สมัคร อบจ.โคราชคึกคัก วันแรกตัวเต็งมาสมัครครบ ‘ยลดา’ รวมอดีตส.จ. อยู่ในมือ พร้อมตบเท้าเข้าสมัครพรึ่บ จับได้เบอร์ ๒ มั่นใจบริหารงานไร้ปัญหา ด้าน “ดร.สาธิต” คณะก้าวหน้าโชคดีได้เบอร์ ๑ ส่วน “หมอแหยง” ได้เบอร์ ๓ ชู ๓ นิ้วรักษ์โคราช ขณะที่ “แก้ว” ได้เบอร์ ๔ ขอโอกาสคนโคราชทำงานเพื่อโคราช ด้าน “ชาติพัฒนา” ขอยึดที่นั่ง “ส.อบจ.” อำเภอเมืองทั้ง ๘ เขต พบคนรุ่นใหม่สมัครเพียบ ลือพรรคร่วมรัฐบาลรวมพลังขยี้กลุ่มก้าวหน้า

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภา อบจ. ระหว่างวันที่ ๒-๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ และลงคะแนนเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ โดยในจังหวัดนครราชสีมา ใช้อาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ เป็นสถานที่รับสมัคร ซึ่ง “โคราชคนอีสาน” รายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผู้ที่มีความประสงค์จะลงสมัครนายก อบจ.นครราขสีมา อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ดร.สาธิต ปิติวรา คณะก้าวหน้า (อนาคตใหม่), หมอแหยง-นพ.สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข และอดีตนายก อบจ.นครราชสีมา, นายวิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา ๓ สมัย เจ้าของแนวคิดโคราชด๊ะดาดของดี และ ดร.ยลดา (หน่อย) หวังศุภกิจโกศล ภริยานายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล (กำนันป้อ) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พรรคภูมิใจไทย) เจ้าของโรงงานแป้งมันเอี่ยวเฮง อำเภอเสิงสาง ซึ่งก่อนวันรับสมัครบรรดา ส.อบจ.และผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.อบจ.ยกคณะเข้าพบเพื่อขอเข้าร่วมการเมืองในสังกัด และช่วยผลักดันให้ “นางยลดา” ได้เป็นนายก อบจ.นครราชสีมา โดยผู้สมัครส.อบจ.กลุ่มโคราชโฉมใหม่จะสวมเสื้อสีเหลืองมาสมัคร 

ช่วงชิงหมายเลข

สำหรับวันแรก (๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) ของการรับสมัครนั้น เวลาเช้าตรู่ที่บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นำคณะผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมาเกือบทุกเขต มาสักการะย่าโมเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนที่จะเดินทางไปสู่สถานที่รับสมัครเลือกตั้งเป็นคนแรกในเวลา ๐๗.๒๐ น. ตามมาด้วย ดร.สาธิต ปิติวรา คณะก้าวหน้า เวลา ๐๗.๓๐ น. ส่วนคนที่ ๓ นพ.สำเริง แหยงกระโทก เวลา ๐๗.๓๙ น. และคนสุดท้าย นายวิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ เวลา ๐๗.๕๕ น. (โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 มีผู้สมัครนายก อบจ. เพิ่ม 1 คน คือ ดร.ตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติไทย) จากนั้น เวลา ๐๘.๓๐ น. นายไพศาล สมุทรเผ่าจินดา รองปลัดอบจ.นครราชสีมา รักษาราชการแทนปลัด อบจ.นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะผู้อำนวยการ กกต.ประจำอบจ.นครราชสีมา ได้ชี้แจงต่อผู้สมัครถึงกระบวนการและขั้นตอนการรับสมัคร โดยจะให้ผู้สมัครตกลงกันว่าจะมีการจับหมายเลขผู้สมัครหรือหากตกลงกันได้ก็ไม่ต้องจับสลาก ในส่วนของผู้สมัครนายก อบจ.ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องจับสลาก โดยนพ.สำเริงจับคนแรกได้เบอร์ ๓ นางยลดาจับได้เบอร์ ๒ นายสาธิตจับได้เบอร์ ๑ และนายวิฑูรย์จับได้เบอร์ ๔ ท่ามกลางบรรดากองเชียร์ที่ไปให้กำลังใจ จากนั้นเมื่อยื่นเอกสารการสมัครเรียบร้อยแล้ว จึงทยอยเดินทางกลับเพื่อเริ่มการหาเสียง โดยมีบรรดากองเชียร์รอมอบพวงมาลัยและดอกไม้ให้กำลังใจอยู่ด้านหน้าอาคารชาติชายฮอลล์ฯ 

ก้าวหน้า’ย้ำโคราชต้องเปลี่ยน

ดร.สาธิต ปิติวรา ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ ๑ เปิดเผยว่า “นโยบายหลักในการหาเสียงครั้งนี้ คือ เรื่องจัดการศึกษาท้องถิ่น เมื่อลงพื้นที่เห็นว่า โรงเรียนในสังกัด อบจ. มีทั้งหมด ๕๘ โรง แต่การกระจายงบประมาณหรืออำนาจให้ผู้บริหารยังเป็นปัญหาอยู่ โดยสิ่งที่ต้องคิดใหม่ทำใหม่คือ หลักสูตรการเรียนการสอน จะเน้นการเรื่องพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการและศักยภาพของเด็ก เพราะไปคิดในการศึกษาแบบเดิมคงไม่ได้ นโยบายต่อมา การจัดการน้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำทางการเกษตรในจังหวัดนครราชสีมา ที่มีพื้นที่กว้างและมีหลายอำเภอ เมื่อถึงฤดูแล้งก็แล้งจริงๆ จึงต้องพัฒนาแหล่งน้ำ ไม่ว่าระบบท่อหรือระบบกลไก รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองด้วย ทุกวันนี้เมื่อฝนตกหนักๆ โคราชท่วมแล้ว อบจ.จะบูรณาการกับ อปท.ต่างๆ ในการจัดการน้ำ ระบบท่อที่ไหลลงสู่ลำคลองหลัก ให้ปัญหาน้ำท่วมลดน้อยลง 

