เจ้าหน้าที่ไทยและลาว ส่งมอบและรับตัว 7 คนไทยเป็นชาย 2 หญิง 5 คน ชาวอำเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเข้าไปเก็บเห็ดในป่ารอยต่อระหว่างเขตแดนไทยกับลาว จนเกิดพลัดหลงไปในประเทศลาว เขตเมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ถูกจับตัวดำเนินคดีเข้าเมืองโดยไม่ชอบ เมื่อเช้าวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย 7 คนไทยถูกปรับเป็นเงินคนละ 6,000 บาท

เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 20 ส.ค. 2564 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รับมอบตัว 7 คนไทย ที่ถูกทางการลาวจับจากท่านโสม บุดตะกูล รองเจ้าแขวงจำปาสัก แล้วนำตัวคนทั้ง 7 มอบให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิรินธร ประจำด่านสากลไทย ลาว ช่องเม็ก ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี swab ตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุข

ก่อนนำตัวคนทั้ง 7 ไปทำตามกระบวนการผ่านแดนเข้าเมืองกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านช่องเม็ก จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวคนทั้ง 7 ขึ้นรถของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำด่านเดินทางไปกักตัวต่อเป็นเวลา 14 วัน ที่ศูนย์สังเกตอาการโรงพยาบาลสนามบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน

ระหว่างที่คนไทยทั้ง 7 ถูกปล่อยตัวกลับและเดินกลับเข้ามาฝั่งยังไทย มีบรรดาญาติพี่น้องของคนทั้ง 7 ซึ่งได้มารอรับตั้งแต่ช่วงสายของวันนี้ ก็ได้แต่ส่งเสียงทักทาย โบกไม้โบกมือให้กัน แต่ไม่สามารถเข้ามาหากันได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างกักกันโรค

สำหรับคนไทยทั้ง 7 ถูกทางการลาวดำเนินคดีข้อหาเข้าเมืองโดยไม่ชอบเพียงข้อหาเดียว และถูกปรับเป็นเงินคนละ 6,000 บาท ซึ่งญาติพี่น้องได้ส่งเงินไปจ่ายค่าปรับให้กับทางการลาวตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้

ด้าน น.ส.วรรณภา ผลขาว อายุ 27 ปี ซึ่งเพิ่งคลอดบุตรก่อนถูกจับไม่กี่เดือนกล่าวระหว่างเดินกลับเข้าประเทศไทยว่า ดีใจที่ได้กลับ ระหว่างถูกขังเขาก็ดูแลดี และคิดถึงลูกที่เพิ่งคลอด หลังพ้นกักตัว 14 วัน จะรีบกลับมาหาและให้นมลูก

ส่วนนายสุวิทย์ ชมชวน อายุ 33 ปี อีกคนที่ถูกจับเล่าว่า ตอนถูกเจ้าหน้าที่ลาวจับบอกจะพาไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 แล้วกักตัว 14 วันก็จะปล่อยกลับมา ก็ไม่ได้ขัดขืน ระหว่างถูกกักตัวมีญาติที่เป็นคนลาวคอยส่งอาหารให้ตามที่อยากจะกิน ก็สบายดีกันทุกคน มีเจ้าหน้าที่ลาวคอยดูแลอย่างใกล้ชิดทุกวัน