9thNovember

9thNovember

9thNovember

 

April 03,2022

สั่งปิดโรงแป้ง ๓๐ วัน ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ให้รพ.ตรวจสุขภาพราษฎร

ประชาชนชาวด่านขุนทดเดือดร้อน กรณีโรงงานแป้งมันสำปะหลังส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง และเข้าร้องเรียนกับผู้ว่าฯ ตรวจพบใช้สารเคมีเกินมาตรฐาน หลังจากเตือนแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ จึงสั่งปิด ๓๐ วันให้ดำเนินการแก้ไข พร้อมให้รพ.มหาราชฯ และสาธารณสุขตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่


ตามที่มีประชาชนหมู่ ๑๔ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ร้องเรียนหน่วยราชการให้เร่งตรวจสอบโรงงานแป้งมันสำปะหลัง (Modify) ตั้งอยู่ภายในบริษัท เชาวน์ดีสตาร์ช จำกัด ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เนื่องจากประชาชนบ้านปราสาท หมู่ ๑๔ ต.หินดาด ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงาน ได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรงต่อเนื่อง พร้อมข้อเสนอให้ปิดโรงงานก่อนชั่วคราวถ้าแก้ไขไม่ได้ ต่อมาหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๑๑ นครราชสีมา, กอ.รมน.จังหวัดนครราชสีมา, อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าตรวจสอบปัญหากลิ่นเหม็นรุนแรง หรือกลิ่นสารเคมีจากบ่อพักน้ำเสียโรงงานแป้งมัน Modify และคุณภาพน้ำในลำห้วย ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงานแป้งมัน ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ภายในโรงงาน และโดยรอบชุมชนบ้านเพื่อเก็บข้อมูล พบว่า ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีประเภทคลอรีน กรด และด่าง บริเวณบ่อพักน้ำเสียมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ ๑๑ นครราชสีมา จึงตรวจวัดก๊าซอินทรีย์ระเหยง่ายพบว่าเกินมาตรฐาน จึงมีคำสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินการชั่วคราว และให้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากบ่อพักน้ำเสีย และการรั่วไหลของก๊าซชนิดต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายใน ๔๕ วัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเมื่อครบกำหนดเมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ปรากฎว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขจากโรงงาน

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ที่ห้องประชุม อบต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาและหาข้อสรุปเพื่อแก้ปัญหา จากกรณีที่มีประชาชนเดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเช้าวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕ หลังจากที่หน่วยงานราชการสั่งให้โรงงานแก้ไขภายใน ๔๕ วัน กรณีกลิ่นเหม็นรุนแรงจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแป้งมัน ซึ่งหลังจากครบกำหนดแล้วปรากฎว่า โรงงานไม่สามารถแก้ไขได้

จากการประชุมหารือมีข้อสรุปออกมาว่า กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแป้งมัน Modify ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ สั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดออกคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงให้มีผลตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕ หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ ส่วนเรื่องสุขภาพ ทางสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จะเข้าตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ส่วนกรณีที่ประชาชนร้องเรียนเพิ่มเติมว่า มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงาน และหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก สำหรับการร้องขอเยียวยาของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะขอให้อัยการด้านคุ้มครองสิทธิฯ เข้ามาช่วยเหลือแนะนำในข้อกฎหมายต่อไป

ล่าสุดเมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕ ที่บริษัท เชาวน์ดี โมดิฟาย สตาร์ช จำกัด เลขที่ ๓๔๕ หมู่ ๑๔ ถ.โค้งกุดม่วง ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งประกอบธุรกิจประเภทการผลิตและให้บริการด้านการผลิตสตาร์ชมันสำปะหลัง เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้นำหนังสือคำสั่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ที่ นม ๐๐๓๓(๒) /๔๑๐ ปิดไว้ที่บริเวณหน้าโรงงาน เรื่องให้หยุดประกอบกิจการโรงงานบางส่วน โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๙ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.๒๕๓๕ ผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายให้มีอำนาจ จึงมีคำสั่งให้หยุดการประกอบกิจการโรงงานในส่วนของการนำน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียนับแต่วันได้รับคำสั่งฉบับนี้เป็นต้นไปและให้ดำเนินการหยุดระบบบำบัดน้ำเสียปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพเพียงพอ โดยมีรายละเอียดแบบแปลนและรายการคำนวณพร้อมคำรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรม ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๕

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่องค์การบริหารส่วนตำบลหินดาด อำเภอด่านขุนทด เมื่อวานนี้ (๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕) ได้ข้อสรุปกรณีบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงออกคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการเป็นเวลา ๓๐ วัน และให้ทำการการปรับปรุงแก้ไขโรงาน ตามมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ดังนี้

๑.ทำการตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสียให้ประสิทธิภาพเพียงพอที่จะบำบัดน้ำเสีย ไม่ให้ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ๒.ให้ทำการตรวจสอบและปรับปรุงระบบบำบัดอากาศให้มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะบำบัดอากาศ ไม่ให้ก่อให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ๓.ให้จัดทำรายละเอียดภาวะสมดุลน้ำ (WATER BALANCE) ที่ใช้กระบวนการผลิต และ ๔.ให้จัดส่งรายละเอียดของสารเคมี พร้อมทั้งข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี (MSDS) ที่ใช้กระบวนการผลิตทั้งหมด และปริมาณการใช้จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่ง

ทั้งนี้ หากไม่สามารถดำเนินการได้ จะไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ ส่วนเรื่องปัญหาสุขภาพของประชาชนได้ให้สาธารณสุขอำเภอด่านขุนทดและโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ดำเนินการตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๕ ส่วนการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงานและหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีกสำหรับการร้องขอเยียวยาของประชาชนได้ให้อัยการด้านคุ้มครองสิทธิ์เข้ามาช่วยเหลือและให้คำแนะนำในข้อกฎหมายต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๒๑ วันพุธที่ ๓๐ เดือนมีนาคม - วันพุธที่ ๕  เดือนเมษายน  พุทธศักราช  ๒๕๖๕


99 1,776