“สำหรับผู้สมัคร ส.อบจ.นั้น คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครครบทั้ง ๔๘ เขต แต่ละเขตดูเรื่องอุดมการณ์และหลักการว่าไปด้วยกันได้หรือไม่ เพราะว่าคณะก้าวหน้าขายนโยบายเป็นทีม เมื่อเลือกนายก อบจ.แล้ว ผมต้องการให้เลือก ส.อบจ.ทุกเขตด้วย ซึ่งคณะก้าวหน้าไม่มีการซื้อเสียงแน่นอน ขอให้พ่อแม่พี่น้องช่วยเป็นกำลังใจ เชียร์คณะก้าวหน้า และวันนี้ได้คุยกับผู้สมัคร นายก อบจ.ท่านอื่น ก็มีความเป็นกันเอง ทุกคนเป็นคนโคราช ผมเป็นคนปากช่อง เราจับมือกันแล้ว อะไรที่ทำเพื่อคนโคราช มีความแปลกใหม่ ในครั้งนี้ การเมืองท้องถิ่นโคราชต้องเปลี่ยน” ดร.สาธิต กล่าว

หน่อย’พร้อมสู้

นางยลดา หวังศุภกิจโกศล (หน่อย) ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ ๒ ซึ่งวันนี้มีผู้ติดตาม ๒ คนคือนางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล น้องสาวซึ่งเป็นอดีต ส.ส.โคราชพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายสุพจน์ พงศ์จรัสรวี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแชะ อำเภอครบุรี  เปิดเผยกับ 

“โคราชคนอีสาน” ว่า “การลงสมัครครั้งนี้ไม่ได้คิดนาน เพราะว่าตั้งใจและพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนจังหวัดนครราชสีมา นโยบายในการทำงานสร้างสรรค์ สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ สร้างเมืองโคราช และดูความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นหลักว่า ต้องการอะไร เราจะมาร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมทดสอบไปด้วยกัน การลงพื้นที่ต่างๆ ร่วมทำกับทุกภาคส่วน ซึ่งแต่เดิมมาและทำกิจกรรมอยู่แล้ว จิตอาสาของหลายภาคส่วน 

“โคราชคนอีสาน” ถามว่า การรวบรวมส.อบจ.เกือบทั้งหมด หากได้รับเลือกตั้งจะทำให้ไม่มีปัญหาในการบริหารงานใช่หรือไม่? นางยลดา ตอบว่า ถ้ามีโอกาสได้รับเลือกตั้งและมาทำงานร่วมกัน ก็เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่มีการขัดแย้ง 

ท้ายสุด นางยลดา เปิดเผยว่า “ยลดา หวังศุภกิจโกศล มาร่วมสร้างโคราชโฉมใหม่ ไปกับเบอร์ ๒ ถ้าพี่น้องประชาชนให้โอกาสก็พร้อมสู้”

หมอแหยง’ชูสภาประชาชน

นพ.สําเริง แหยงกระโทก กลุ่มรักษ์โคราช ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ ๓ ซึ่งในสมัยนี้ ไม่มี ส.อบจ.ร่วมทีม แต่มีอดีต ส.ส.คือนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ มาให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์ ‘หมอแหยงสู้ๆ’ โดยนพ.สำเริงเปิดเผยว่า “วันนี้มีผู้มาสมัครนายก อบจ. ๔ คน เป็นคนโคราช มาจาก อ.ครบุรี เสิงสาง และปากช่อง เป็นคนที่รู้จักกันทั้งนั้น แล้วเราถือคติว่า เหมือนแข่งกีฬาอยู่ห้องเรียนเดียวกัน เวลาแข่งกีฬาก็แข่งด้วยกัน มีความรักความผูกพันและต้องการพัฒนาโคราชเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเมื่อใครได้เป็นก็จะปรึกษาหารือ มีความช่วยเหลือกัน นี่คือบรรยากาศที่ดี ไม่หวังที่จะมาขย้ำกัน หรือด่าทอกัน เพียงแต่ให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายเท่านั้น การจับเบอร์ผมไม่ติดใจอะไร เพราะว่า เบอร์ไหนก็ได้ เบอร์ ๓ ถือว่าเป็นเบอร์นำโชค พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นทั้งสัญลักษณ์โอเคและไอเลิฟยู รวมทั้งสัญลักษณ์ลูกเสือปฏิญาณตนก็ได้ แต่ถ้าใครไปเอาสัญลักษณ์ที่คนเขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ขอให้เข้าใจด้วยดีว่า ๓ นี่คือไอเลิฟยู เรารักษ์โคราช นโยบายก็เหมือนเดิม คือ สภาประชาชน ประชาชนเป็นหัวใจหลักที่จะแสดงถึงความโปร่งใส ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารงบประมาณอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีสภาประชาชน ก็เหมือนพูดลอยๆ แต่นี่พูดไปแล้ว หากตั้งสภาประชาชนแล้วมีพลัง การทำงานบริหารบ้านเมืองก็จะเป็นไปอย่างเรียบร้อย”

