19thApril

19thApril

19thApril

 

August 20,2021

เปิดคลัง ‘นายกเทศมนตรี’ ‘๑ นคร ๔ เมือง’ โคราช ใครอู้ฟู่มากที่สุดในโคราช?

การเลือกตั้ง “นายกเทศมนตรี” พร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ หลังจากที่ว่างเว้นมากว่า ๗-๘ ปี สำหรับใน “จังหวัดนครราชสีมา” มีทั้งหมด ๙๐ เทศบาล แยกเป็นเทศบาลนคร ๑ แห่ง เทศบาลเมือง ๔ แห่ง และเทศบาลตำบล ๘๕ แห่ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้นายกเทศมนตรีหน้าใหม่เข้ามาหลายคน ส่งผลให้นายกฯ เก่าหลายคนต้องปราชัย

การพ้นจากตำแหน่งและเข้ารับตำแหน่งนั้น ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๓๔ (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีหน้าที่และอํานาจกําหนดให้ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และเจ้าหน้าที่ของรัฐยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมทั้งตรวจสอบและเปิดเผยผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา ๑๐๒ (๙)

“โคราชคนอีสาน” ขอนำบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “นายกเทศมนตรี” ที่มีการเปิดเผยต่อ ป.ป.ช.มานำเสนอให้ผู้อ่านได้รับทราบ ซึ่งฉบับนี้ ขอนำเสนอในส่วนของ “นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา” ๑ ราย และ “นายกเทศมนตรีเมือง” ๔ ราย ได้แก่ เทศบาลเมืองบัวใหญ่ เทศบาลเมืองสีคิ้ว เทศบาลเมืองปากช่อง และเทศบาลเมืองเมืองปัก 

• นายกฯ ประเสริฐผู้ไร้หนี้สิน

เริ่มจาก “เทศบาลนครนครราชสีมา” ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแบบยกทีม “โคราชชาติพัฒนา” โดยตัวนายกเทศมนตรี ประเสริฐ บุญชัยสุข” นั้น เคยดำรงตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นมาก่อนแล้ว ก่อนที่จะไต่ระดับไปสู่การเมืองระดับชาติ และได้รับเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่จะหวนกลับมาสู่สังเวียนการเมืองท้องถิ่นอีกครั้งในตำแหน่ง “นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา” เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ ซึ่งเมื่อฉบับที่ผ่านมา “โคราชคนอีสาน” ได้นำเสนอบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่แสดงต่อป.ป.ช.ไปแล้ว แต่ขอนำมาทวนให้ทราบอีกครั้ง

“ประเสริฐ บุญชัยสุข” อายุ ๖๕ ปี มีอาชีพทนายความ และระหว่างปี พ.ศ.๒๕๖๓-เมษายน ๒๕๖๔ ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา (สวาทแคท) มีรายได้จากอาชีพทนายความ ๒๔๔,๐๐๐ บาท เงินทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ๑๔๐,๐๐๐ บาท รวมมีรายได้ ๔๘๔,๐๐๐ บาทต่อปี ไม่มีหนี้สิน ส่วนคู่สมรส (คู่ขวัญ) ได้รับเงินบำนาญ ๕๖๒,๑๘๕ บาทต่อปี สำหรับทรัพย์สินของประเสริฐ ประกอบด้วย เงินฝาก ๑,๙๐๑,๐๖๗.๐๙ บาท ที่ดินมูลค่า ๑๗,๘๗๔,๑๕๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า ๘๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๗๐๐,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๙๕๒,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๒๒,๒๒๗,๒๑๗.๐๙ บาท โดยไม่มีหนี้สิน ส่วนคู่สมรส มีเงินฝาก ๒๖,๒๓๓.๒๒ บาท ที่ดิน ๓,๑๓๘,๑๑๗ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๒,๗๐๐,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๖๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๖,๔๖๔,๓๕๐.๒๒ บาท ส่วนหนี้สินระบุเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน/ธนาคาร จำนวน ๓๔๐,๔๐๐.๑๙ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคนจำนวน ๒๘,๖๙๑,๕๖๓.๓๑ บาท

 

• นายกฯ หญิง ทม.บัวใหญ่

มาถึง “นายกเทศมนตรีเมือง” ทั้ง ๔ ราย เริ่มจาก “สุเนตร ศิลปชัยเดช” นายกเทศมนตรีเมืองบัวใหญ่ อายุ ๖๔ ปี เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามา มีคู่สมรสคือ “พิมาน ศิลปชัยเดช” อายุ ๖๘ ปี มีลูก ๔ คน โดย “สุเนตร” มีรายได้จากการทำเกษตรกรรม ๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อปี และรายได้จากการขายผ้าไทย/โอทอปอีก ๖๐,๐๐๐ บาทต่อปี รวมมีรายได้ ๕๖๐,๐๐๐ บาท ในขณะที่รายจ่าย แยกเป็นค่าอุปโภคบริโภค ๑๒๐,๐๐๐ บาท และค่าผ่อนรถยนต์ ๑๕๕,๙๖๔ บาท มีรายการเสียภาษี ๑๒๗,๗๕๐ บาท ส่วนสามีไม่ปรากฏรายได้และค่าใช้จ่าย

