‘อนุทิน ชาญวีรกุล’ นำทัพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โคราช ๑๔ เขต ขอพรย่าโมให้ชนะทุกเขต ย้ำแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ตามสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” ไม่มีจองเก้าอี้รัฐมนตรี หวังวาสนาเป็น ส.ส.รับใช้ประชาชนก็พอ

          เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หรือกำนันป้อ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด ในฐานะกรรมการบริหารพรรค นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก หรือหมอแหยง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายยุทธศาสตร์ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.พรรคชาติพัฒนา ในฐานะที่ปรึกษาทั่วไป ว่าที่ ส.ส บัญชีรายชื่อ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง ๑๔ เขต นครราชสีมา เดินทางมากราบไหว้สักการะขอพรท้าวสุรนารี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราช ท่ามกลางประชาชนกว่า ๑,๐๐๐ คนที่รอให้กำลังใจ มอบช่อดอกไม้ พร้อมส่งเสียง “เสี่ยหนู สู้ สู้” “ภูมิใจไทย สู้ สู้” รวมทั้งประชาชนขอถ่ายภาพกันตลอดเวลา

          นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนอธิษฐานขอพรย่าโมให้ชนะทุกเขตและทุกคนมีกำลังใจอย่าถดถอย ยุทธศาสตร์การหาเสียงคือ แก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยจะเล่นอยู่ในเกม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ทุกประการ และยืนยันว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยแล้วจะไม่สร้างความแตกแยกในสังคมแน่นอน โดยตนได้ปลูกฝังแนวความคิดให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทยทั้งหมดว่า ทุกคนที่เข้ามานี้ต้องคิดไว้เสมอว่า ไม่ได้ต้องการแสวงหาอำนาจ หรือเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ถ้าต้องการตรงนั้นเชิญที่อื่นเลย เพราะพรรคภูมิใจไทยนี้ เป็นแหล่งรวมของผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ และมีความรักชาติบ้านเมือง ต้องการเห็นประเทศชาติ และคนไทยทุกคน มีความสุขสบาย รวมทั้งได้รับการปฏิบัติจากภาครัฐโดยเสมอภาค ได้รับการปฏิบัติจากภาครัฐในฐานะผู้รับบริการ ไม่ใช่มาขอใช้บริการ

          ส่วนกระแสข่าว มีการจองตำแหน่งรัฐมนตรีกันแล้วนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนขอบอกว่า ขณะนี้ขอแค่มีวาสนาเข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชน มี ส.ส.เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ก็พอใจแล้ว เพราะตำแหน่งที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคนภาคภูมิใจมากที่สุด มีเกียรติมากที่สุด และมีอำนาจมากที่สุด คือตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นั่นเอง ไม่ใช่ตำแหน่งอื่นใดเลย ส่วนสโลแกนที่ว่า “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” นั้น ไม่ใช่จะเข้าไปลดอำนาจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการลดอำนาจที่กฎหมายล้าหลังแล้ว กฎหมายที่เหมาะกับยุคสมัยเก่า แต่ไม่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน ที่อยู่ในโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสารที่รวดเร็ว ดังนั้นพรรคภูมิใจไทยหวังจะเข้าไปแก้ไขกฎหมายเหล่านั้น ให้สอดคล้องกับยุคสมัยปัจจุบัน ให้พี่น้องประชาชนสามารถมีอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้พี่น้องประชาชน สามารถนำไปสร้างรายได้ให้กับตนเองอย่างสุจริต แต่ไม่สามารถทำได้ เพียงเพราะติดขัดแค่กฎหมายเท่านั้น เราต้องแก้ไขกฎหมายเพื่อให้โอกาสกับประชาชนได้ทำมาหากินอย่างสุจริต 

          ต่อข้อถามว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่? นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงตรงนั้น ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ส่วนกลยุทธ์ที่จะชนะใจคนโคราชคือ แก้ไขปัญหาปากท้องทุกๆ อย่าง ทำให้คนสัญจรสะดวก พืชผลดี ลูกหลานได้เรียนหนังสือ พรรคภูมิใจไทยมีรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ มากที่สุด เข้าถึงปัญหาปากท้องจริงๆ ไม่ใช่พูดแต่ลมปาก มือเปื้อนโคลน เปื้อนดิน นี่คือพรรคภูมิใจไทยทำงานอย่างจริงใจ