‘แก้ว’ย้ำคืนโคราชให้คนโคราช

ด้านนายวิฑูรย์ ชาติปฏิมาพงษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา เบอร์ ๔ กล่าวว่า “ในฐานะที่ผมเป็นท้องถิ่น เป็นคนรณรงค์ให้กระจายอำนาจ กระทั่งได้อำนาจมาสู่ท้องถิ่น ได้งบประมาณมาบริหารท้องถิ่นทั้งประเทศ ขณะนั้นผมเป็นนายกสมาคมท้องถิ่นแห่งประเทศไทย และอยู่ท้องถิ่นโคราช ตั้งแต่ยกฐานะจากประธานสภามาเป็นนายก อบจ. และได้เป็น ๒ สมัย หรือ ๑๐ ปี บริหารเมืองโคราชกระทั่งเป็นรูปเป็นร่าง เป็นต้นแบบของท้องถิ่นทั้งประเทศ ทุกคนมาดูงานหมด แต่หลังจากทำไว้ ประชาชนก็ต้องการคนใหม่มาทำบ้าง วันนี้จึงมีความเชื่อมั่นว่า คนที่ได้เห็นการบริหารงานท้องถิ่นจากบุคคลที่มาจากหลายๆ แบบ แต่ผมเชื่อว่า วันนี้ประชาชนต้องการคนท้องถิ่น มาทำงานท้องถิ่น เพื่อใช้เงินท้องถิ่น ทำให้เมืองโคราชมีความเจริญ ผมมีความเชื่อมั่นว่า ประชาชนฉลาดขึ้น ดีขึ้น รู้จักคิด รู้จักเลือก ผมต้องการเข้ามาสร้างเมืองโคราช คืนเมืองโคราชให้คนโคราช เชื่อว่า ขณะนี้ทุกคนรู้จักผมทั้งจังหวัด เขารู้ว่า ผมเป็นคนอย่างไร ตั้งแต่บริหารมายังไม่เคยมีปัญหาที่ประชาชนไม่พึงพอใจ และตัวผมเป็นผู้ที่ทำงานให้กับสังคมตลอด ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งนายกฯ ก็ยังเป็นกรรมการหอการค้า กรรมการวัฒนธรรม กรรมการกีฬา กรรมการธรรมาภิบาล ทำทุกอย่างโดยไม่มีคำติฉินนินทา มั่นใจว่า คนโคราชจะยอมรับ”

‘ชาติพัฒนา’สู้เต็มที่

ทางด้าน “พรรคชาติพัฒนา” ที่มีกระแสข่าวว่า จะสนับสนุน “กำนันเบ้า” นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ให้ลงสมัครนายก อบจ.ด้วยนั้น มีคำชี้แจงจากนพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ซึ่งเดินทางมาให้กำลังผู้สมัคร ส.อบจ. ๘ เขตอำเภอเมืองว่า “ขณะนี้กำลังพิจารณาว่า กำนันเบ้าจะชี้แจงอย่างไร วันนี้เป็นวันแรก ต้องรอดูวันสุดท้ายอีกที ส่วนผู้สมัคร ส.อบจ. ๘ เขตอำเภอเมืองนั้น พรรคชาติพัฒนาสู้เต็มที่ เน้นนโยบายทำงานเพื่อการพัฒนาเมืองโคราชให้เจริญก้าวหน้า รองรับการเติบโตของเมืองที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม การลงทุน และการค้า โคราชเป็นศูนย์กลางของการลงทุน การคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ และผลักดันโคราชเป็นสมาร์ทซิตี้ เราพยายามรักษาพื้นที่ให้ได้ ทำตาม  กติกา”

“โคราชต้องพัฒนาเมืองด้านอุตสาหกรรมและการเกษตร ต้องเน้นการผลิตสินค้าขั้นสูง ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย อุตสาหกรรมการเกษตรจะเป็นจุดที่เราผลักดัน พรรคยืนหยัดต่อสู้ในวิถีการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อาสาทำเพื่อบ้านเมืองมากขึ้น และการเมืองท้องถิ่นต้องมีความโปร่งใส ไม่มีการทุจริต ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง พรรคชาติพัฒนาขายนโยบาย ขายความสามารถ ต้องการให้ประชาชนให้ความสำคัญ โดยออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

เหนื่อยทั้ง ๘ เขต

ในขณะที่นายประเสริฐ บุญชัยสุข เปิดเผยว่า “เริ่มแรกว่าจะส่งนายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ซึ่งเดิมนั้นมีผู้ต้องการสนับสนุนกำนันเบ้า และชาติพัฒนาก็สนับสนุนด้วย แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ถ้าพรรคชาติพัฒนาพรรคเดียวคงเป็นไปได้ยาก โดยพรรคที่จะสนับสนุนตอนแรกเป็นพรรคใหญ่ แต่ช่วงหลังไม่ทราบว่า ไปคุยในรายละเอียดกันอย่างไร แต่กำนันเบ้าก็ยังมีเวลา วันที่ ๖ พฤศจิกายนถึงจะรู้ว่า กำนันเบ้าจะตัดสินใจอย่างไร ผมก็เชื่อว่า จะมีผู้สมัครนายก อบจ.มาอีกหลายคน วันนี้ก็คึกคักดี ได้เห็นความตั้งใจของคนใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทำงานการเมืองมากขึ้น เป็นทางเลือกที่มากขึ้น ให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจ ในส่วนของส.อบจ.นั้น พรรคชาติพัฒนาใช้การผสมผสาน มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามา ๔-๕ คน ร่วมกับคนรุ่นกลาง รุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยเรื่องการเมืองกันเต็มที่ ซึ่งเขตเมือง ๘ เขต เหนื่อยทุกเขต เราต้องทำงานหนัก”

