19thApril

19thApril

19thApril

 

June 25,2022

กลุ่มผู้ใช้น้ำมูลไม่เชื่อ! เลิก‘ลอยอังคาร’ แค่รับปากให้ ‘วิเชียร’ วะ

 

หลอกยุติปัญหาลอยอังคารลงในลำน้ำมูล อ้างผู้ประกอบการเลิกรับทำพิธีตลอดไป พร้อมปรับกิจการเป็นร้านอาหาร หรือกิจการนำเที่ยว ด้านกลุ่มผู้ใช้น้ำไม่เชื่อจะเลิกจริง แค่รับปากให้ ‘วิเชียร’ สบายใจ ยืนยัน ยังมีประชาชนลักลอบลอยอังคารเสมอ หวังสักวันอำเภอเฉลิมพระเกียรติจะกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว


ตามที่ “โคราชคนอีสาน” นำเสนอข่าวประชาชนในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ร้องเรียนกรณีที่มีผู้ประกอบการทำธุรกิจรับลอยอังคาร นำพานธูปเทียน เครื่องใช้ ที่นอน หมอน รวมทั้งกระดูกคนตาย ทิ้งลงในแม่น้ำมูล และมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ กว่า ๓๐ ครั้ง กระทั่งจังหวัดนครราชสีมาได้ขอความร่วมมือให้งดทำกิจกรรมลอยอังคาร เพราะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม และผิดกฎหมาย

ต่อมาวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ห้องประชุมศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุม เพื่อหารือแก้ไขปัญหาการนำกระดูกจากการเผาศพมาทิ้งลงในลำน้ำมูล และหาแนวทางแก้ไข ป้องกันที่มีการนำกระดูกจากการเผาศพมาทิ้งลงในลำน้ำมูล โดยมีผู้แทนสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครราชสีมา ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ผู้แทนอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ ผู้แทนเทศบาลตำบลท่าช้าง ผู้ร้องเรียน และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุม ซึ่งสรุปมติที่ประชุม ดังนี้

๑.มอบหมายให้ปลัดอำเภอเฉลิม พระเกียรติ เป็นผู้รับแจ้งเหตุร้องเรียนจากผู้ร้องโดยตรง เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ๒.มอบหมายให้อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยผู้แทนอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติ ผู้แทนเทศบาลตำบลท่าช้าง และผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบกิจการรับลอยอังคาร ๓.ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้รางวัลนำจับ จำนวน ๕,๐๐๐ บาท กับชุดเคลื่อนเร็วชุดใด ที่สามารถจับกุมผู้ประกอบกิจการรับลอยอังคารได้ ๔.มอบหมายสถานีตำรวจภูธรเฉลิมพระเกียรติพิจารณาองค์ประกอบความผิดให้ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินคดีทางกฎหมายมีประสิทธิภาพสูงสุด ๕.มอบหมายสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมามีหนังสือแจ้งเหตุแห่งการกระทำความผิดถึงผู้ประกอบกิจการรับลอยอังคาร จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ล่าสุด วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาการนำกระดูกจากการเผาศพมาทิ้งลงในลำน้ำมูล และหาแนวทางแก้ไข ป้องกันที่มีการนำกระดูกจากการเผาศพมาทิ้งลงในลำน้ำมูล โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบกิจการรับลอยอังคาร ๒ แห่ง และผู้ร้องเรียน เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งสรุปมติที่ประชุม ดังนี้

๑.ปัจจุบันการลอยอังคารในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เป็นการที่ประชาชนนอกพื้นที่นำเถ้ากระดูกจากการเผาศพมาทิ้งในลงน้ำมูลเอง ไม่ได้เป็นการว่าจ้างให้บุคคลในพื้นที่แต่อย่างใด ๒.ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการรับลอยอังคาร ยุติการประกอบกิจการลอยอังคารในพื้นที่โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการฯ จะเลิกรับประกอบพิธีเกี่ยวกับเถ้ากระดูกทันที และจะลบข้อความในเพจเฟซบุ๊กโดยเร็ว ๓.จังหวัดนครราชสีมาจะประสานสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งเสริมธุรกิจร้านอาคาร ๔.ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนพึงพอใจในผลการดำเนินการของจังหวัดนครราชสีมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “วันนี้มาพูดคุยกับผู้ประกอบการรับลอยอังคาร โดยนำผู้ร้องเรียนมาเล่าให้ฟังด้วยว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการทำกิจกรรมลอยอังคารในลำน้ำมูลอย่างไร จึงขอร้องว่า เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้และประชาชนจะได้ใช้น้ำได้อย่างสนิทใจ ก็ขอร้องผู้ประกอบการร้านสวนแสงเพชร ให้ปรับธุรกิจเป็นสวนอาหารหรือแพนำเที่ยว ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการสวนแสงเพชรที่จะเลิกรับทำพิธีกรรมลอยอังคารตลอดไป และหันมาทำเป็นร้านอาหารหรือแพนำเที่ยว เพื่อท่องเที่ยวไปชมสถานที่สวยงามต่างๆ ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ เช่น ไทรงาม”

“ผู้ประกอบการชี้แจงเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันที่ยังมีการลอยอังคารอยู่ เป็นประชาชนจากพื้นที่อื่นที่ยังนำเถ้ากระดูกมาลอยเอง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าผิดกฎหมาย ผมก็จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง แต่ในเบื้องต้นได้ขอให้ผู้ประกอบการแสดงความจริงใจด้วยการประชาสัมพันธ์ทางแฟนเพจของร้านว่า ยกเลิกรับทำพิธีกรรมลอยอังคาร หรือกิจกรรมการลอยอังคาร เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ในกรณีการลักลอบอื่นๆ จะกำชับทุกฝ่ายเข้มงวดมากขึ้น”

“การลอยอังคารหรืออัฐิเถ้ากระดูกของบรรพบุรุษ เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา บางพื้นที่อาจจะเหมาะสมทำได้ เช่น ทะเลที่อยู่ห่างจากชายฝั่งออกไป เพราะไม่เป็นการรบกวนประชาชน แต่กรณีลำน้ำมูลมีประชาชน ๒ ฝั่งลำน้ำ ต้องการใช้ประโยชน์ด้านการประปา การเกษตร การอุปโภคบริโภค และด้านปศุสัตว์ ดังนั้น การนำเถ้ากระดูกไปลอยในแหล่งน้ำจะทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อการใช้น้ำ อาจจะก่อให้เกิดเชื้อโรคและเป็นแหล่งเชื้อโรค เกิดโรคระบาดของเชื้อโรคที่สำคัญ จึงขอความร่วมมือว่า แหล่งน้ำที่มีประชาชนต้องใช้ประโยชน์ทุกที่ ไม่เหมาะสมที่จะลอยอังคาร ควรจะงดและเลิกลอยอังคารในพื้นที่เหล่านี้ ควรจะนำไปลอยในพื้นที่อื่นๆ ที่ไม่สร้างผลกระทบให้กับประชาชน แต่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องลอย นำไปฝังดินไว้หรือเก็บไว้ในเจดีย์ต่างๆ จะเหมาะสมกว่า” นายวิเชียร กล่าว

