November 06,2019
ซีพีเอฟ’ยันสหรัฐยกเลิก GSP ไม่กระทบ ย้ำธุรกิจโตตามเป้าภาวะสุกรดีขึ้นต่อเนื่อง
“ซีพีเอฟ” ย้ำ กรณีที่สหรัฐอเมริกายกเลิก GSP ในสินค้าจากไทยในอีก ๖ เดือนข้างหน้า ไม่กระทบ เพราะสินค้าที่บริษัทส่งออกในกลุ่มที่จะโดนตัดมีเพียงบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่มียอดขายประมาณ ๐.๒% ของยอดขายรวม ส่วนภาวะสุกรปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวถึง กรณีที่สหรัฐอเมริกายกเลิก GSP ในสินค้าจากไทยในอีก ๖ เดือนข้างหน้าว่า สินค้าที่บริษัทส่งออกจากประเทศไทยในกลุ่มที่จะโดนตัด GSP มีเพียงบะหมี่เกี๊ยวกุ้งที่มียอดขายประมาณ ๐.๒% ของยอดขายรวมที่จะต้องเสียภาษีในอัตราประมาณ ๖% เท่านั้น
“บริษัทได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยเข้าไปลงทุนผลิตเพื่อรองรับการบริโภคในประเทศนั้นๆ ทำให้ยอดขายส่วนใหญ่ในส่วนกิจการต่างประเทศนี้มีสัดส่วนประมาณ ๗๐% ของยอดขายรวม และเป็นกิจการที่มีการเติบโตอย่างดีมาตลอด เช่นเดียวกับการขยายธุรกิจในประเทศอเมริกา ซีพีเอฟได้เข้าไปลงทุนผลิตสินค้าอาหารพร้อมรับประทานและมีการเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ และยังคงมีโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับภาวะราคาสุกรมีการปรับตัวดีขึ้นโดยลำดับ จากการที่มีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเรื่องโรค ASF ปัจจุบันนี้ราคาสุกรในเวียดนามขึ้นมาอยู่ที่ระดับราคาประมาณ ๕๕,๐๐๐-๕๗,๐๐๐ ด่อง ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่สูงสุดของปี ส่วนราคาสุกรในไทยก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น
นายประสิทธิ์กล่าวถึงผลการดำเนินงานปีนี้ว่า ธุรกิจน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย และยังคงมั่นใจปีหน้าผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนมาตรฐานการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับ Perpetual Bond ที่บริษัทมีอยู่นั้น ไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและผลการจัดอันดับเครดิตของบริษัทดังเช่นที่มีหน่วยงานหนึ่งได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะ
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๐๑ วันพุธที่ ๖ - วันอังคารที่ ๑๒ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๒
705 1346