พรรครัฐบาลร่วมโค่นก้าวหน้า

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า การที่นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา หรือ “กำนันเบ้า” ไม่ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ในครั้งนี้ ทั้งที่เป็นเพื่อนรักของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาลนั้น เป็นเพราะทางกำนันป้อ (วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) รมช.พาณิชย์ ของพรรคภูมิใจไทย ส่งภริยาคือนางยลดาลงสมัครด้วย จึงมีการพูดคุยระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่ต้องส่งผู้สมัครนายก อบจ.ลงแข่งขันกัน เพราะจะทำให้ไปตัดคะแนนกันเอง แต่ขอให้มาร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนนางยลดาให้มีคะแนนนำดร.สาธิต ปิติวรา จากคณะก้าวหน้า ซึ่งมีฐานเสียงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่นั่นเอง

ชาติพัฒนา’ขอ ส.อบจ. ๘ เขต

ทางด้าน ส.อบจ.นั้น วันนี้มีผู้สมัครจำนวนมาก จากที่มีทั้งหมด ๔๘ เขต โดยเฉพาะอำเภอเมืองนครราชสีมา ๘ เขตนั้น เดิมเป็นพื้นที่ของ “กลุ่มโคราชชาติพัฒนา” ซึ่งนายประเสริฐ บุญชัยสุข เปิดเผยว่า “ในครั้งนี้เราหวังว่า จะได้ยกทีมเช่นเดิม แต่ก็มีการแข่งขันกันสูง เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมุ่งเป้ามาที่จังหวัดนครราชสีมาเพราะเป็นจังหวัดใหญ่ การสมัครเลือกตั้ง ส.จ.ในครั้งนี้ เขาต้องมองไปถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งต่อไปด้วย ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของพรรคการเมือง ที่จะต้องมองเพื่อปูพื้นฐาน”

เขต ๑ ส่งส.ท.ลงสนาม

โดยเขต ๑ นั้น เดิมมีนายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท เป็นส.อบจ. แต่ภายหลังออกจากกลุ่มโคราชชาติพัฒนา ไปทำงานกับพรรคเพื่อไทย และครั้งนี้ไม่ลงสมัคร แต่ประกาศตัวเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง พรรคชาติพัฒนาจึงส่งนายก้องเกียรติ วงศ์นิยม ส.ท.นครราชสีมา เขต ๒ ลงสมัครแทน โดยมีคู่แข่งคือ นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ ลูกชายนายชนะชัย (เสี่ยโต) เจ้าของร้านทองอึ้งเตียงกี่ ลงสมัครในกลุ่มโคราชโฉมใหม่รวมทั้งนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ น้องชายนายพงษ์เลิศสุภัทรวณิชย์ รองนายกเทศมนตรีนครฯ ลงสมัครในสังกัดคณะก้าวหน้า

‘แชมป์’พร้อมมาก

นายธนากร (แชมป์) ประพฤทธิพงษ์ ผู้สมัคร ส.อบจ.อำเภอเมือง เขต ๑ เปิดเผยว่า “นโยบายสำคัญคือพัฒนาการศึกษา ซึ่งทุกวันนี้ก็พยายามทำเรื่องการศึกษาอยู่ เป็นอาจารย์พิเศษตามสถาบันการศึกษาต่างๆ เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และอีกหลายๆ แห่งในตัวเมืองโคราช โดยที่ไม่ได้มองถึงค่าตอบแทนมากหรือน้อย เพียงมีโอกาสอยู่ตรงนี้ จึงมองเห็นว่า ในเมื่อเขามองเห็นความสำคัญและให้โอกาส และเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้วจึงมาลงเลือกตั้ง และยินดีที่จะมาทำงานนี้เป็นพิเศษ ส่วนหน้าที่อื่นที่รับมอบหมายก็จะทำอย่างเต็มที่ ส่วนคู่แข่งก็เป็นตามที่คาดหมายไว้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่รู้จักกันดี เพราะฉะนั้นทำงานกันด้วยการหาเสียงก็เป็นส่วนหนึ่งตามแนวทางประชาธิปไตย ทุกคนก็แข่งขันกันตามหน้าที่ และทำให้ดีที่สุด ผมมีโอกาสได้ทำงานเกี่ยวกับด้านการเมืองท้องถิ่นอยู่แล้ว เพียงอยู่เบื้องหลังมากกว่า ๑๐ ปีแล้ว แต่ไม่เคยมาอยู่เบื้องหน้า และก็ไม่เคยคิดว่าจะมาลงเลือกตั้งแบบนี้ แต่เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว รอบนี้คิดว่า พร้อมและเหมาะสมที่สุด”

“ผมทำงานการเมืองครั้งแรกที่ร่วมงานกับ ร.ต.อ.สุปชัย (คมกริช) อินทรักษา ซึ่งขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีนครฯ ซึ่งมาปรึกษาผมเรื่องจัดงานตรุษจีนถนนจอมพล และผมได้เรียนภาษาจีนมา ค่อนข้างรู้เรื่องวัฒนธรรมจีนและภาษาจีนด้วย จึงเริ่มเข้ามาทำงานท้องถิ่นตั้งแต่ขณะนั้น จึงมองเห็นว่าเรื่องการศึกษา เรื่องวัฒนธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้รู้จักกันมากขึ้น และทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง เป็นโลกาภิวัตน์เรียบร้อยแล้ว ถ้าจะอยู่แบบเดิมคงไปไม่รอด เพราะฉะนั้น รู้เขารู้เราดีที่สุด การลงสมัครครั้งนี้ พ่อแม่ก็สนับสนุนเต็มที่” นายธนากร กล่าว