เปิดตัว ๑๔ ผู้สมัคร ส.ส.แบ่งเขต

          ต่อมาเวลา ๑๑.๐๐ น. ที่เทอร์มินอล ๒๑ โคราช พรรคภูมิใจไทยทำการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง ๑๔ เขต จังหวัดนครราชสีมา ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจกว่า ๑,๐๐๐ คน ประกอบด้วย เขต ๑ นายอดุลย์ อยู่ยืน ส.อบจ.อ.เมือง เขต ๒, เขต ๒ นายลบพาล ธีระบุตร อดีตรองนายก อบจ.นครราชสีมา (สมัย นพ.สำเริงเป็นนายกอบจ.), เขต ๓ นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ส.อบจ.เขตอำเภอสูงเนิน และอดีตนายกอบจ.นครราช สีมา, เขต ๔ นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล อดีตส.อบจ.อำเภอโนนสูง, เขต ๕ นายพิเชฏฐ์ ชัยศรี ส.อบจ.อ.บัวใหญ่, เขต ๖ นายราเมศ เรืองธนา      นุรักษ์ อดีตส.อบจ., เขต ๗ นายกลวัชร อึ้งสวัสดิ์ ส.อบจ.อ.ชุมพวง

          เขต ๘ นายพีรพร สุวรรณฉวี ลูกชายร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกอบจ., เขต ๙ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย, เขต ๑๐ นายพรชัย อำนวยทรัพย์ ส.อบจ.อ.ครบุรี เขต ๒, เขต ๑๑ นายนรเสฏฐ์  ศิริโรจนกุล ทายาทโรงแป้งมันเอี่ยมธงชัย, เขต ๑๒ นายมิชา พงษ์สว่าง นายกอบต.หนองสาหร่าย อําเภอปากช่อง, เขต ๑๓ นายวิสิทธิ์  พิทยาภรณ์ อดีต ส.ส.เขต อ.ด่านขุนทด นครราช สีมา และ เขต ๑๔ นายไพศาล เกียรติชัยพัฒน กํานันแหนบทองคํา ปี ๒๕๕๗ 

          นอกจากนี้ ยังมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทยมาร่วมด้วย อาทิ นายวีระศักดิ์ (กำนันป้อ) หวังศุภกิจโกศล เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง อ.เสิงสาง, นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา, นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา และนายพลพีร์ สุวรรณฉวี อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา

          สำหรับนโยบายพรรคฯ จะดำเนินงาน ๖ ด้าน ได้แก่ ๑.เกษตรกร จัดระบบผลประโยชน์แบ่งปัน ในพืชเศรษฐกิจ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง เช่นเดียวกับอ้อยและน้ำตาล สนับสนุนพลังงานทดแทน เพื่อให้ปาล์ม มันสำปะหลังราคาดีขึ้น ๒.ศึกษา พักหนี้ กยศ.๕ ปี มีผู้กู้อยู่ขณะนี้ ๕ ล้านคน หาทางให้ผู้กู้มีงานทำรูปแบบใหม่ๆ ปลดภาระผู้ค้ำประกันทันที มีผู้ค้ำประกัน ๑๐ ล้านคน เรียนฟรีตลอดชีวิต ด้วยสถาบันการศึกษาออนไลน์ ๓.สาธารณสุข ลดความแออัดของโรงพยาบาล ทีมหมอครอบครัวใกล้บ้านใกล้ใจ อสม.ภูมิใจ รับใช้ประชาชน อสม.ครอบครัว สร้างพัฒนาเป็นหมอประจำหมู่บ้าน มีเงินเดือนเหมือนข้าราชการทั่วไป ๔.ท่องเที่ยวและบริการ สนับสนุนดิจิทัลแพลตฟอร์ม แอปพลิเคชัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว, บุรีรัมย์โมเดล และเศรษฐกิจแบ่งปัน ๕.โลกยุคใหม่ สร้างโอกาสสร้างอาชีพ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างงานรูปแบบใหม่ให้ประชาชน, สร้างแพลตฟอร์มเพื่อให้เกิดการทำงานรวดเร็ว สะดวก และ ๖.ภาคใต้ เขตเศรษฐกิจพิเศษ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนเสียงปืนเป็นเสียงเครื่องจักร, ประมงขนาดเล็ก และตั้งโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันปาล์ม

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๔๕ วันพุธที่ ๒๖ - วันจันทร์ที่ ๓๑ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