September 05,2020
เรียกร้องเพิ่มโทษผู้ต้องหา ละเมิดทางเพศคนพิการ ให้เข็ดไม่เป็นเยี่ยงอย่าง
เรียกร้องให้เพิ่มโทษผู้กระทำความรุนแรง และล่วงละเมิดทางเพศคนพิการให้หนักขึ้น เพื่อให้เข็ดหลาบไม่เป็นเยี่ยงอย่าง ด้าน ส.ส.ภูมิใจไทยพร้อมเสนอรัฐบาลแก้กฎหมายเพิ่มโทษ ปกป้องสิทธิคนพิการ
จากกรณีที่มีชายสูงอายุวัย ๖๕ ปี ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ ๑๔ ปี ซึ่งพิการทางสมอง จนตั้งครรภ์ ๗ เดือน เหตุเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลเมืองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ สร้างความหดหู่ใจแก่ผู้ที่ติดตามข่าวสารเป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดอัยการจังหวัดได้พิจารณาสั่งฟ้องผู้กระทำผิดแล้ว
โดยเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๓ คณะกรรมการสมาคมคนพิการทุกประเภทจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมรวบรวมเงินไปมอบช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดด้วย และจากกรณีที่เกิดขึ้นก็ได้เรียกร้องให้มีการพิจารณาเพิ่มโทษทางกฎหมาย เอาผิดกับผู้ที่มีพฤติกรรมกระทำรุนแรง คุกคาม หรือล่วงละเมิดทางเพศคนพิการให้หนักขึ้นกว่าเดิม หรือหนักกว่าที่กระทำกับคนปกติทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดเกิดความหวาดกลัวเข็ดหลาบ จะได้ไม่มีผู้พิการรายอื่นตกเป็นเหยื่อถูกกระทำซ้ำอีก
นายนันทภพ โชคเกิด นายกสมาคมคนพิการทุกประเภทจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยรองนายกสมาคมฯ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.พิการหลายครั้งถึงขั้นตั้งท้อง ที่ผ่านมาเคยมีผู้พิการถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว แต่ไม่กล้าออกสื่อหรือร้องเรียนกับหน่วยงานไหนเพราะอับอายและกลัว ทำให้เสียโอกาสที่จะได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย ก็อยากให้กรณีนี้เป็นเคสตัวอย่างให้รัฐบาลหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณาเพิ่มบทลงโทษทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดให้หนักขึ้น เพราะถือเป็นการซ้ำเติมผู้พิการที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปอยู่แล้ว จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับคนพิการอีก ทั้งอยากเรียกร้องให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยสอดส่องดูแลคนพิการในพื้นที่ให้มากขึ้นในอีกทางหนึ่งด้วย เพราะโอกาสที่คนพิการจะเข้าถึงสิทธิต่างๆ และดำเนินชีวิตได้ไม่เหมือนคนปกติทั่วไปอยู่แล้ว
ด้านนายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังเดินทางไปเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือ ด.ญ.ผู้เสียหายว่า ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะมีการเพิ่มโทษทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดที่ล่วงละเมิดทางเพศผู้พิการ เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ พร้อมที่จะผลักดันในที่ประชุมสภาฯ ให้แก้กฎหมายเพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้หนัก พร้อมทั้งจะได้รวบรวมกลุ่มสมาชิกเพื่อร่วมผลักดันในอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนกรณีที่ผู้กระทำผิดเลือกก่อเหตุกับผู้พิการ ส่วนตัวมองว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน จึงไม่ทราบว่าบุคคลที่เข้าไปดูแลผู้พิการนั้นต้องการช่วยเหลืออย่างจริงใจ หรือเข้าไปดูแลเพราะหวังกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็ขอฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดกับผู้พิการ และหามาตรการป้องกัน ที่สำคัญอยากให้พิจารณาเพิ่มโทษกับผู้กระทำผิดด้วย
55 1,597