คาดเจ้าเก่าเข้าวิน

เขต ๒ อำเภอเมือง เป็นพื้นที่เดิมของนายอดุลย์ อยู่ยืน (เบอร์ ๒) กลุ่มรักษ์โคราช แต่ภายหลังลาออกไปสมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย การสมัครส.อบจ.ครั้งนี้จึงอยู่ในสังกัดกลุ่มโคราชโฉมใหม่ของนางยลดา และมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะเหมือนเดิม เพราะเขตนี้มีผู้สมัครจำนวนมาก แต่ล้วนเป็นหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มโคราชชาติพัฒนาที่เลือกจะส่งน.ส.จิรัฐพรรณษ์ วงศ์จร ทายาทโรงแรมวีวันมาลงสมัคร (เบอร์ ๗) ส่วนคณะก้าวหน้าส่งนายนันทวัฒน์ กมลวัทน์ (เบอร์ ๑), เบอร์ ๓ น.ส.สุธิตา สาสิม, เบอร์ ๔ น.ส.อาภัสสร ฮาดเศษ, เบอร์ ๕ นางศิรินภา ศรีนัมมัง, เบอร์ ๖ นายปัญญา สงทะเล และเบอร์ ๘ นายธนากร วีระกุลเดชทวี

เขต ๓ อำเภอเมือง นายองอาจ พฤกษ์พนาเวศ เป็น ส.อบจ.เก่าจากกลุ่มโคราชชาติพัฒนา โดยครั้งนี้จับได้เบอร์ ๓ มีผู้ท้าชิงอีก ๓ ราย ได้แก่ เบอร์ ๑ นายภาณุนันท์ รัศมี, เบอร์ ๒ นางกรกนก บุญปัญญา กลุ่มโคราชโฉมใหม่ และเบอร์ ๔ นายนพคุณ วิกัยโกศล 

เขต ๔ อำเภอเมือง เป็นพื้นที่เดิมของนายประพจน์ ธรรมประทีป กลุ่มโคราชชาติพัฒนา และลงสมัครครั้งนี้ได้เบอร์ ๓ โดยมีผู้ร่วมท้าชิงคือ เบอร์ ๒ นายกฤษฏวัฒน์ อินทรักษา กลุ่มโคราชโฉมใหม่ ลูกชายร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา, เบอร์ ๑ น.ส.สุพิชา แนวจำปา, เบอร์ ๔ นายธีรวุฒิ รื่นรวย

เขต ๕ อำเภอเมือง เป็นพื้นที่เดิมของกลุ่มโคราชชาติพัฒนาคือ น.ส.รัชฎา ใจกล้า ซึ่งครั้งนี้ได้เบอร์ ๓ มีผู้ลงสมัครอีก ๒ ราย คือ เบอร์ ๑ นายณัฐพล ชวนกระโทก และเบอร์ ๒ น.ส.อริศร ฤทธิแผลง 

เขต ๖ อำเภอเมือง เดิมนายวีรวัฒน์ มิตรสูงเนิน กลุ่มโคราชชาติพัฒนา เป็นส.อบจ. แต่ในครั้งนี้ส่งลูกชายวัย ๒๕ ปีลงสมัครแทน คือ นายธีรวีร์ มิตรสูงเนิน จับได้เบอร์ ๒ โดยมีอีก ๒ ผู้สมัครชิงคือ เบอร์ ๑ นายอิทธิเดช ดีหนองโดน และเบอร์ ๓ นายทักษิณ เขื่อนโคกสูง 

เขต ๗ อำเภอเมือง เป็นพื้นที่ของกลุ่มโคราชชาติพัฒนา มีนายนัฏฐชัยฐ์ ธนกนกนนทณ์ เป็นส.อบจ. และครั้งนี้ก็ลงสมัครได้เบอร์ ๓ มีผู้ท้าชิงได้แก่ เบอร์ ๑ น.ส.ธัญญารัตน์ รัตนชินกร, เบอร์ ๒ นายอโณทัย พินิจไชย, เบอร์ ๔ นายปิยเมษฐ ปราณีตพลกรัง จากคณะก้าวหน้า 

เขต ๘ อำเภอเมือง เป็นพื้นที่เดิมของนายสมบัติ กาญจนวัฒนา อดีตส.อบจ.และอดีตประธานสภาอบจ.นครราชสีมา ซึ่งในครั้งนี้ส่งหลานชายคือนายสรรชัย กาญจนวัฒนา วัย ๒๕ ปี ลูกชายกำนันเบ้า (นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา) ลงสมัครแทน จับได้เบอร์ ๒ มีผู้ร่วมชิงคือ เบอร์ ๑ นายวีรศักดิ์ สุขสนิท และเบอร์ ๓ นายภาสชัย โรจน์นิรันดร์ 

