May 18,2020
พ่อยืนกรานไม่ได้ข่มขืนลูกชาย-หญิง แม่วิตก ‘ผบก.’ส่ง ตร.อารักขา
สืบเนื่องจากกรณีนางสาวเอ (นามสมมุติ) แม่อายุ ๓๗ ปี ซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองโคราช แจ้งความดำเนินคดีกับสามี อายุ ๔๗ ปี ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านโทรคมนาคมในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศลูกสาววัย ๙ ขวบ และลูกชายวัย ๗ ขวบ ภายในบ้านพัก โดยแจ้งความตั้งแต่วันที่ ๒๗ เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมากว่า ๒ สัปดาห์แล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า
นางสาวเอ เปิดเผยว่า เธอเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับสามี และทราบจากลูกสาววัย ๙ ขวบ และลูกชายวัย ๗ ขวบว่า สามีมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศลูกทั้ง ๒ ทั้งที่เป็นพ่อแท้ๆ โดยจากการสอบถามลูกทั้งสอง เล่าว่า ผู้เป็นพ่อได้แอบล่วงละเมิดมานานนับปีเเล้ว ซึ่งลูกๆ พยายามที่จะบอก แต่ก็มักจะถูกผู้เป็นพ่อส่งสายตาข่มขู่ใส่ และพูดจาข่มขู่ว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร หากนำไปบอกจะส่งลูกไปขายต่างประเทศ
นอกจากนี้ ลูกทั้ง ๒ ยังระบุว่า พ่อมักจะลงมือข่มขืนลูกช่วงที่แม่ออกไปทำงาน หรือไปซื้อของนอกบ้าน อาศัยจังหวะที่อยู่กับลูกเพียงลำพัง โดยระหว่างที่ข่มขืนลูก จะมีการถอดเสื้อของน้องทั้งหมด และลงมือล่วงละเมิด โดยบางครั้งก็ทำร้ายร่างกายลูกหากมีการขัดขืน เมื่อได้รับทราบอย่างนั้น ตนรับไม่ได้ และได้พาลูกทั้ง ๒ หนีออกจากบ้านทันที ต่อมา นางสาวเอ เข้าแจ้งความเอาผิดสามี ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ ๒๗ เมษายนที่ผ่านมาแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า เนื่องจากทางตำรวจอ้างว่า อยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของเด็กทั้งสองก่อน แต่เธอและลูกทั้งสองกลัวเป็นอย่างมาก และไม่กล้าปล่อยลูกไว้ลำพังกลัวได้รับอันตราย ต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก ผ่านมาหลายวันสามียังตามมาส่งข้อความข่มขู่ ซึ่งกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย
ในช่วงบ่ายวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓ นางสาวเอ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อขอความเป็นธรรม และติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี โดยพ.ต.อ.กฤตยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เรียกพนักงานสอบสวนมาสอบถามความคืบหน้าแล้ว ทราบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากทางโรงพยาบาลเพื่อนำมาประกอบหลักฐานการดำเนินดคี และอยู่ระหว่างประสานสหวิชาชีพเพื่อสอบเด็กต่อหน้าผู้ปกครอง โดยนัดหมายสอบกันในวันศุกร์ที่ ๑๕ พฤษภาคมนี้ เพื่อประกอบสำนวน คาดว่าต้องรอหลักฐานจากทางโรงพยาบาลด้วยว่าออกมาเป็นอย่างไร หลักฐานที่สำคัญที่สุดคือผลตรวจจากโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ยังไม่ออกมา และต้องสอบปากคำเด็กด้วยสหวิชาชีพมาเป็นหลักฐานประกอบด้วย เพื่อความแน่นหนารอบคอบ ซึ่งหากได้หลักฐานต่างๆ มาครบถ้วนก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอีกฝ่ายที่ได้รับร้องเรียน เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ในทางคดี ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นแม่ อาจจะเข้าใจว่าทางส่วนราชการต่างๆ ล่าช้า ตนจึงเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบถาม ทราบว่า เนื่องจากเป็นคดีที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เป็นเรื่องในครอบครัว และผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นเด็ก การสอบปากคำ เก็บหลักฐาน จำเป็นต้องทำโดยละเอียด และเป็นลักษณะสหวิชาชีพ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ง่ายๆ ทำให้ผู้เป็นแม่ไม่สบายใจว่า คดีนี้ไม่มีความคืบหน้า
“ผมเรียนว่า เราให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทุกภาคส่วนทราบถึงเรื่องความสำคัญของเรื่องแล้ว เนื่องจากสังคมเองก็ไม่ยอมรับ ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดกับเด็ก หรือคนในครอบครัว เพียงแต่จำเป็นต้องมีการสอบที่ละเอียด และชัดเจน เนื่องจากเด็กอาจจะยังให้การที่ไม่สามารถจับประเด็นได้อย่างถูกต้อง ทางพนักงานสอบสวนจะทำการนัดสหวิชาชีพมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนทางการแพทย์ กำลังรอผลตรวจสอบที่ชัดเจน” ผวจ.นครราชสีมา กล่าว
ล่าสุดวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๓ พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผย ขณะนี้กำลังเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเบื้องต้น ส่วนการจะมีการดำเนินคดีใดใด ต้องรอผลตรวจให้แน่ชัดก่อน ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวอาจารย์ชายที่ถูกกกล่าวหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำชำเรากับเด็กอายุไม่เกิน ๑๓ ปี ตามที่แม่ของเด็กได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งอาจารย์ชายคนดังกล่าว รับทราบข้อกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว และให้การปฏิเสธ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา จากนี้ไปก็อยู่ในขั้นตอนต่อสู้ตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ยังไม่มีการควบคุมตัว เพราะพ่อเด็กไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว ต้องนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งพ่อและแม่ของเด็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ถ้ามีมูลก็นำเข้าสู่สำนวนการสอบสวนได้ ส่วนผลการตรวจร่างกายเด็ก จะต้องรอแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แจ้งผลการตรวจอย่างละเอียดมาให้ทราบก่อน ในขณะที่เรื่องกระบวนการคุ้มครอง แม่ของเด็กทำหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง สภ.เมืองนครราชสีมาได้ทำความเห็นส่งให้ผู้บังคับการฯ แล้ว แต่เนื่องจากบ้านของผู้เสียหายไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ สอบสวนของสภ.เมืองฯ จึงประสานให้ตำรวจท้องที่ดูแล โดยคาดว่าจะสรุปสำนวนคดีภายในระยะเวลาที่กำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คาดว่าจะสอบสวนจบเร็วๆ นี้
841 1,527