ด้านประธานกลุ่มลุ่มน้ำมูล อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เปิดเผยกับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า “ที่มีการบอกว่า เลิกรับลอยอังคาร เขาอาจจะเลิกไปก่อน เพื่อให้ผู้ว่าฯ สบายใจ และผมดูรู้สึกว่า เขาจะยังไม่หยุด น่าจะยังประกอบพิธีด้านในร้าน ไม่ออกมาทำพิธีข้างนอกเหมือนเดิม โดยรวบรวมสิ่งต่างๆ ไว้แล้วนำมาลอยทีเดียว ซึ่งขณะนี้ยังเงียบๆ อยู่ ยังไม่มีเรือออกมา แต่ก็ยังมีกลุ่มประชาชนมาลอยอังคารเองเป็นระยะๆ นอกจากนี้ ผมยังได้รับรายงานจากชาวบ้านที่อยู๋ในละแวกสวนอาหารว่า ยังมีคนเดินทางมาเรื่อยๆ บ้างก็สวมชุดสีดำกันทั้งกลุ่ม น่าจะเตรียมมาเพื่อทำพิธีลอยอังคาร แต่ขณะนี้ทางร้านอาจจะยังปรับตัวอยู่ เพราะช่วงนี้ยังไม่มีวี่แววทำพิธี”

“ครั้งหนึ่งผมเคยลงไปดูพื้นที่ที่เขาลอยอังคาร พบเส้นผมคน ข้าวของต่างๆ แตกต่างกับที่บอกว่า นำแค่เถ้ากระดูกมาลอย ซึ่งปัจจุบันแม้ผู้ประกอบการจะเลิกรับทำพิธีลอยอังคารแล้ว แต่ยังมีประชาชนจากพื้นที่อื่นลักลอบเข้ามาลอยอยู่เรื่อยๆ บางคนยังนำที่นอนหรือข้าวของมาทิ้ง เพราะเขาคิดว่า อำเภอเฉลิมพระเกียรติเป็นสถานที่ลอยอังคาร และระยะทางก็ไม่ไกลอำเภอเมือง ซึ่งสถานที่ที่ลักลอบลอยอังคารจะอยู่ที่สวนภูมิรักษ์ติดกับสะพานข้ามแม่น้ำมูล ใกล้ๆ กับสำนักงานเจ้าท่า ซึ่งการทำพิธีที่ร้านจะมีค่าใช้จ่าย บางคนจึงเลือกที่จะลักลอบมาทิ้งเอง ผมอาศัยอยู่ปลายน้ำ บางวันจะเห็นดอกไม้ธูปเทียนลอยมาตลอด และยังเห็นอยู่เรื่อยๆ รวมทั้งที่สะพานดำก็เป็นอีกจุดที่คนมักลักลอบไปลอย”

ประธานกลุ่มลุ่มน้ำมูล อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา กล่าวท้ายสุดว่า “ในส่วนของผู้ประกอบการลอยอังคาร (อาจารย์ น.) ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันร้านยังรับลอยอังคารอยู่ โดยเขาจ้างผู้ชายคนหนึ่งในหมู่บ้านมาสวมชุดขาว เพราะกลัวเสียลูกค้า ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ทราบ มีการตักเตือนตลอด แต่ลูกหลานอาจารย์ น. ก็ยังให้ชายคนนี้มาสวมชุดขาวคอยรับทำพิธี แต่งตัวเหมือนหลอกลวงประชาชน ผมต้องการให้อำเภอเฉลิมพระเกียรติเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ไม่ใช่เป็นจุดลอยอังคาร ปัจจุบันคนไม่ได้มาเพื่อท่องเที่ยวแล้ว แต่ชักชวนกันมาลอยอังคารมากกว่า หากผู้ประกอบการยังไม่หยุดรับลอยอังคาร คนที่จะลอยอังคารก็ยังมาเรื่อยๆ แล้วประชาชนในหมู่ ๔, ๕ และ ๑๒ ก็จะได้รับผลกระทบเรื่อยๆ เพราะประชาชนต้องใช้น้ำอุปโภคบริโภค น้ำประปาบางส่วนก็มาจากแม่น้ำมูล และชาวบ้านบางคนเขาก็ต้องทำประมง จึงขอให้แม่น้ำมูลกับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือที่ทำมาหากินของชาวบ้านดีกว่า ไม่ใช่จะทำแต่ธุรกิจลอยอังคารอย่างเดียว”


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๓๒ วันพุธที่ ๒๒ - วันอังคารที่ ๒๘ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕

 


993 1389