ผสมผสานคนรุ่นใหม่-เก่า

นายสรรชัย กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.อบจ.อำเภอเมือง เขต ๘ กลุ่มโคราชชาติพัฒนา เปิดเผยว่า “ผมเหมือนเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ เพราะในพรรคชาติพัฒนามีทั้งคนมีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ผสมกัน ทั้งแนวคิดจากคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ผสมผสานกัน ก็จะได้การเมืองรูปแบบใหม่ๆ ในการบริหารโคราช เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ ผมต้องการเพิ่มกิจกรรมให้โคราชกลับมาคึกครื้น และต้องการให้มีเยาวชนรุ่นใหม่เข้ามาทำกิจกรรม เป็นกิจกรรมระดมให้โคราชกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง”

ทางด้านนายธีรวีร์ มิตรสูงเนิน ผู้สมัคร ส.อบจ.อำเภอเมือง เขต ๖ กลุ่มโคราชชาติพัฒนา เปิดเผยว่า “สมัยนี้การที่รุ่นเก่ามาพัฒนาหรือบริหารท้องถิ่นนั้น ล้าสมัยไปแล้ว ทุกวันนี้ต้องผสมผสานรวมพลังระหว่างคนรุ่นใหม่ คนรุ่นกลาง และประสบการณ์จากคนรุ่นเก่า ผสานกันเพื่อพัฒนาชุมชน การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโอกาสของทุกคนที่จะร่วมมาแสดงประชาธิปไตย ส่วนตัวผมเป็นคนชอบเล่นกีฬา หวังจัดกีฬาสัมพันธ์ภายในชุมชน ทั้งหญิงและชาย ไม่จำกัดเพศ มาแข่งกันเพื่อให้ทุกคนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด”

โคราชโฉมใหม่’มั่นใจทั้ง ๘ เขต

ทางด้าน ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต ๑ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มโคราชโฉมใหม่ ในเขตอำเภอเมือง เปิดเผยว่า “ผมเห็นความมุ่งมั่นของผู้สมัครนายก อบจ. มีความรู้สึกว่า ทุกคนมีสิ่งที่จะทำให้โคราชเกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดการสร้างเมืองให้ไปด้วยดี และทางพรรคเพื่อไทยเห็นว่า ถ้าไม่ได้ลงนายก อบจ. ก็น่าจะดูว่า เราจะสนับสนุนใคร การเลือกตั้งท้องถิ่นผมเห็นดีด้วย เพราะว่า ท้องถิ่นในปัจจุบันแตกแยกกัน ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน การจะนำงบประมาณมาพัฒนาก็ยาก และประชาชนขณะนี้เดือดร้อนมาก ถ้าไม่ชิง อปท.มาตอนนี้ เราก็ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ ห่างไกลเกินไป จึงคิดว่า นี่เป็นจุดให้เราสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ โดยการส่งสมาชิกลงทั้ง ๘ เขต ของอำเภอเมือง กองเชียร์เสื้อเหลืองให้ชื่อทีมว่า โคราชโฉมใหม่ ทั้ง ๘ เขต ซึ่งหวังไว้ทั้งหมด เพราะดูจากผู้สมัครที่มาวันนี้ แต่ละคนจบปริญญาโท จบปริญญาเอก และเป็นคนหนุ่มสาวทั้งนั้นที่ตัั้งใจมาทำงานให้พี่น้องประชาชน”

เมื่อถามว่า ชาติพัฒนาก็ประกาศจะรักษาเก้าอี้ทั้ง ๘ เขตไว้แล้ว จะไปแบ่งมาได้อย่างไร? ร.ต.อ.สุปชัย อินทรักษา ตอบว่า “ต้องเคารพประชาชน ถ้าประชาชนเห็นว่าคนที่อยู่ใน ๘ เขต ที่ผมส่งลงไป คิดว่าเป็นคนที่จะทำงานได้ คนที่จะเปลี่ยนแปลงอำเภอเมืองโคราชได้ และไปร่วมกับส่วนของจังหวัดได้ และประชาชนคิดและจะลงคะแนนให้เรา ผมมั่นใจว่า ๘ คนได้แน่นอน”

“ในฐานะแกนนำกลุ่มโคราชโฉมใหม่ ต้องการฝากถึงประชาชนว่า ทีมเราเป็นทีมใหม่ และเป็นทีมที่ตั้งใจมาทำงาน จะดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ไม่ทิ้งประชาชนเหมือนยุคก่อนๆ พร้อมรับฟังปัญหาประชาชน และประสานงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น เทศบาลนครฯ เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล รวมทั้ง อปท. จะทำงานร่วมกันแบบพี่แบบน้อง เช่น อบต.จะไปซื้อรถดับเพลิง ไม่จำเป็นต้องไปซื้อแข่งกัน มีศูนย์ให้ไปช่วยได้ทันที เงินที่จะมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ปัญหาระบบสาธารณูปโภคหรือปัญหาคุณภาพชีวิตก็จะมีมากขึ้น เมื่อทีมของเราเข้าไปเป็นผู้บริหาร” ร.ต.อ.สุปชัย กล่าวท้ายสุด

สำหรับผู้สมัคร ส.อบจ.ในเขตอื่นๆ นั้น มีผู้สมัครจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นอดีตส.อบจ. หรือในบางเขตก็ส่งทายาทมาลงสมัครแทน โดยคาดว่า เมื่อถึงวันสุดท้ายของการสมัครคือวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ จะมีจำนวนผู้สมัครกว่า ๒๐๐ คน ซึ่งผู้สมัครทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจพิจารณาคุณสมบัติจาก กกต.อีกครั้ง 

สำหรับรายชื่อผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (ส.อบจ.) ทั้ง ๔๘ เขตเลือกตั้ง ณ วันที่ ๒-๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ มีผู้มาสมัคร ทั้งหมด ๑๓๒ คน ดังนี้