สำหรับทรัพย์สินของ “สุเนตร ศิลปชัยเดช” เป็นเงินฝาก ๕๗๘,๗๕ บาท, เงินลงทุน (ร้านเจียงบริการ) ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, ที่ดิน ๓๗ แปลง มูลค่า ๑๒๙,๘๐๘,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท, ยานพาหนะ ๔๕๐,๐๐๐ บาท ส่วนสามีมีเงินฝาก ๑๐,๐๐๐ บาท, ที่ดิน ๑ แปลง มูลค่า ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโรงเรือน/สิ่งปลูกสร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสองคน ๑๔๗,846,086 บาท ในขณะที่หนี้สิน “นายกฯสุเนตร” มีเงินกู้ธนาคาร ๑๓,๘๕๘,๙๒๕.๕๑ บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือซึ่งกู้จากนางอิ่มจิตร ศักดิ์กุลพิทักษ์ ๓ ฉบับ รวมเป็นเงิน ๒๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมหนี้สิน ๓๘,๘๕๘,๙๒๕.๕๑ บาท  

 

• “ปรีชา” นายกเทศมนตรีสุดอู้ฟู่

มาถึง “นายกเทศมนตรีเมืองสีคิ้ว” นั่งเก้าอี้มาหลายสมัย และยังได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง “ปรีชา จันทรรวงทอง” อายุ ๖๕ ปี เป็นพี่ชาย “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” อดีตรมช.คมนาคม และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย “ปรีชา” สมรสกับ “มาลีรัตน์ จันทรรวงทอง” ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เสรีภัณฑ์ ๒๐๑๗ มีลูก ๓ คน สำหรับรายได้ของ “นายกฯ ปรีชา” มาจากเงินเดือนและโบนัส ๑,๐๐๕,๓๙๖.๘๔ บาท ค่าเช่าโรงเรือน ๔,๔๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนภริยามีรายได้จากค่าเช่าโรงเรือน ๔,๘๐๐,๐๐๐ บาท และรายได้จากการขายสินค้า ๒,๒๒๘,๑๓๘ บาท

ในขณะที่รายจ่ายของ “ปรีชา” ประกอบด้วย ค่าอุปโภคบริโภค ๓๖๐,๐๐๐ บาท, ค่าเบี้ยประกัน ๑๐๐,๐๐๐ บาท, ค่าเล่าเรียนบุตร ๓๐๐,๐๐๐ บาท ค่าท่องเที่ยว ๑๐๐,๐๐๐ บาท เงินบริจาค ๓๗๐,๐๐๐ บาท ปรากฏข้อมูลเสียภาษี ๕,๔๔๕,๓๙๖.๘๔ บาท ส่วนภริยามีรายจ่ายเป็นค่าอุปโภคบริโภค ๖๐๐,๐๐๐ บาท ค่าเบี้ยประกัน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ผ่อนที่อยู่อาศัย ๑,๕๖๐,๐๐๐ บาท ผ่อนรถยนต์ ๑๖๐,๐๐๐ บาท ค่าอุปการะบิดามารดา ๖๐,๐๐๐ บาท ค่าท่องเที่ยว ๑๐๐,๐๐๐ บาท และเงินบริจาค ๑๘๓,๐๐๐ บาท เสียภาษี ๗,๐๒๘,๑๓๘ บาท 

สำหรับทรัพย์สินของ “นายกฯปรีชา” แยกเป็นเงินฝาก ๒,๔๐๖,๗๐๑.๒๘ บาท กองทุนรวม ๑๒๓,๔๙๕.๔๗ บาท ที่ดิน ๗๘ แปลง มูลค่า ๗๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๒๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๗๐๕,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๕,๓๖๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๑๐,๐๙๕,๑๙๖.๗๕ บาท ในขณะที่ภริยา มีทรัพย์สิน เป็นเงินฝาก ๔,๑๑๖,๒๘๑.๑๓ บาท เงินลงทุน ๙๐๐,๐๐๐ บาท ที่ดิน ๔ แปลง มูลค่า ๑๐,๑๐๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๑๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๓,๑๓๘,๘๘๔ บาท สิทธิและสัมปทาน ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๓๐,๘๕๕,๑๖๕.๑๓ บาท รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกัน ๑๔๐,๙๕๐,๓๖๑.๘๘ บาท แตไม่ปรากฏหนี้สินของ “นายกฯ ปรีชา” มีเพียงภริยาที่มีเงินกู้จากสถาบันการเงินจำนวน ๕,๑๘๓,๖๗๙.๘๙ บาท 

 

