เวลาเรามองหน้าใครสักคน จุดแรกที่จะโฟกัสคือดวงตา แต่หากผิวรอบดวงตาของใครดูโรยราเพราะริ้วรอยแห่งวัยและความเหนื่อยล้า อาจทำให้หน้าตาดูเพิ่มอายุไปอีกหลายปีได้ นอกจากนี้ ผิวรอบดวงตายังบอบบางและถูกทำร้ายได้ง่ายจากการขยี้ตาหรือเช็ดเครื่องสำอาง เมื่อเกิดริ้วรอยแล้วจะทำอย่างไรให้กลับมาดูกระชับเต่งตึงเหมือนเดิมโดยไม่ต้องเสียเวลาทาครีมซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าจะเห็นผล วันนี้เราขอแนะนำให้รู้จักกับการฉีด filler ใต้ตา ทางออกใหม่ของคนมีริ้วรอยและถุงใต้ตาที่ยากจะกำจัด

Filler ใต้ตาคืออะไร

            การฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในชั้นผิวหนัง โดยสารที่ใช้จะเป็นสารประเภท Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารที่ปกติมนุษย์เรามีอยู่แล้วใต้ผิวหนัง สารตัวนี้จะทำหน้าที่อุ้มน้ำเอาไว้ การฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเป็นสารประเภทนี้เข้าไปจะช่วยเติมเต็มริ้วรอบร่องลึกในบริเวณต่าง ๆ ที่ต้องการ โดยเฉพาะใต้ตาซึ่งเป็นส่วนแรกที่จะยุบลงไปตามวัย เพื่อลดอาการตาโหลหรือตาลึกจนดูมีอายุ ใครที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อยจนใบหน้าดูโรยรา หรือเคยทำร้ายผิวรอบดวงตามาด้วยการแต่งหน้าหรือเช็ดเครื่องสำอางหนัก ๆ สามารถฉีดฟิลเลอร์ลดร่องเหล่านั้นได้ ส่วนใครที่อยากมีถุงใต้ตาเล็ก ๆ ตามเทรนด์ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อฉีดเติมเต็มได้เช่นกัน

การฉีดฟิลเลอร์มีกี่แบบ

            Filler ใต้ตานั้นสามารถเลือกฉีดได้ทั้งหมด 3 แบบ โดยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้ถึงผลลัพธ์ที่จะได้ ข้อดี ข้อเสีย เพื่อเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว เป็นการฉีดฟิลเลอร์ประเภทที่สารเติมเต็มสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติภายใน 4-6 เดือน จึงปลอดภัยต่อร่างกายและหากฉีดไปแล้วไม่ชอบก็แค่รอเวลาสลายตัว
2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร เป็นฟิลเลอร์ที่จะคงผลลัพธ์ไปประมาณ 2 ปี
3. ฟิลเลอร์แบบถาวร เป็นการฉีดสารประเภทซิลิโคนหรือพาราฟินแทน HA สามารถอยู่ใต้ผิวตลอด แต่จะไม่สลายตัวไปและอาจมีผลข้างเคียงในอนาคต นอกจากนี้ หากฉีดแล้วไม่ชอบอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีไหม อันตรายหรือเปล่า?

            หลายคนสงสัยว่าการฉีด filler ใต้ตาอันตรายหรือไม่ เพราะเป็นการฉีดใกล้เคียงกับจุดสำคัญที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้ แต่บอกเลยว่า เราจะสามารถลดความเสี่ยงทั้งหลายทั้งปวงได้เพียงแค่เลือกไปรับบริการจากคลินิกที่ได้คุณภาพ มีการขึ้นทะเบียนรับรองถูกต้องตามกฎหมาย ใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อประเมินความเสี่ยงว่าสามารถฉีด filler ใต้ตาได้หรือไม่