ชาวนาในอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ปรับตัวเลิกทำนาปรัง เพราะเจอภัยแล้งมาสานตะกร้าไม้ไผ่ขาย พบความจริงมีรายได้ดีกว่าทำนาปลูกข้าวเสียอีก

ชาวนาชาวไร่ในหมู่บ้านบก ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเดิมต้องทำนาปรังในช่วงหน้าแล้ง แต่ปีนี้ได้รับการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลให้งดการทำนาปรังโดยเด็ดขาด เพราะไม่มีน้ำให้ทำนาปลูกข้าวหรือทำพืชไร่ จึงพากันหันมาประกอบอาชีพสานตะกร้าไม้ไผ่ขายเลี้ยงชีพ ซึ่งพบว่ามีรายได้ดีกว่าการทำนาปลูกข้าว

น.ส.ประไพ นามอ่อนสา อายุ 44 ปี กลุ่มแม่บ้านบก หมู่ 1 ต.โนนผึ้ง อ.วารินฯชำราบ ซึ่งชักชวนเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันที่ไม่สามารถทำนาปรังในปีนี้ ให้มารวมตัวทำจักรสานตะกร้าไม้ไผ่ออกจำหน่ายแทนการทำนาปลูกข้าว เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว

โดยเจ้าตัวระบุว่า เริ่มแรกเป็นคนชอบอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ทำจากไม้ไผ่ เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากทำนา จึงมาลองสานตะกร้าไม้ไผ่ขายแทนการทำนาปรัง และขายผ่านเพจตามคำแนะนำของครู กศน.ที่เข้ามาส่งเสริมอาชีพ ซึ่งก็ทำรายได้ช่วงหน้าแล้งให้ น.ส.ประไพ เดือนละหลายพันบาท

เมื่อถึงปีนี้เกษตรตำบลแจ้งให้ชาวนางดทำนาปรัง เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง ก็เลยชวนเพื่อนบ้านที่สนใจมารวมตัว สานตะกร้าขายใบละ 200-700 บาท ตามขนาดและลวดลายของตะกร้าแต่ละใบ

ทำให้หน้าแล้งปีนี้ พวกตนมีรายได้จากการจักรสานตะกร้าไม้ไผ่ขายเดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งมีรายได้ดีกว่าการทำนาปรังเสียอีก เพราะต้นทุนส่วนใหญ่เป็นแรงงานใช้จักรสาน ตรงข้ามกับการปลูกข้าวที่ต้องลงทุนหมดไปกับค่าปุ๋ยเคมี ค่าจ้างรถไถมาไถพรวนหว่านดำและเก็บเกี่ยว

ซึ่งผู้สนใจงานจักรสานตะกร้า สามารถสั่งซื้อผ่านเพจบ้านไม้ไผ่จักรสานของกลุ่มแม่บ้านบก ต.โนนผึ้ง ได้ตลอดในช่วงหน้าแล้ง ส่วนหน้าฝนก็จะหยุดไปเพาะปลูกทำนาปลูกข้าวตามเดิม แต่หากลูกค้ามีความต้องการในช่วงเพาะปลูก ก็สามารถสั่งให้ทำได้เป็นครั้งๆไป