มาสด้าเผยภาพรวมธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยยอดขายปี ๒๕๖๔ พุ่งทะลุ ๓๕,๐๐๐ คัน ครอง ส่วนแบ่งการตลาดเกือบ ๕% โดยรถยนต์นั่ง Mazda2 ยังคงครองความนิยมสูงสุด ตามด้วยรถตระกูล CX-Series เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ครบทุกเซกเมนต์หวังกระตุ้นตลาดตั้งแต่ต้นปี 

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี ๒๕๖๔ นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งต่อธุรกิจรถยนต์ เนื่องจากมีทั้งปัจจัยภายนอกและภายในที่เข้ามากระทบ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี และการขาดแคลนชิ้นส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก จึงทำให้อุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องชะลอตัวลง แต่ด้วยมาตรการช่วยเหลือต่างๆ จากทางภาครัฐ และความร่วมแรงร่วมใจกันของพี่น้องชาวไทย จึงทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นและเดินหน้าต่อไปได้ในช่วงปลายปี ซึ่งทำให้ตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์ที่เกิดขึ้น ลดลงเล็กน้อยตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ไว้

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

สำหรับตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในปี ๒๕๖๔ ยอดรวมสะสมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ประมาณ ๗๖๒,๐๐๐ คัน (ตัวเลขประมาณการ) หรือลดลงเล็กน้อยเพียง ๔% เช่นเดียวกับยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ ๔๐,๐๐๐ คัน แต่เนื่องจากเกิดการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่เกิดการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ จึงทำให้แนวโน้มและทิศทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ท้ายที่สุดก็ยังสามารถคว้ายอดขายสะสมได้ถึง ๓๕,๓๘๕ คัน หรือลดลงเล็กน้อยเพียง ๙.๘% แต่ทั้งนี้แล้ว ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและตลาดเกิดใหม่ โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน ๑๙,๗๙๙ คัน ลดลง ๒๐.๒% รถอเนกประสงค์เอสยูวี จำนวน ๑๔,๒๒๕ คัน เพิ่มขึ้น ๒๑.๔% และรถปิกอัพ ๑,๓๖๑ คัน ลดลง ๔๙.๗ โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ที่ ๔.๖%

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข กล่าวเสริมว่า “การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงการปรับโฉมเพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับโปรดักต์ทั้งรถยนต์นั่งและรถอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เดือนธันวาคม ๒๕๖๔ มาสด้าสามารถทำยอดขายรวมได้สูงถึง๓,๗๕๐ คัน (สูงสุดในรอบปีงบประมาณ ๒๕๖๔) โดยแบ่งออกเป็นรถอเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์เอสยูวี Mazda CX-30 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่เปิดตัวแนะนำสู่ตลาด ถึงแม้จะมีคู่แข่งรอบด้านก็ยังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวน ๑,๒๕๕ คัน (สร้างสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว) ตามมาด้วยรถยนต์นั่งมาสด้า ๒ จำนวน ๑,๐๕๙ คัน และรุ่นที่กำลังร้อนแรงมากที่สุดหลังจากปรับโฉมที่มาพร้อมกับสีใหม่ แพลตทินั่ม ควอตซ์ คือ Mazda CX-3 จำนวน ๗๕๐ คัน (ทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัว) รถยนต์นั่ง Mazda3 จำนวน ๑๓๗ คัน รถอเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์เอสยูวีที่เพิ่มทางเลือกแบบ ๖ ที่นั่งในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าที่รอคอยได้อย่างลงตัว Mazda CX-8 จำนวน ๑๙๒ คัน และ Mazda CX-5 จำนวน ๑๓๗ คัน ส่วนรถปิกอัพ Mazda BT-50 กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังไฟแนนซ์เริ่มผ่อนคลายมาตรการด้านเช่าซื้อ ด้วยตัวเลขจำนวน ๒๑๑ คัน และสปอร์ตเปิดประทุน MX-5 จำนวน ๑ คัน”

พร้อมกันนี้ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ยังได้แสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยในปี ๒๕๖๕ ว่า “มาสด้าคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ ๕–๑๐% แต่ทั้งนี้แล้วก็ขึ้นอยู่กับมาตรการส่งเสริมจากทางภาครัฐ อาทิ การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว และราคาสินค้าการเกษตร ที่สำคัญยังคงต้องจับตาการระบาดของโรคโควิด-๑๙ สายพันธุ์ โอมิครอนในระลอกใหม่ ว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหนต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่คาดว่าตลาดรถยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังจากไตรมาสแรกของปีนี้ อันเห็นได้จากยอดขายเดือนธันวาคมที่เติบโตขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความต้องการของลูกค้าต่อการซื้อรถยนต์ว่ายังคงมีอยู่

สำหรับมาสด้า คาดการณ์ไว้ว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมวางเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น ไม่น้อยกว่า ๑๐% หรือมากกว่า ๔๐,๐๐๐ คัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า ๕%

