June 05,2020
ปชช.บุกแจ้งจับผจก.ธนาคาร อ้างยักยอกเงินหมู่บ้าน ๔ ล้าน
ชาวบ้านนับร้อย บุกพบผู้การฯ แจ้งจับผู้จัดการธนาคาร ยักยอกเงินหมู่บ้าน ๔ ล้านบาท หลังยอมทนเจรจามานานหลายปี กระทั่งถึงวิกฤตโควิดขอเบิกเงินมาใช้จ่าย กลับเบิกไม่ได้ สอบถามสถานะการเงินก็ไม่ตอบ ขณะที่สภาทนายความตั้งคณะทำงานเอาผิดทั้งขบวนการ
เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่สถานีตำรวจภูธรพระยืน จังหวัดขอนแก่น มีประชาชนจาก ต.บ้านโต้น อ.พระยืน กว่า ๑๐๐ คน รวมตัวกันเพื่อขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น หลังพบความผิดปกติในการบริหารจัดการโครงการธนาคารหมู่บ้านบ้านโต้น อ.พระยืน ที่ประชาชนที่เป็นสมาชิกนั้นไม่สามารถถอนเงินจากธนาคารได้ ทั้งที่เป็นเงินของตนเอง ขณะที่จากการสอบถามถึงสถานะคงคลังของธนาคารก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อขอความช่วยเหลือ และต้องการดำเนินคดีกับผู้บริหารธนาคารบ้านโต้นที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะเดียวกันนายสุรสิทธิ์ ทุมทา ประธานสภาทนายความ จ.ขอนแก่น เข้าสังเกตและให้คำแนะนำในขั้นตอนของกฎหมายจนนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับผู้บริหารธนาคาร ที่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายเกรียงศักดิ์ สีบูจันดี อายุ ๔๕ ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวกันที่ สภ.พระยืน เพื่อต้องการความช่วยเหลือและเรียกร้องความเป็นธรรมในสิ่งที่ถูกต้อง จากการบริหารงานของธนาคารหมู่บ้านบ้านโต้น ที่ได้ก่อตั้งมานานกว่า ๒๐ ปี แต่มาในช่วง ๓-๔ ปี การเบิกจ่ายที่เป็นเงินของสมาชิก ก็ไม่สามารถที่เบิกได้และถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งปีที่ผ่านมาพบว่า สมาชิกที่ได้ออมเงินไว้ไม่สามารถเบิกเงินได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-๑๙ ชาวบ้านต่างต้องการถอนเงินมาใช้จ่าย แต่ธนาคารก็ไม่สามารถให้เบิกเงินได้ จึงมีการร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม ๒ ครั้ง มีการนัดไกล่เกลี่ยแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือการแก้ไขปัญหาใดๆ
“วันนี้ ธนาคารยังคงดำเนินการอยู่ แต่สมาชิกที่ส่วนใหญ่เป็นคนในหมู่บ้านไปขอถอนเงินก็ถอนไม่ได้ ทั้งที่เป็นเงินฝากของตนเองกันทั้งนั้น พอสอบถามสถานะคงคลังก็ไม่ได้รับคำตอบ ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนชาวบ้านสุดทนตัดสินใจขอพบ ผู้การฯ และขอแจ้งความจับประธานธนาคารและผู้จัดการธนาคาร รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะถือเป็นการฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ประชาชนทั้งหมู่บ้านอย่างชัดเจน วันนี้จึงมีการรวมตัวกันเพื่อมอบอำนาจให้ผมเป็นตัวแทนชาวบ้านเข้าแจ้งความและเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย” นายเกรียงศักดิ์ กล่าว
ขณะที่นายสุรสิทธิ์ ทุมทา ประธานสภาทนายความ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สภาทนายความได้ตั้งคณะทำงานมาช่วยเหลือประชาชนในเรื่อที่เกิดขึ้น โดยส่งทนายฝีมือดี ๕ คน เพื่อคอยให้คำปรึกษาทางกฎหมายและดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งในเบื้องต้นมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนำเอกสารหลักฐานมาแสดงตนจำนวน ๑๒๐ คน คิดเป็นมูลค่าเงินประมาณ ๔ ล้านบาท ขณะนี้มีการมอบอำนาจในการแจ้งความเอาผิดกับประธานธนาคารและผู้จัดการธนาคารหมู่บ้านบ้านโต้นเรียบร้อยแล้ว ในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสอบปากคำและออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำตามขั้นตอนของกฎหมาย และหากยังมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือได้รับความเดือดร้อนจากธนาคารฯ ดังกล่าวเพิ่มเติมก็สามารถประสานงานมาที่สภาทนายความได้ตลอดเวลา เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายและคืนความชอบธรรมให้กับประชาชน
ด้าน พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของข้อหานั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนชาวบ้านทุกคนที่เข้าแจ้งความในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.พระยืน จะนัดกับประชาชนที่มาแจ้งความให้นำหลักฐานต่างๆ ที่มี เข้าให้ปากคำภายหลัง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ด้วย ทางตำรวจก็จะได้มีการตรวจสอบบัญชี หรือเอกสารหลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ของธนาคาร เพื่อตรวจสอบว่า เส้นทางการเงินเป็นอย่างไร
“ตำรวจจะดำเนินการตามขั้นตอนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยฐานความผิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับปริมาณของผู้เสียหายว่ามีมากน้องเพียงใด หลักฐานทางการเงินสามารถเรียกมาได้ด้วยความรวดเร็วหรือ อาจจะต้องขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบด้านบัญชีการเงินในทุกมิติ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่สามารถตอบได้ว่าจะส่งฟ้องได้เมื่อไหร่ แต่ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนให้ครบถ้วนและรวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือประชาชน หากพนักงานสอบสวนไม่เพียงพอ ก็จะส่งพนักงานสอบสวนจาก ภ.จว.ขอนแก่นมาช่วยสนับสนุน เพิ่มเติม” พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ กล่าวท้ายสุด
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๓๐ วันพุธที่ ๓ - วันอังคารที่ ๙ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๓
860 1,540