อำเภอเมืองนครราชสีมา

• เขต ๑ นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ นายก้องเกียรติ วงศ์นิยม นางสาวพคินทร์ สุปัญญเดชา 
• เขต ๒ นายนันทวัตน์ กมลวัทน์ นายอดุลย์ อยู่ยืน นางสาวสุธิตา สาสิม นางสาวอาภัสสร ฮาดเศษ นางสาวศิรินภา ศรีนัมมัง นางสาวจิรัฐิพรรณษ์ วงศ์จร นายธนากร วีระกุลเดชทวี นายปัญญา สงทะเล 
• เขต ๓ นางกรกนก บุญปัญญา นายภานุนันท์รัศมี นายองอาจ พฤกษ์พนาเวศ นายนพคุณ วิกัยโกศล
• เขต ๔ นายกฤษฏวัฒน์ อินทรักษา นางสาวสุพิชา แนวจำปา นายประพจน์ ธรรมประทีป นายธีรวุฒิ รื่นรวย 
• เขต ๕ นางสาวอริศรา ฤทธิแผลง นายณัฐพล ชวนกระโทก นางสาวรัชฎา ใจกล้า 
• เขต ๖ นายอิทธิเดช ดีหนองโดน นางทักษิณ เขื่อนโคกสูง นายธีรวีร์ มิตรสูงเนิน 
• เขต ๗ นางสาวธัญญารัตน์ รัตนชินกร นายปิยะเมษฐ ปราณีพลกรัง นายอโณทัย พินิจไชย นายนัฏฐชัยฐ์ ธนกนกนนทณ์ 
• เขต ๘ นายวีรศักดิ์ สุขสนิท นายภาสชัย โรจน์นิรันดร์ นายสรรชัย กาญจนวัฒนา

อำเภอปากช่อง

• เขต ๑ นางอัจราภรณ์ เลิศด้วยลาภ นายณัฏฐพชร์ อนิวัตกูลชัย นายกิตติศักดิ์ ศิลปะเปียซื่อ 
• เขต ๒ นายสุวรรณ เกษมทะเล นางสาวนงนุช เลิศด้วยลาภ นางสาววาสนา สอนทองคำ นายสมยศ คุณเวียง 
• เขต ๓ นายประสงค์ จงกลนี นายสมพงษ์ เลิศด้วยลาภ นายสุรเศรษฐ์ กิจศิริกูล 
• เขต ๔ นายณัฐ แก้วนันท์ นายนิพิฐพงษ์ วิเศษรัตน์ นางสาววรรณภา อินทร์ศร

อำเภอสีคิ้ว

• เขต ๑ นายศิริพงษ์ มกรพงศ์
• เขต ๒ นายสุกฤษณ์ วัชรมาลีกุล นายวรพงน์ บุ่นจันทึก นายเลิศชัย ธนประศาสน์ นางสาวอินทิรา พิมพ์อุบล 

อำเภอปักธงชัย

• เขต ๑ นายภานุ ยนต์สุข นายธนกฤต จิตตเสถียร
• เขต ๒ นายวิภพ วงศ์ปรึกษา นายพรเทพ ศิริโรจนกุล นายชัยชาญ กล่ำพรมราช นายพรหมพิริยะ จิตตเสถียร 

อำเภอครบุรี

• เขต ๑ นายชยุต พงศ์ธนทรัพย์ นายสุกิต เลียบกระโทก
• เขต ๒ นายคำผอง ตรีราษ นางอุไรวรรณ นิยมการ

อำเภอโนนสูง

• เขต ๑ นายสถาพร โชติกลาง นายธนวัฒน์ ผาสุขมูล
• เขต ๒ นายสมพร จินตนามณีรัตน์ นายพงษ์สุระ จินตนามณีรัตน์ 

อำเภอด่านขุนทด

• เขต ๑ นายเจษฎา ทิพยาภรณ์ นายไกรฤกษ์ เสียนขุนทด นางวรรณศิริ ศิริพูล
• เขต ๒ นายอภิรักษ์ ด่านกุล นายธวัฒน์ ศิริปัญญานันต์ 

อำเภอพิมาย

• เขต ๑ นายสาทิช บวชสันเทียะ นายจาตุรงค์ ถนอมกลาง นายวิศุทธ์ วิเศษจินดาวัฒน์
• เขต ๒ นายปิยทัศน์ พรพินิจพงศ์ นายกมลพัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ นายพงษ์พันธุ์ พันธุ์ศรีนคร 

อำเภอสูงเนิน นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์

อำเภอเสิงสาง นางจินตนา จันทรเมนชัย

อำเภอหนองบุญมาก นายสมบัติ ศรีจันทร์รัน์ นายชูชาติ ประสาทไทย นายศุภชัย ไพบูลย์วงศ์

อำเภอห้วยแถลง นายอรอนงค์ ธนสุนทรสุทธิ์ นายสมศักดิ์ ไตรศักดิ์

อำเภอชุมพวง นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ นายอภิชา จงจิระ นายประทวน วัชรประทีป

อำเภอเฉลิมพระเกียรติ นายชาคริต ทิศกลาง

อำเภอแก็งสนามนาง นางพัชราวรรณ นรากิจพงศ์

อำเภอขามทะเลสอ นายไพบูลย์ แก้วไพฑูรย์ นางสุพัตรา มากเมือง

อำเภอขามสะแกแสง นายบุญธรรม เขตอริยกุล นายชวาล พัฒนกําชัย

อำเภอคง นายไกรวัจน์ จุลศิริวัฒนกุล นายนพวิทย์ ควรขุนทด

อำเภอจักราช นายชัยยุทธ วรรตนิกุล นายวิสูตร เจริญสันธิ์ นายสิทธิชัย เลียนอย๋าง

อำเภอโชคชัย นายสมชาย ทมตะขบ นายซ็าย ผลกระโทก นายประดิษฐ์ ทองจุ๋น

อำเภอเทพารักษ์ นายชาญชัย ศรีวิพัฒน์ นายเสกสรร วิวัฒน์สกุลรัตน์ นายสมพงษ์ เทียบขุนทด

