19thApril

19thApril

19thApril

 

October 24,2019

สภาเทศบาลคว่ำงบ ๓ ล้าน สร้างอาคารเรียนไร้มาตรฐาน ไม่ฟ้องเรียกค่าเสียหายผู้รับเหมา

ทต.หนองไผ่ล้อมเดือด “นายกท็อป” ขอมติเบิกเงินเพิ่ม ๓ ล้าน ก่อสร้างอาคารเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานต่อ อ้างผู้รับเหมาทิ้งงาน ส.ท.พร้อมใจยกมือคว่ำญัตติ ด้าน “ส.ท.เดชนะ” จวกอาคารไม่ผ่านเกณฑ์ยังเบิกเงินให้ถึง ๓ งวด และไม่มีการฟ้องร้อง เชื่อเรื่องนี้มีเงื่อนงำ

 

เมื่อเวลา ๑๓.๓๐ น. วันที่ ๑๕ ตุลาคม ที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางเบญจวรรณ วะลัยศรี ประธานสภา ทต.หนองไผ่ล้อม เปิดการประชุมสมัยวิสามัญ สมัยที่ ๑ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ โดยมีนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีฯ พร้อมนายกิตติศักดิ์ พิลาศเอมอร ปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และสมาชิกสภารวม ๑๑ คน จากจำนวน ๑๒ คน รวมทั้งหัวหน้าส่วนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

ในระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องเสนอใหม่ ๕.๑ นายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีตำบลหนองไผ่ล้อม ได้ขออนุมัติโอนงบประมาณเพื่อตั้งจ่ายรายการใหม่งบประจำปี ๒๕๖๓ โครงการก่อสร้างอาคารเรียน ๔ ชั้น ๑๒ ห้องเรียน สน.ศท.๔/๑๒ โรงเรียนโยธินนุกูล สถานศึกษาที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนเฉพาะกิจจำนวน ๙,๖๖๗,๐๐๐ บาท จากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นในปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ผู้รับจ้างบริษัท บิลเลียน ครีเอท ซัคเซส จำกัด สัญญาจ้างเลขที่ ๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๘ และแนบสัญญาจ้างแก้ไขเพิ่มเติม ได้ดำเนินการล่าช้าและไม่แล้วเสร็จ โดยก่อสร้างเสร็จเพียงงวดที่ ๓ คือเสาชั้น ๑ และพื้นอาคารชั้น ๒ จึงส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง พิจารณาให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงานและสรรหาผู้รับจ้างรายใหม่ ประกาศ e-bidding เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ แต่ไม่มีผู้รับจ้างรายใดให้ความสนใจ ทั้งนี้ปรากฏชัดแจ้งผู้รับจ้างคำนวณเห็นถึงการขาดทุน ทำให้ไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ ปัญหาสำคัญความชำรุดบกพร่องเสียหายจากการทิ้งงานกว่า ๒ ปี จึงจ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) สำรวจความเสียหาย โดยทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีตอาคารเรียน เมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ พบความมั่นคงแข็งแรงของเสาคอนกรีตต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานทุกจุด จำเป็นต้องรื้อถอนอาคารโครงสร้างชั้นที่ ๑-๒ รวมทั้งก่อสร้างทดแทน เป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง ทั้งเสียงบก่อสร้าง รวมค่าจ้าง มทส.มาทดสอบความชำรุด ซึ่งเป็นการบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ จึงได้ส่งงบที่เหลือคืนให้กรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น หากดำเนินการล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อเงื่อนเวลา จึงขอมติให้สภาฯ โปรดพิจารณาการจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยโอนงบประมาณรายการอื่นมาตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่รวม ๓ ล้านบาท สมทบงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียนที่ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุน

