อเป็นกองแล้วจุดไฟเผาก่อนจะรีบวิ่งหนีออกทางด้านหลังบ้าน เป็นเหตุให้เพลิงลุกลามไหม้บ้าน รถดับเพลิงของเทศบาลตำบล (ทต.) โพธิ์กลาง อ.เมือง และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช ได้มาระงับเหตุเพลิงไหม้ ท่ามกลางอุปสรรคไม่สามารถเข้าไปฉีดน้ำที่ต้นเพลิงได้และมีลมหนาวพัดกรรโชก เพลิงจึงลุกไหม้บ้านทั้งหลังอย่างรวดเร็ว สิ่งของเครื่องใช้ไม่สามารถขนออกมาได้แม้นแต่ชิ้นเดียว มูลค่าความเสียหายกว่า ๓ แสนบาท สร้างความน่าเวทนาสงสารในชะตากรรมของครอบครัวนายฉลอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังออกติดตามนายจตุพร  ผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า คาดจะได้ตัวในเร็วๆ นี้

 


698 1345