15thNovember

15thNovember

15thNovember

 

January 22,2020

ท่องถิ่นอีสานเหนือ...ดินแดนแห่งผ้าหมี่ขิด เนรมิตเส้นทางสายไหม...‘อุดรธานี’

กลับมาอีกครั้งกับเส้นทางสายไหม สู่เมืองรอง จัดโดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ การเดินทางครั้งนี้แม้ว่า ผู้บริหารกรมฯ ไม่ได้มาด้วยตนเองเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ส่งตัวแทนจากกองธุรกิจภูมิภาคและชุมชนมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน นักอ่าน “โคราชคนอีสาน” พร้อมท่องเส้นทางสายไหมไปด้วยกันหรือยังคะ...

เอาล่ะ...หลังจากที่หนุ่มหน้ามน คนอีสาน ได้พาไปทัวร์ผ้าไหมขึ้นชื่อของจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ กันมาแล้ว ตอนนี้ก็มาถึงคิวของ ม.ม้าตากลมกันบ้าง เป็นการไปท่องอีสานเหนือ เพื่อชมแหล่งผลิตผ้าไหมงามๆ

“เส้นทางสายไหม สู่เมืองรอง” เป็นนโยบายที่ส่งเสริมธุรกิจในระดับชุมชนให้กับผู้ประกอบการ เพื่อมีช่องทางในการพัฒนาสินค้าสู่การตลาดมากขึ้น ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้าไหมมาโดยตลอด และครั้งนี้ก็นำมาต่อยอดเพื่อเชื่อมโยงแหล่งผ้าไหม สู่การท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

ฉบับนี้ เรามาเริ่มกันที่... “กรมหลวงประจักษ์ฯ สร้างเมือง ลือเลื่องแหล่งธรรมะ อารยธรรมห้าพันปี ธานีผ้าหมี่ขิด ธรรมชาติเนรมิตทะเลบัวแดง” แค่ขึ้นต้นมา...ก็พอจะเดาออกแล้วใช่ไหมคะว่า เรากำลังจะไปทางสายไหมที่จังหวัดอะไร...ใช่แล้ว ครั้งนี้เราพามาสู่เส้นทางสายไหมกันที่จังหวัดอุดรธานี…

เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะได้ยินชื่อเสียงผ้าไหมของที่นี่กันบ้าง โดยเฉพาะ “ผ้าหมี่ขิด” ดั่งที่มีในคำขวัญประจำจังหวัด วันนี้ ม.ม้าจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งร้านในจังหวัดอุดรธานี ร้านนี้เพิ่งเปิดได้ไม่นานค่ะ แต่การันตีคุณภาพด้วยรางวัลที่ได้รับ “ร้านพะแพง” ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี

คุณปนัดดา แก้วคำแจ้ง เล่าว่า “ร้านพะแพง” เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมและจำหน่ายผ้าไหมชนิดพื้นและตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและคุณภาพ เป็นงานหัตถศิลป์ที่สืบสานกันมาอย่างยาวนานและคงเอกลักษณ์ลวดลายความเป็นถิ่นอีสานไว้ในผืนผ้า ถักทอด้วยเทคนิคชั้นสูงที่เรียกว่า “ผ้าทอลายขิด หรือ “ผ้าไหมลายขิด” และย้อมด้วยสีจากธรรมชาติ

“สำหรับลายที่โดดเด่นของทางร้านจะมี ลายกระเช้ามาลี ซึ่งการันตีจากการได้รับรางวัลลายผ้าถึง ๒ ปีซ้อนกันเลย นอกจากนี้ยังมีลายบัวสวรรค์ และลายกระทงทอง อีกด้วย ซึ่งนำมาแปรรูปเป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูปต่างๆ เช่น ชุดแซ็ก, เสื้อ, กระโปรง, กางเกง ชุดสูท และอื่นๆ ซึ่งได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนอีกด้วย” คุณปนัดดา เล่าอย่างภูมิใจ

ขอกระซิบบอกนิดนึงว่า ผ้าของที่นี่นุ่มมากก จับแล้วเพลิน แถมการออกแบบแต่ละชุดสวย ดูดี มีสไตล์ ราคาไม่แพง ม.ม้าก็อยากได้ แต่ไม่มีเงิน แฮ่ ผ้าไหมที่นี่ดีไซน์เก๋ เหมาะกับทุกวัยจริงๆ นะ ใครว่าใส่ผ้าไหมแล้วดูเชย ดูแก่ ลืมไปได้เลย... เอ้า ขนาดนี้แล้ว...ตามไปกันได้ที่ ร้านพะแพง ถ.พรหมประกาย ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี โทรศัพท์ ๐๘๒ ๓๙๖๕๔๖๔ หรือเพจเฟซบุ๊ก พะแพง ดีไซน์ 