ก่อนขอมติ สมาชิกสภาเทศบาลฯ ได้ผลัดเปลี่ยนอภิปรายชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการตรวจรับงานที่บกพร่องและเป็นเวลากว่า ๒ ปี มีความพยายามยื้อเวลา รวมทั้งได้สอบถามการดำเนินการเอาผิดทางวินัยและกฎหมายกับคณะกรรมการตรวจการจ้าง ซึ่งมีนายวัลลภ ฉันงูเหลือม ผู้อำนวยการกองช่าง ในฐานะประธานกรรมการ พร้อมนายไพบูลย์ พฤกษ์พนาเวศ นายกเทศมนตรีฯ นายกิตติศักดิ์ พิลาศเอมอร ปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม และพวกเป็นกรรมการ ได้ใช้สิทธิ์อภิปรายแก้ต่าง ทำให้มีการปะทะคารมกันตลอดเวลาร่วม ๓ ชั่วโมง กระทั่งได้เสนอขอมติสภาเห็นชอบการอนุมติเงินจัดสรรปรากฏ ส.ท.ทั้ง ๑๑ คน ไม่เห็นด้วย

นายกิตติศักดิ์ พิลาศเอมอร ปลัดเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญที่ไม่ดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยและการละเมิด เนื่องจากข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ ต้องรอให้ผู้รับจ้างรายใหม่ประเมินตัวเลขความเสียหายก่อน มิเช่นนั้นจะไม่ครบองค์ประกอบในการเอาผิดตามกระบวนการร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งต้องดำเนินอย่างแน่นอนมิเช่นนั้นจะถูกกล่าวหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อ ส.ท.ไม่เห็นชอบให้อนุมัติงบ ขั้นตอนต่อไปต้องแจ้งให้กรมส่งเสริมฯ รับทราบ แต่สิ่งสำคัญที่สุดอาคารเรียน ๔ ชั้น ถูกปล่อยทิ้งไว้ นักเรียนและครูก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ทำให้เสียโอกาสและเสียงบที่ได้จากภาษีประชาชน

ล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายเดชนะ ประเสริฐสังข์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม ให้สัมภาษณ์กับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “การก่อสร้างอาคารเรียน ๔ ชั้น ๑๒ ห้องเรียน ของโรงเรียนโยธิน นุกูล เป็นการดำเนินการโดยใช้งบส่วนกลางที่ได้รับการอุดหนุนมา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเงินภาษีของเทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม โดยการก่อสร้างนี้เป็นการดำเนินการของฝ่ายบริหาร ส.ท.ก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไร มีเพียงหน้าที่คอยตรวจสอบการทำงานเท่านั้น ในขณะนี้ฝ่ายบริหารทำงานที่ผิดพลาด โดยบอกว่าผู้รับเหมาทิ้งงาน เราก็ถามว่า ทำไมไม่ฟ้องร้อง เวลาก็ผ่านมาจนจะครบ ๓ ปีแล้ว ฝ่ายบริหารจึงไปหาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบตัวอาคารที่ก่อสร้างค้างไว้ ก็ได้ ดร.ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) มีค่าใช้จ่าย ๑๔๘,๕๐๐ บาท งบตรงนี้เป็นภาษีของเทศบาลหนองไผ่ล้อม เมื่อตรวจสอบเสร็จ ผลปรากฏว่า ไม่ผ่านเกณฑ์ จึงทำให้ก่อสร้างต่อไม่ได้ และมีข้อบกพร่องถึง ๘ ข้อ ซึ่งข้อบกพร่องเหล่านี้ ในที่ประชุมไม่มีการนำมาเสนอให้สมาชิกสภาฯ ทราบ ผมจึงขอเอกสารจากประธานสภาฯ มาถ่ายเอกสารให้สมาชิกท่านอื่นดู”

