19thDecember

19thDecember

19thDecember

 

January 29,2021

เพลงโคราช

ที่ชื่อ “เพลงโคราช” เพราะเป็นเพลงพื้นบ้านที่เล่นกันเฉพาะโคราชที่จังหวัดอื่นไม่มี เพลงโคราชมีที่มาอย่างไรไม่ปรากฏเป็นหลักฐานแน่ชัด เพียงแต่มีตำนานเล่าว่า ลูกสาวพญานาคร้องเพลงอยู่คนเดียวในป่าแถบหนองบุนนาก (อำเภอหนองบุญมาก) นายพรานแอบได้ยิน แล้วนำมาร้องให้คนอื่นฟังในลักษณะเพลงก้อมหรือเพลงคู่สอง และร้องต่อๆ กันมา บ้างก็ว่าพัฒนาการมาจากเพลงก้อม (เพลงสั้นๆ) บ้าง จากลิเก ลำตัดบ้าง

 

ที่ร้องโต้ตอบแก้กันระหว่างชายกับหญิง ทำนองตีฝีปากโต้คารมกันบ้าง เกี้ยวพาราสีกันบ้าง ชมธรรมชาติบ้าง หยาบคายเป็นสองแง่สองง่ามบ้าง เพื่อความสนุกสนานรื่นเริง วรรคหนึ่งใช้คำตั้งแต่ ๔-๗ คำ บทหนึ่งมี ๓ คำกลอน มีการเล่นคำสัมผัสในอย่างสละสลวย ทำให้เกิดความไพเราะ ซึ่งผิดแผกไปจากเพลงหลัก ใช้โวหารหรือการเปรียบเทียบที่คมคาย มีเอกลักษณ์เด่นเฉพาะตัวคือใช้การปรบมือให้จังหวะในบางตอน ไม่มีเครื่องดนตรีใดๆ ประกอบ และใช้ภาษาถิ่นโคราช เพลงโคราชจึงเป็นสมบัติของคนโคราชโดยแท้

 

แต่เดิมเล่นกันเพื่อความสนุกสนานในยามว่างตอนกลางคืน หรือเพื่อความผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เช่น หลังจากปักดำ เกี่ยวข้าว งานวัด สร้างบ้านยกเรือน ฯลฯ คนเล่นจึงเป็นหมอเพลงสมัครเล่น ต่อมาพัฒนาเป็นอาชีพ ต้องจ้างหาไปแสดง ในสมัยนั้นหมอเพลงจะอยู่กันคนละที่ไม่รู้จักกัน ตามแต่เจ้าภาพจะพอใจไปติดต่อมา เมื่อมาเล่นต่างก็มุ่งเอาแพ้เอาชนะกัน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนฟัง เมื่อมีการจ้างหาไปเล่นในงานมหรสพสมโภชต่างๆ จึงพัฒนาเป็นคณะ หมอเพลงจึงมักจะอยู่ในคณะเดียวกัน ไม่ได้เล่นเพื่อเอาแพ้ชนะกันเหมือนก่อน

 

การขึ้นเพลงจะต้องใช้มือป้องหู เสียงร้องว่า “ไช ชะ ชะ ชิง ชาย....” บางจังหวะรำรุก-ถอย บางจังหวะรำแบบขย่มตัว บางช่วงมีตบมือ ส่วนท่อนสุดท้ายจะเอื้อนเสียงช้าลงเหมือนเป็นนัยว่า จะจบบทกลอน หากบทกลอนมีเนื้อถูกใจผู้ฟังๆ ก็จะโห่ด้วยเสียง ฮิ้ว......ยาวๆ เพื่อแสดงถึงความชอบอกชอบใจหรือถูกใจ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมของการฟังเพลงโคราชมาตั้งแต่โบราณกาเหล่านี้ ทำให้เพลงโคราชมีเสน่ห์ 

ผู้แสดงหรือผู้เล่นเพลงโคราช เรียกว่า หมอเพลง คณะหนึ่งมี ๔ คน เป็นชาย ๒ คน หญิง ๒ คน โดยเล่นทีละคู่สลับเปลี่ยนกัน คู่ที่รอเล่นจะนั่งที่ชายขอบโรงเพลง

 

การแต่งกาย ทั้งชายและหญิงนุ่งโจงกระเบน ชายสวมเสื้อคอกลมแขนสั้นไม่มีปก มีผ้าขาวม้าคาดเอว ภาษาโคราชเรียกว่า “เคียนพุง” หญิงสวมเสื้อแขนสั้น บางคนมีผ้าสไบพาดเฉียงไหล่ ทั้งชายและหญิงไม่สวมรองเท้า

ในจดหมายเหตุ เรื่องมณฑลนครราชสีมา กล่าวว่า เพลงโคราชเป็นการเล่นง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเหมือนการเล่นหรือการแสดงอื่นๆ คือไม่ต้องจัดรูปเรื่อง ไม่ต้องมีพิณพาทย์ราดตะโพนหรือเครื่องดนตรีอื่นใด ไม่ต้องตบแต่งเครื่องอย่างหนึ่งอย่างใดเหมือนลิเก โขน สำหรับผู้เล่นเพลงฝ่ายหญิงนิยมว่าต้องเป็นโสดหรือเป็นนางสาว ดังนั้น เมื่อมีสามีแล้วมักจะเลิกเล่นเพลง แต่ฝ่ายชายไม่จำกัดในเรื่องการแต่งงาน

เวที ในสมัยก่อนการเล่นเพลงโคราชไม่จำกัดสถานที่ อาจเล่นบนเรือน ลานบ้าน ต่อมามีการจ้างหาไปแสดงในงานต่างๆ จึงมีการสร้างเวที เรียกว่า โรงเพลง โดยยกพื้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสสูงประมาณเพียงเอว ขนาดของเวทีกว้างพอก้าวได้ ๓-๕ ก้าว แต่ละมุมโรงเพลงจะมีเสาสูงประมาณท่วมหัวพอสวยงาม ใช้ก้านมะพร้าวมุงเป็นหลังคากันน้ำค้าง มักมีคะนนน้ำตั้งไว้ที่มุมเวทีให้หมอเพลงใช้ดื่ม 

 

 ในแต่ก่อนนั้นถือว่าหมอเพลงเป็นอาชีพที่มีเกียรติ ทางราชการได้ยกเว้นการเกณฑ์แรงงานโยธา แต่ถ้าทางราชการมีงานสมโภชและร้องขอหมอเพลงก็จะไปแสดงให้ฟรีเป็นการตอบแทน

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๖๔ วันพุธที่ ๒๗ เดือนมกราคม - วันอังคารที่ ๒ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔


955 4,356