แวะชมผ้าไหมสวยๆ กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนกันหน่อย...อีกหนึ่งสถานที่ที่หากมาจังหวัดอุดรธานีก็ไม่ควรพลาด นั่นคือ “ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีนและศาลเจ้าปู่ย่า อุดรธานี” เมื่อเดินทางมาแล้วจะมีจุดให้ไหว้สักการะอยู่ทั้งหมด ๖ จุดด้วยกัน ใครอยากสมหวัง ก็แวะมาขอพรกับปู่ย่ากันได้ นอกจากนี้ยังมีศาลาริมน้ำให้นั่งพักผ่อน รับลมชมวิวกันด้วย ม.ม้าเองก็แอบไปนั่งอู้หลับอยู่สักพักเลยแหละ

นอกจากจะเป็นศาลปู่ย่าแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมไทยจีนด้วย เดินเข้าไปแล้ว อย่างกับหลุดไปในประเทศจีน (ไม่ขนาดนั้นนนน) ภายในตกแต่งเป็นรูปแบบสวนของจีน มีมุมให้ถ่ายรูปชิคๆ ที่บอกเลยว่าร่มรื่นมากกก เพราะที่นี่เขาตกแต่งด้วยไม้มงคลของจีน ได้แก่ ต้นเครามังกร ต้นหลิว ต้นไผ่ดำ ประทัดจีน หงส์ฟู่ โป๊ยเซียน พุด และเทียนหอม เป็นต้น ที่รายล้อมสระบัว และบ่อปลาคาร์ฟจักรพรรดิ สำหรับใครที่อยากให้อาหารปลาคาร์ฟ ก็สามารถทำได้ เพลิดเพลินกันไป

เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะพบกับ อาคารพิพิธภัณฑ์คุณธรรม ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดอุดรธานีด้วย หรือถ้าอยากเรียนรู้วิชาการชงชาแบบต้นตำรับจากจีนแล้วล่ะก็ ที่นี่เขาก็มีห้องไว้สำหรับสอนชงชาด้วยนะ ใครชื่นชอบวัฒนธรรมแบบจีนๆ บอกเลยว่าถูกใจใช่เลยแน่นอน

พักผ่อนกันพอสมควรแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ โดยรอบนี้เราไปกันที่ “กลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านเชียงยืน” หมู่ที่ ๑๔ ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี พบกับ แม่สมภาร คำภาหมี ประธานกลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านเชียงยืน ซึ่งแม่สมภารเล่าถึงจุดเด่นของผ้าไหมที่นี่ว่า ผ้าไหมมัดหมี่ย้อมสีธรรมชาติของที่นี่เป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ที่ย้อมด้วยสีจากธรรมชาติ โดยเป็นน้ำหมักเอ็นไซม์จาก คราม, ขมิ้น, เห็ดหลินจือ, ดอกอัญชัน, ดอกจาน และสมุนไพรหรือดอกไม้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น

แม่สมภารการันตีเลยว่า เป็นการย้อมด้วยสมุนไพรและธรรมชาติ ๑๐๐% ม.ม้าก็ขอยืนยันอีกเสียง เพราะด้านข้างแทบจะเรียกว่า เป็นโกดังเก็บน้ำหมักเลยก็ว่าได้ และด้วยความที่เป็นการย้อมด้วยสีธรรมชาติ ๑๐๐% นี่ล่ะค่ะ ทำให้ได้สีสันที่สวยงาม สีเย็นตา ไม่ฉูดฉาด มีความสวยงามตามความต้องการของท้องตลาดในยุคปัจจุบัน 

“เส้นไหมที่ได้ ก็มาจากการปลูกหม่อน เลี้ยงไหม สาวไหม ย้อมสี ซึ่งทุกกระบวนการตรงนี้เป็นช่างฝีมือของชาวชุมชนบ้านเชียงยืน จังหวัดอุดรธานี และที่นี่ยังส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้และอนุรักษ์การทอผ้าอีกด้วย” แม่สมภาร กล่าว

แม่สมภารยังเล่าถึงคุณลักษณะที่โดดเด่นของที่นี่อีกว่า “ผ้าไหมมีเนื้อแน่น แต่อ่อนนุ่ม ไม่มีกลิ่นเหม็น สวมใส่สบายไม่ร้อน และปลอดภัยไร้สารเคมีแน่นอน” ก่อนจากกัน แม่ๆ จากกลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านเชียงยืน ยังสร้างความประทับใจให้พวกเราด้วยการแสดงรำประกอบเพลง เห็นว่า ซุ่มซ้อมกันอยู่หลายวันเพื่องานนี้ ดูไปยิ้มไปเลย แม่ๆ น่ารักมากๆ

เดินทางกันมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว...ได้เวลาพักกันแล้วล่ะ...แต่เดี๋ยวก่อน เส้นทางสายไหมของเราไม่ได้จบเพียงแค่นี้นะ แต่ว่าจะพาไปที่ไหน ต้องรอติดตามกันต่อในฉบับหน้า แล้วมาร่วมเดินทางไปบนเส้นทางสายไหม สู่การท่องเที่ยวเมืองรองด้วยกันต่อนะจ๊ะ...To be continues…

 

 

ร้านพะแพง

 

ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีนและศาลเจ้าปู่ย่า อุดรธานี

 

กลุ่มทอผ้าไหมมัดหมี่บ้านเชียงยืน

 

 ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๑ วันพุธที่ ๑๕ - วันอังคารที่ ๒๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

 

 


736 1,672