• นายกฯ ปากช่อง กระเป๋าตุง

มาถึง “คมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ” นายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง ซึ่งนั่งเก้าอี้มาแล้วหลายสมัยเช่นกัน สมัยนี้ก็ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีก สมรสกับ “สุนัน  ลิ้มปัญญาเลิศ” ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจ หจก.ปากช่องโลหะกิจ บจก.ปากช่องคอมเพล็กซ์ ๒๐๑๔ บจก.สรินทร์กรุ๊ป และยังมีตำแหน่งเป็นเลขานุการนายกเทศมนตรีเมืองปากช่องด้วย มีลูกชาย ๒ คน ข้อมูลรายได้ของ “นายกฯ คมกฤษณ์” ที่แสดงไว้ ประกอบด้วย เงินเดือน ๕๔,๐๐๐ บาท เงินประจำตำแหน่ง ๑๐๘,๐๐๐ บาท และค่าตอบแทน ๑๐๘,๐๐๐ บาท และได้เงินโบนัสจากโรงรับจำนำ ๑,๑๖๙,๘๕๘.๘๔ บาท รวมรายได้ ๑,๙๓๕,๘๕๘.๘๔ บาท ในขณะภริยามีรายได้จากเงินเดือน ๒๔๐,๐๐๐ บาท ค่าตอบแทน ๑๘๙,๐๐๐ บาท และเงินปันผลจาก ๓ บริษัท ๓,๙๐๐,๐๐๐ บาท

สำหรับทรัพย์สินของ “คมกฤษณ์” ประกอบด้วย เงินสด ๓๕๐,๐๐๐ บาท เงินฝาก ๗๔,๖๙๕.๒๑ บาท ที่ดิน ๒๘ แปลง มูลค่า ๑๐๖,๖๐๙,๗๐๐ บาท โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง ๘,๗๒๘,๐๐๐ บาท ยานพาหนะมูลค่า ๑๓๐,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๔๑๐,๐๐๐ บาท ทรัพย์สินอื่น (อาวุธปืน ๘ กระบอก) ๔๑๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๑๑๖,๔๑๖,๓๙๕.๒๑ บาท ส่วนภริยา “สุนัน” มีเงินสด ๕๐๐,๐๐๐ บาท เงินฝาก ๖๒๓,๙๘๖.๗๙ บาท เงินลงทุน ๓,๖๐๐,๐๐๐ บาท ที่ดิน ๖ แปลง มูลค่า ๕,๔๖๐,๐๐๐ บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท ยานพาหนะ ๘๐๐,๐๐๐ บาท สิทธิและสัมปทาน ๔,๒๐๖,๐๐๐ บาท และทรัพย์สินอื่น (ทองคำ เครื่องเพชร นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่อง) ๘,๐๘๙,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๘,๐๘๙,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สินทั้งสามี-ภริยา ๑๕๑,๘๙๕,๓๘๒ บาท แต่ “คมกฤษณ์” มีเงินเบิกจากบัตรเครดิต ๕๔,๐๘๕๑.๙๙ บาท ส่วนภริยามีเงินเบิกจากบัตรเครดิต ๑,๐๒๗,๒๗๗.๑๖ บาท เงินกู้ จากสถาบันการเงิน ๒๘,๓๘๐,๓๓๑.๔๔ บาท และเงินกู้ ๑,๒๖๙,๔๘๕ บาท

 

• นายกฯ เมืองปัก’ มีทรัพย์สิน ๓๙ ล.

มาถึงคนสุดท้าย “ธนเดช (พรหมกรรณ) ศรีณรงค์” นายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อำเภอปักธงชัย อายุ ๕๕ ปี ดำรงตำแหน่งทางธุรกิจเป็นกรรมการผู้จัดการ บจก.พีเอส ไทย โฮลดิ้ง ไม่ปรากฏข้อมูลของคู่สมรส แต่ระบุสถานะหย่า มีลูกสาว ๓ คน ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ๒ คน ในส่วนของรายได้ระบุเงินค่าตอบแทน ๒๖๔,๐๐๐ บาท มีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ดิน ๖ แปลง มูลค่า ๓๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท และทรัพย์สินอื่น (อาวุธปืน นาฬิกา แหวน) มูลค่า ๓,๖๐๐,๐๐๐ บาท รวมทรัพย์สิน ๓๙,๗๐๗,๒๓๓.๐๙ บาท มีหนี้สินจากการกู้ยืม ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ในขณะที่ลูกที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีสิทธิและสัมปทาน ๑,๑๕๐,๐๐๐ บาท

เปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ “นายกเทศมนตรี” ทั้ง ๕ ราย ในวาระที่เข้ารับตำแหน่งไปแล้ว ก็ต้องติดตามว่า การบริหารงานจะเป็นอย่างไร เป็นไปตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาและที่สัญญาไว้กับประชาชนในช่วงที่หาเสียงหรือไม่ และเมื่อครบวาระ ๔ ปีไปแล้ว ก็ต้องมาติดตามว่า จะรวยขึ้นหรือจนลง...

ฉบับหน้ามาติดตาม “ทรัพย์สินและหนี้สิน” ของนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบล ๑๕ แห่งในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งบางคนรวยจริงรวยจัง

 • ทีมข่าวโคราชคนอีสาน

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๙๑ วันพุธที่ ๑๘ - วันอังคารที่ ๒๔ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔


1169 1419