August 06,2021
‘วิเชียร’กลับโคราชตามแผน ต่อเวลา‘สมศักดิ์’นั่งขอนแก่น
ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ผงาดขึ้นปลัด มท. โยก “วิเชียร” กลับมาโคราชหลังให้ไปพักรอที่ชัยภูมิ ๔ เดือน คาดนั่งยาวจนเกษียณ พร้อมโยก “ไกรสร กองฉลาด” จากนครพนมมาสู่ชัยภูมิ และต่อเวลา “สมศักดิ์ จังตระกุล” บริหารขอนแก่นบ้านเกิดอีก ๑ ปีจนเกษียณ
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔ มีมติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๒๘ ราย โดยให้นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี อายุราชการเหลืออีก ๖ ปี เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกร ระดับทรงคุณวุฒิ) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน, นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่, นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท, นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ, นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
แผน ‘วิเชียร’ กลับโคราช
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด, นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ย้ายกลับมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์, นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี, นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป้นผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร, นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, นายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร, นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว, นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี, นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ต่อเวลา ๕ ราย
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบการขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับสูง จำนวน ๕ ราย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ได้แก่ นายภัคธรณ์ เทียนไชย ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต่อไปอีก เป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๒), นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑), นายสมศักดิ์ จังตระกุล ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑), นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) และนายวิชวุทย์ จินโต ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) โดยทั้ง ๕ รายที่ขอต่อเวลาอีก ๑ ปีนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
นายวิเชียร-นางณัฏฐีนีภรณ์ จันทรโณทัย
‘วิเชียร’กลับมาเกษียณโคราช
ทั้งนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ จากนั้นวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ ได้รับคำสั่งให้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเมื่อครบวาระ ๔ ปี ได้ขอต่อเวลาราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ๑ ปี (ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓) จากนั้นเมื่อครบ ๑ ปี ได้ขอต่อเวลาอีก ๑ ปี ซึ่งในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ที่ประชุม ครม.ห็นชอบให้นายวิเชียร จันทรโณทัย ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาต่อไปอีกเป็นเวลา ๑ ปี (เป็นครั้งที่ ๒) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ รวมเวลาการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ๖ ปี แต่ยังไม่ทันที่จะอยู่ครบเวลา ๑ ปีที่ขอต่อเวลา เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๔ ครม.มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยย้ายนายวิเชียรไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิอีกครั้ง แล้วแต่งตั้งนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยทั้งคู่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา โดยส่วนหนึ่งมองว่า นายกอบชัยจะเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ และมีความใกล้ชิดกับผู้บริหารกระทรวงฯ จึงย้ายมาเพื่อให้ได้เกษียณในจังหวัดใหญ่คือนครราชสีมา อีกส่วนหนึ่งมองว่า เป็นการใช้เทคนิคเพื่อให้นายวิเชียรกลับมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง เพราะไม่สามารถต่อเวลาราชการได้เกิน ๒ ครั้ง จึงจำเป็นต้องให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิก่อน และล่าสุดเมื่อมีคำสั่งนี้ออกมาจึงเท่ากับว่า นายวิเชียรเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเพียง ๔ เดือน (๓๑ พฤษภาคม-๓๐ กันยายน ๒๕๖๔) เท่านั้น และได้ย้ายกลับมาจังหวัดนครราชสีมา และคาดว่าจะอยู่จนเกษียณอายุราชการในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕
โดยในระหว่างที่ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายวิเชียร จันทรโณทัย ได้ขับเคลื่อนจัดตั้งอุทยานธรณีชัยภูมิ หวังให้ก้าวไปสู่การเป็นแหล่งมรดกทางธรณีวิทยาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมทั้งนำแนวทางการพัฒนาอุทยานธรณีมาเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดให้มีความยั่งยืน ทั้งในด้านอนุรักษ์ การท่องเที่ยว การศึกษา การพัฒนาเศรษฐกิจ และการบริหารจัดการแบบองค์รวม ซึ่งแต่งตั้งให้นายอร่าม โล่ห์วีระ นายก อบจ.ชัยภูมิ เป็นผู้อำนวยการอุทยานธรณีชัยภูมิ อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่นายวิเชียรเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาก็ได้ร่วมผลักดันอุทยานธรณีโคราชด้วย ซึ่งปัจจุบันรอการรับรองจากยูเนสโก และต้องติดตามว่า จะสำเร็จใจสมัยที่นายวิเชียร จันทรโณทัย เป็นผู้ว่าฯ หรือไม่
โยก ‘ไกรสร’ มาชัยภูมิ
ทางด้านนายไกรสร กองฉลาด ซึ่งจะย้ายจากนครพนมมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมินั้น เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตา เพราะวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ก็ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ท่ามกลางความเสียดายเพราะนอกจากจะเป็นลูกหลานชาวสุรินทร์แล้ว นายไกรสรยังเป็นผู้ว่าฯ ที่มีผลงานเป็นที่น่าชื่นชม โดยตลอดระยะเวลาได้ตั้งใจทำงานอย่างหนัก ลงพื้นที่พบปะและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนเป็นประจำ จึงทำให้เป็นผู้ว่าฯ ที่คนสุรินทร์รักและชื่นชอบมาก และล่าสุดมติ ครม. วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ย้ายนายไกรสร กองฉลาด มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
นายไกรสร กองฉลาด เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๐๘ นับเป็น “สิงห์ดำ” เพราะจบการศึกษารัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังจบปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สังคมวิทยาการพัฒนา) มหาวิทยาลัยขอนแก่น เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์, ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด, พ.ศ.๒๕๕๗ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ
ต่ออายุ ‘สมศักดิ์’ บริหารขอนแก่น
สำหรับกรณีการต่อเวลาราชการของข้าราชการ ๕ ราย ซึ่งมีชื่อนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ด้วยนั้น นับเป็นการขอต่อเวลาอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๖๕๖๔-๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ โดยนายสมศักดิ์ เกิดเมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๐๕ ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาวอำเภอชุมแพ จ.ขอนแก่น จบการศึกษาปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต (สาขาบริหารรัฐกิจ) และปริญญาตรีเศรษฐศาสตรบัณฑิต ส่วนปริญญาโทจบสาขารัฐประศาสนศาสตร์ นิด้า รวมทั้งจบปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและเอกชน) เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น พ.ศ.๒๕๕๑ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, พ.ศ.๒๕๕๒ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี, พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย, ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาอาชีพและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สพถ.) สำนักนโยบายและแผน กระทรวงมหาดไทย, พ.ศ.๒๕๕๘ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี, วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งการต่อเวลาในตำแหน่งผู้ว่าฯ ขอนแก่นอีก ๑ ปีนี้จะทำให้นายสมศักดิ์เกษียณอายุราชการในตำแหน่งนี้ที่บ้านเกิด
ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการสับเปลี่ยนหน้าที่ ย้าย หรือโอนข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งระดับ ๑๐ ซึ่งมีตำแหน่งที่มีลักษณะบริหาร (ผู้ว่าราชการจังหวัด) ระบุว่า ให้ดำรงตำแหน่งวาระละ ๔ ปี หากครบ ๔ ปี ให้ปลัดกระทรวงผู้บังคับบัญชาเป็นผู้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ส่วนในการปฏิบัติขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งนักบริหาร ๑๐ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ความเห็นชอบ โดยขอต่อเวลาได้ครั้งละไม่เกิน ๑ ปี และไม่เกิน ๒ ครั้ง
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๐ วันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
76 1,632