อำเภอโนนแดง นางพีระดา บูรณะบัญญัติ นายประกาศิต ประภาภูวมาศ

อำเภอโนนไทย นายแชน ธัญญานนท์ นายสุรศักดิ์ ตันติสวัสดิ์

อำเภอบัวลาย นายอัมพร ม็วงฉะ นางสาวจุฑาสัณห์ ตั้งตรีวีระกุล นายเวโรจน์ โชติศิวะพลบุญชู นายเวียง ชิดนอก

อำเภอบัวใหญ๋ นายพิเชฎฐ์ ชัยศรี นายพิทักษ์พงษ์ ศิริศักดิ์ นายพิเชษฐ์ ปิติเสรีวงศ์

อำเภอบ็านเหลื่อม นายณัฐพัชร์ โพธิ์ธีรภัทร นายโกวิทย์ เลาวัณย์ศิริ นายประภาส นิลสง๋า ร.ต.บรรหาญ การนอก

อำเภอประทาย นายราเมศ เรืองธนานุรักษ์ นายบัวพันธ์ จันทร์คําวงษ์

อำเภอพระทองคํา นายสมิทธ ปลั่งกลาง นายไพฑูรย์ เพ็ญจันทร์

อำเภอเมืองยาง นายประเวทย์ ชุมสงฆ์

อำเภอลําทะเมนชัย นางสาวปฺยะนุช ยินดีสุข นายก็องภพ วงศ์เกียรติขจร

อำเภอวังน้ำเขียว นายเศกสิทธิ์ ไตยเวียง นายชุณห ศิริชัยคีรีโกศล

อำเภอสีดา นายศิริพิพัฒน์ ประจิต นายบุญเลียง อดทน นายธํารงค์ ไสยราม นายวัชรินทร์ ศรีวิชา นายภานุมาศ แก้วนอก

รายชื่อเพิ่มเติม ณ วันที่ ๓-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ 

อำเภอปากช่อง เขต ๒ นายนที ขาวละออ

อำเภอครบุรี เขต ๑ นางสาวจันทิมา หยุดกระโทก เขต ๒ นางสาวพนอจิต ยิ้มกระโทก นางนิธิการต์ ด่านใหม่

อำเภอด่านขุนทด เขต ๑ นายวุฒิ์ธิระ ครุฑขุนทด เขต ๒ นายอาชวิน ครุฑขุนทด นายสมาน เกาสันเทียะ

อำเภอเสิงสาง นายสมชาย แพทย์เมืองจันทร์

อำเภอโนนสูง เขต ๑ นายสิทธิชัย พุฒกลาง

รายชื่อเพิ่มเติม ณ วันที่ ๕-๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ 

โดยในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 มีผู้สมัครนายก อบจ. เพิ่ม 1 คน คือ ดร.ตรีเพชร พรหมนิติพันธุ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติไทย

อำเภอปากช่อง เขต 3 นายสมเกียรติ เลิศด้วยลาภ นายสนธยา ชะวาลา เขต 4 นางณภัทร์ศรัญญู์ เพศประเสริฐ

อำเภอสีคิ้ว เขต 1 นายอินทร์ เหมจันทึก เขต 2 นางกัลยา สื่อสวัสดิ์วณิชย์

อำเภอโนนสูง เขต 1 นายกฤติพงศ์ ถวิลสุวรรณวัง เขต 2 นายวิสิฐ พินจอหอ

อำเภอปักธงชัย เขต 1 นายทรงกช พันธ์เกษม

อำเภอครบุรี เขต 1 นายคำผอง ศรีราษ เขต 2 นายพัตถชัย ชัชวาล นายสุขชัพ ชีระชลสุข

อำเภอด่านขุนทด เขต 1 นายจำลอง บุญเอก

อำเภอพิมาย เขต 1 นายสมบูรณ์ นิยมไร่

อำเภอบัวลาย นายสราวุธ สุรรักษ์ดิสัย

อำเภอสูงเนิน นายณัฐพงษ์ วงศ์สว่างวานิช นายสัมนา ฉัตรบูรณจรัส นายสมนึก ศรีสันเทียะ

อำเภอแก้งสนามนาง นายอุทิศ โคขามลา นางศศิธิดา อะศิลา

อำเภอขามทะเลสอ นายเชิด ศรีสันเทียะ

อำเภอคง นายสมศรี รถเพชร ร.ต.สายชล โฉมกลาง

อำเภอโนนแดง นางปรานอม ขอผลกลาง

อำเภอโนนไทย นายอัมพร ม่วงฉะ

อำเภอประทาย นายกฤษณ์ ทองนาเมือง

อำเภอเมืองยาง นายยุ่น นารถจันทึก นายสิริพรชัย ฐิติเจริญวงศ์

อำเภอลำทะเมนชัย นายจิณรพนธ์ วิธนเศรษฐี

อำเภอสีดา นายนำชัยทูลถวาย อ่วยนอกรักชาติ

อำเภอห้วยแถลง นางสาวกวินดา อินทร์บำรุง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๕๒ วันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