29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

August 07,2021

ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต ‘เสี่ยบรรเจิด’จ้างฆ่าพระหมอ


ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ‘เสี่ยบรรเจิด’ คหบดีใหญ่เมืองอุดรฯ จ่าย ๓๐๐,๐๐๐ บาท จ้างวานฆ่าพระหมอ ขณะกลับจากบิณฑบาต เมื่อปี ๒๕๕๘ ส่วน ด.ต.ชาญชัยผู้จัดหามือปืน และคนลั่นไก จำคุกตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ ศาลจังหวัดอุดรธานี อ่านคำพิพากษาคดีฆ่าพระอาจารย์บัณฑิตหรือพระหมอ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๘ โดยมีจำเลยประกอบด้วย นายปัญจ๋า ชารีแสน จำเลยที่ ๑ (มือปืน) ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ จำเลยที่ ๒ (จัดหามือปืน) นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ จำเลยที่ ๓ (ผู้จ้างวาน) และนายบุญนาค หงษาคำ จำเลยที่ ๔ โดยศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษา ประหารชีวิตจำเลยที่ ๑, ๒ และ ๓ ส่วนจำเลยที่ ๔ ยกฟ้อง ทั้งนี้ จำเลยที่ ๑ และ ๒ ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน จึงลดโทษให้ ๑ ใน ๓ เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ ๓ ให้การปฏิเสธมาตลอด จึงไม่มีเหตุให้ลดโทษ คงให้ประหารชีวิต สรุปว่า จำเลยที่ ๓ นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ศาลพิพากษาประหารชีวิต จำเลยที่ ๑-๒ นายปัญจ๋า ชารีแสน กับ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ ๔ นายบุญนาค หงษาคำ ศาลพิพากษายกฟ้อง

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๘ พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระนักปฏิบัติธรรมสายวัดป่าหลวงตามหาบัว และเป็นพระเลขาฯ ของพระอุดมญาณโมลี เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี ฝ่ายธรรมยุต ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง จำนวน ๒ นัด มรณภาพในผ้าเหลือง ขณะออกรับบิณฑบาตบนทางเดินในสวนยางพาราก่อนถึงวัดตอสีเสียด สร้างความเศร้าสลดกับพุทธศาสนิกชนอย่างมาก โดยพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.ในขณะนั้น พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักร์ทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผช.ผบ.ตร. ระดมชุดสืบสวนมือดี ทั้งตำรวจกองปราบปราม ชุดสืบสวนภูธรภาค ๔ และชุดสืบสวนภูธร จว.อุดรธานี ติดตามคนร้ายกลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและสร้างความหดหู่กับพุทธศาสนิกชน เพราะถือว่าคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่เว้นกระทั่งพระภิกษุนักปฏิบัติ ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงเดือนคือวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘ สามารถจับกุมตัวมือปืนได้ คือนายปัญจ๋า หรือโบ้ ชารีแสน อายุ ๔๙ ปี ผู้ต้องหาซึ่งเป็นมือยิงลั่นไกฆ่าพระอาจารย์บัณฑิต ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองอุดรธานี หนึ่งในทีมสังหารและคนหามือปืน และนายบุญนาค หงษาคำ ผู้ต้องหาที่ ๔ ซึ่งเป็นคนดูต้นทาง โดยสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท โดยพาดพิงถึงนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ หรือ เสี่ยบั้ก ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร คหบดีคนดังของอุดรธานี และต่อมาถูกจับกุมในข้อหาบงการฆ่าพระอาจารย์บัญฑิต สุปัณฑิโต

ต่อมาวันที่ ๒๘ มีนาคม พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ์ ผบช.ภ.๔, พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวินิชย์ รอง ผบช.ภ.๔ รักษาการ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พล ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.กองกิจการพิเศษ สตช., พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี พงส.ผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด ควบคุมตัว ๓ ผู้ต้องหาร่วมฆ่าพระหมอบัณฑิตกลับถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี โดยนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ถูกแยกนำฝากขังที่ศาลทหาร มทบ.๒๔ อุดรธานี เพราะให้การปฏิเสธ และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ศาลทหารส่งตัวไปควบคุมตัวในเรือนจำกลางอุดรธานี ขณะที่ ด.ต.ชาญชัย สร้องสังวาลย์ และนายบุญนาค หงษาคำ ผู้ต้องหาคดีอีก ๒ คน ถูกแยกขึ้นรถกระบะ ๔ ประตู เดินทางมายังห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี รอเจ้าหน้าที่ตำรวจเบิกตัวนายปัญจ๋า ชารีแสน มาจากเรือนจำกลางอุดรธานี เพื่อนำตัวทีมฆ่าพระหมอทั้ง ๓ คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียด

จากนั้นในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๘ เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ ๒๔ และเรือนจำกลางอุดรธานี ได้นำตัวนายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ ๒๔ ที่ จ ๑๘ก/๒๕๕๘ ข้อหาใช้ให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ไปยังศาลทหารมณฑลทหารบกที่ ๒๔ เพื่อพิจารณาฝากขังผลัดที่ ๒ แต่ภายหลังก็เห็นนายบรรเจิดออกมาใช้ชีวิตในสังคมเมืองอุดรธานี กระทั่งถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตในวันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๔

อนึ่ง นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท อุดรพัฒนา(๑๙๙๔) จำกัด และประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร จบการศึกษาปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ วิทยาลัยบัณฑิตบริหารธุรกิจ, ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ, ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยแปซิฟิคเวสเทิร์น สหรัฐอเมริกา ๒๕๓๗ และได้รับปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ปี ๒๕๕๔ เคยดำรงตำแหน่งทางสังคม อาทิ ผู้พิพากษาสมทบศาลจังหวัดหนองบัวลำภู แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว, อุปนายกสมาคมจีนเตี้ยอันแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดอุดรธานี, ที่ปรึกษา ชมรมกองพันนเรศวรอุดรธานี, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๘, ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘, ที่ปรึกษาเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี, คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ ๖ มีนาคม ๒๕๔๖, ประธานนักศึกษารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ รุ่นที่ ๑๕ และประธานศิษย์เก่า โรงเรียนประจันต ราษฎร์บำรุง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๐ วันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔


994 1694