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้านการตลาดว่า ในปีที่ผ่านมาถือว่ามาสด้าประสบความสำเร็จ สามารถประคับประคองธุรกิจและยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมาย สิ่งสำคัญคือ รถยนต์ทุกรุ่นที่เปิดตัวและปรับโฉมใหม่นั้น ลูกค้าให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะไม่มีรถเก๋งหรือรถเอสยูวีลงสู้ศึกในตลาด แต่ในช่วงเดือนตุลาคม มาสด้าได้เริ่มเปิดตัวแนะนำ Mazda CX-5 และ Mazda CX-8 และตามมาด้วย Mazda CX-3 ในเดือนธันวาคม เกิดเสียงตอบรับจากลูกค้าอย่างล้นหลามต่อรถทั้งสามรุ่นดังกล่าว จึงทำให้ยอดขายเดือนธันวาคมพุ่งสูงถึง ๓,๗๕๐ คัน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส 

“ด้านกลยุทธ์สำหรับปี ๒๕๖๕ มาสด้าจะยังคงเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันและเตรียมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่กำลังจะกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง โดยเฉพาะการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดรถใช้แล้วผ่านโครงการ CPO หรือ Mazda Certified Pre-Owned ที่ผ่านมาตรฐานและการรับประกันคุณภาพจากมาสด้า ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิด ๙ แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ควบคู่ไปกับให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการตลาด การขายและการบริการ รวมถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย เพื่อให้พร้อมรองรับต่อปริมาณลูกค้ามาสด้าที่เพิ่มขึ้น และสอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ มาสด้าจะยังคงเน้นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน” นายธีร์ กล่าวเสริม

สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้า ประจำปี   ๒๕๖๔ นั้น มาสด้าเดินหน้าทำการตลาดอย่างเต็มที่ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ที่รุนแรงมากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถหยุดความมุ่งมั่นของมาสด้าได้ โดยเริ่มจากเดือนมกราคม: เปิดตัวแนะนำ Mazda BT-50 ใหม่, เดือนกุมภาพันธ์: ปรับโฉม New Mazda2 รุ่นปี ๒๐๒๑ Collection, เดือนเมษายน: จัดประชุมผู้จำหน่ายผ่าน Video Conference, เดือนมิถุนายน: เปิดศูนย์บริการแบบเร่งด่วน Mazda Fast Service ที่ให้บริการตรวจเช็กตามระยะทางแบบเร่งด่วนเพียงแค่ ๓๐ นาที เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นและเพื่อบรรเทาความหนาแน่นในการเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการหลัก, เดือนมิถุนายน: มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ออกประกาศเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และนโยบายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามวิสัยทัศน์ระยะยาว Sustainable zoom-zoom 2030 รวมถึงแผนบริหารงานระยะกลางและนโยบายสำคัญ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ภายในปี ๒๐๕๐ โดยยังคงมุ่งมั่นเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ภายในปี ๒๐๓๐, เดือนสิงหาคม: สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม มาสด้าปันสุข ปี ๒ โดยจัดตั้งตู้ “ปันสุข” บริเวณด้านหน้าโชว์รูม และจัดคาราวานช่วยเหลือลูกค้าทั่วประเทศ, เดือนกันยายน: ให้การสนับสนุนฟุตบอล สโมสรนครราชสีมา-มาสด้า เอฟซี ต่อเนื่องเป็นปีที่ ๑๐, เดือนกันยายน: ส่งมอบปิกอัพ Mazda BT-50 ให้กับโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์และศูนย์ฉีดวัคซีน เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-๑๙ และมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโรคโควิด-๑๙ ให้กับสภากาชาดไทย เพื่อส่งกำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติงานของทีมแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข, เดือนตุลาคม: มาสด้าห่วงใยลูกค้าที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม จัดแคมเปญด่วนพิเศษมอบส่วนลดค่าอะไหล่ ๕๐% และส่วนลดค่าแรง ๑๐% โดยต้นเดือนตุลาคม:เปิดตัวแนะนำ Mazda CX-5 ใหม่ กับแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” ประกาศชัดพร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถอเนกประสงค์ เอสยูวี ส่วนกลางเดือนตุลาคม: เปิดตัวแนะนำ Mazda CX-8 ใหม่ รถอเนกประสงค์เอสยูวีระดับพรีเมี่ยม แบบ ๓ แถว ๗ ที่นั่ง, ๖ ที่นั่ง และเดือนพฤศจิกายน: เปิดตัวแนะนำ Mazda CX-3 ใหม่ เปิดสีภายนอกเทรนด์ใหม่ สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ทั้งหมดนี้คือการดำเนินธุรกิจของแบรนด์มาสด้า ตลอดช่วงระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา และแนวทางในการดำเนินธุรกิจในปี ๒๕๖๕ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณลูกค้า พันธมิตร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนมาสด้ามาโดยตลอด และมาสด้าให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าส่งมอบรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นที่ตั้งตลอดไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๑๒ วันพุธที่ ๒๖ เดือนมกราคม - วันอังคารที่ ๑ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