ลงนามข้อตกลงระหว่างกรมสรรพสามิตกับ โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น bZ4X  โดยจะได้รับสิทธิลดอากรศุลกากร ลดภาษีสรรพสามิตและรับเงินอุดหนุน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็น สักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงระหว่างกรมสรรพสามิตกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทฯ มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น bZ4X  โดยจะได้รับสิทธิลดอากรศุลกากร ลดภาษีสรรพสามิตและรับเงินอุดหนุน ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคให้สามารถเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่จับต้องได้ เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๕

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามที่คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์ของการดำเนินมาตรการฯ ดังนี้

๑) ส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยการใช้มาตรการทางภาษี ได้แก่ การลดภาษีสรรพสามิต และการลดอากรศุลกากร และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ได้แก่ การให้เงินอุดหนุน (มาตรการระยะสั้น ปี ๒๕๖๕ ถึง ๒๕๖๘)

๒) สนับสนุนให้ราคาของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า มีราคาลดลงใกล้เคียงกับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน

๓) สร้างแรงจูงใจให้มีการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อ ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

๔) ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการเกิดภาวะโลกร้อน

ทั้งนี้ จากการที่ภาครัฐได้มีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นต้นมาส่งผลให้มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมลงนามในข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตแล้ว จำนวน ๓ ราย ได้แก่ บริษัท  เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด/บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยมียอดจองรถยนต์ไฟฟ้าที่ขอรับสิทธิตามมาตรการฯ รวมกันทั้งสิ้นกว่า ๕,๐๐๐ คัน ประกอบด้วย รถยนต์ไฟฟ้า GWM รุ่น ORA GOOD CAT และ MG รุ่น MG EP และ MG ZS นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้ เข้าร่วมมาตรการฯ มียอดจองกว่า ๖๐๐ คัน ประกอบด้วย VOLVO มียอดจองจำนวน ๓๘๕ คัน BMW มียอดจองจำนวน ๑๑๒ คัน MINI มียอดจองจำนวน ๕๘ คัน Porsche มียอดจองจำนวน ๕๘ คัน Nissan มียอดจองจำนวน ๑๙ คัน Audi มียอดจองจำนวน ๑๐ คัน และ TAKANO มียอดจองจำนวน ๖ คัน จากสถิติที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อการปรับตัวของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ และก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ตามแนวทางที่รัฐบาลวางรากฐานไว้ รวมถึงการบรรลุเป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ZEV (Zero Emission Vehicle) โดยเฉพาะเป้าหมายการผลิตรถยนต์นั่งและรถยนต์กระบะในปี ๒๐๓๐ (พ.ศ. ๒๕๗๓) คิดเป็นร้อยละ ๓๐ ของกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศ 

อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่อว่า ดังนั้น ในวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๕ กรมสรรพสามิตได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระหว่างกรมสรรพสามิตกับผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถยนต์เพิ่มขึ้น ๑ ราย คือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยบริษัทฯ มีแผนงานที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า รุ่น bZ4X โดยจะได้รับสิทธิการลดอากรศุลกากร การลดภาษีสรรพสามิต และการรับเงินอุดหนุน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคตามที่ได้กล่าวข้างต้น ทั้งนี้ คาดว่าภายในปี ๒๕๖๕ จะมีบริษัทผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ BEV เข้าร่วมลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการฯ กับกรมสรรพสามิตอีกไม่น้อยกว่า ๕ ราย

อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวทิ้งท้ายว่า การที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้เกิดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ก่อให้เกิดอุปสงค์ในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งเกิดการลงทุน การจ้างงาน และ     การถ่ายทอดเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๒๕ วันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