“ในการประชุมสภาเมื่อวันก่อน ผมได้อภิปรายถามว่า ในเมื่อฝ่ายบริหารนำผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ แล้วพบข้อบกพร่อง ทำไมเทศบาลฯ ถึงยังเบิกงบให้ผู้รับเหมาไปอีก ๓ งวด จากนั้นในที่ประชุมก็มีการโต้แย้งกันไปมา และเขาก็บอกว่า ในกรณีที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน จะมีการฟ้องร้อง ผมจึงถามว่า ทำไมไม่ไปฟ้องร้องกับผู้รับจ้าง (ผู้รับเหมา) ก่อน เขาก็ตอบกลับมาว่า ฟ้องไม่ได้ ต้องมีการอนุมัติก่อน ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ไม่ใช่งบของเทศบาลฯ ทำไมถึงไม่รายงานไปยังส่วนกลางที่เป็นเจ้าของเงินก่อน แต่นี่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ บอกแค่ว่า เดี๋ยวจะมีการฟ้องคู่ จะดำเนินการไปพร้อมๆ กัน ผมจึงคิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จะต้องมีเงื่อนงำอะไรแน่นอน”

“เมื่อมีมติแรกเข้ามาว่า จะต้องมีการรื้อถอนก่อนถึงจะก่อสร้างต่อได้ แต่ทำไมไม่ฟ้องร้องกันก่อน จะต้องมีคนรับผิดชอบก่อนที่จะรื้อถอน ก็เหมือนคนทั่วไปถ้าสร้างบ้านแล้วผู้รับเหมาหนี เราก็ต้องฟ้องร้องก่อน เพราะเราเสียหาย ซึ่งรายงานของ มทส.ก็ระบุไว้ว่า การก่อปูนไม่ได้มาตรฐาน คานชั้น ๑ ก็แอ่น แต่ก็ยังมีการก่อสร้างขึ้นไปถึงชั้นที่ ๓ อีก เกิดคำถามว่า ทำไมไม่สั่งระงับการก่อสร้างไว้ก่อน ยังมีการมาเบิกเงินงวดที่ ๓ ไปอีก ตรงนี้ฝ่ายบริหารก็อภิปรายกลับมาว่า จะต้องมีการฟ้องร้องแน่นอน แต่จะต้องไปรวบรวมค่าเสียหายทั้งหมดก่อน ผมจึงถามว่า แล้วทำไมไม่รีบฟ้องร้อง ทำให้ถูกต้อง แต่จะมาขอเงินเพิ่มอีกในสภา จะขอให้เราอนุมัติโอนงบจากโครงการโน้นโครงการนี้มาเพิ่ม ๓ ล้านบาท เราจะอนุมัติให้ก็ได้ แต่ฝ่ายบริหารจะต้องหาผู้รับผิดชอบมาก่อน ซึ่งตอนแรก ส.ท.ก็จะยกมืออนุมัติให้ แต่เมื่อได้ฟังผมอภิปรายทุกคนก็เข้าใจ ผมก็บอกว่า งบที่หลวงให้มากว่า ๙ ล้านบาท ขณะนี้เหลืออยู่ ๖ ล้านบาท เอามาละลายเล่นตั้ง ๓ ล้านบาท น่าจะนำไปทำให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ ในส่วนงบที่เหลือก็มีการหาผู้รับเหมามาก่อสร้างต่อ แต่ก็ไม่มีใครรับ เพราะว่างานเก่าไม่ได้มาตรฐาน แต่ในการตรวจงานก็มีการระบุว่าถูกต้อง กรรมการตรวจรับงานก็เซ็นชื่อว่างานถูกต้องแล้ว แล้วเงินที่ถูกเบิกไป ๓ งวด ฝ่ายบริหารมัวทำอะไรอยู่ เขาก็อภิปรายไปเรื่อยไปโทษว่า รถผสมปูนไม่ดี มีการตอบโต้กันไปมา ผมจึงถามว่า ท่านอธิบายมาก่อนว่า ทำไมมีการเบิกเงินไป ๓ งวด ผมก็อภิปรายไปเรื่อยๆ กระทั่ง ส.ท.ท่านอื่นเห็นด้วย และมีการโหวตไม่อนุมัติ” นายเดชนะ กล่าวท้ายสุด

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๕๙๙ วันพุธที่ ๒๓ - วันอังคารที่ ๒๙ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

 


812 1364