วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. ที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถนนราชดำเนิน อ.เมืองนครราชสีมา มีพิธีบวงสรวงสักการะท้าวสุรนารี และการตั้งขบวนแห่องค์มหากฐิน เพื่อนำไปทอดถวายที่วัดศาลาลอย ซึ่งจัดโดยบริษัท สยามวิชโก้ จำกัด ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้แบรนด์ “วิชโก้” นำโดยนายพันเลิศ วิชชาพิณ ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ และภริยาคือนางวิชุดา พรหมโมบล รองประธานบริษัทฯ เป็นประธานมหากฐินฝ่ายฆราวาส ซึ่งมีช้างพลาย ๕ เชือกมาร่วมขบวนด้วย ได้แก่ พลายยอดรัก พลายศักดิ์ศิริ พลายแก้ง พลายจอกา และพลายเป๊ปซี่ ท่ามกลางขบวนนางรำและประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ มีนายประทีป-นางพรรณธิภา วิชชาพิณ, พล.ร.อ.วีระพันธ์ งอกงาม, นางทิพย์วรรณ โรจนสกุล, นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และนายไพจิตร มานะศิลป์ ที่ปรึกษาหอการค้าฯ เข้าร่วมด้วย จากนั้น เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. ขบวนแห่องค์มหากฐินเคลื่อนจากลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผ่านเส้นทางริมคูเมือง ไปยังวัดศาลาลอย โดยขบวนมีทั้งการนั่งช้าง เดินเท้า นั่งรถสามล้อ และรถราง จึงนับเป็นขบวนแห่มหากฐินครั้งแรกในรอบหลายปีของจังหวัดนครราชสีมาที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนซื้อที่ดิน “เปิดทางออก” ด้านหลังของวัดศาลาลอย และเป็นการร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ ๕๕๕ ปีของการก่อตั้งเมืองโคราชด้วย

นายพันเลิศ วิชชาพิณ  -  นางวิชุดา พรหมโมบล

นายพันเลิศ วิชชาพิณ ประธานกรรมการบริหารบริษัท สยามวิชโก้ จำกัด เปิดเผยว่า “ปีนี้พ.ศ.๒๕๖๖ โคราชครบรอบ ๕๕๕ ปี ความจริงก็จัดธีมงานที่เป็นเลข ๕ มาตลอด ซึ่งในปีนี้สยามวิชโก้ก็ครบรอบ ๕ ปีด้วย จึงตั้งใจจะทอดกฐิน และไปขอทอดกฐินที่วัดศาลาลอย เป็นวัดที่ผมและภริยาเข้าไปไหว้เป็นประจำ ดีใจมาก จึงตั้งใจทำให้มีความเป็นพิเศษเท่าที่จะทำได้ โดยมีขบวนแห่ และมีช้าง ๕ ช้าง วัตถุประสงค์ในการทอดกฐินครั้งนี้เพื่อซื้อที่ดินเพื่อเปิดทางออกด้านหลังอีกทางหนึ่งของวัดศาลาลอย ซึ่งปกติมีทางออกอยู่แล้วแต่พื้นที่แคบ พระอาจารย์(พระเทพรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย) จึงต้องการขยายเขตวัด หากสามารถซื้อที่ดินแปลงนี้ก็จะสามารถเปิดทางออกให้วัดโดยออกไปสู่ชุมชนวัดทุ่งสว่าง ทำให้ประชาชนเข้า-ออกวัดได้สะดวกมากขึ้น”

“สำหรับการทำบุญทอดกฐินเพื่อนำเงินไปสมทบการซื้อที่ดินในครั้งนี้ ผมกับภริยาเป็นนักธุรกิจ ซึ่งการทำธุรกิจก็มีทั้งความสุขและบางครั้งก็ลำบากมีความทุกข์ใจ หวังว่าการสร้างกุศลโดยการทอดกฐินให้วัดศาลาลอยโดยการซื้อที่ดินเพื่อเปิดทางออกด้านหลังให้วัดในครั้งนี้ และหวังว่าบุญกุศลจะถ่ายทอดมาสู่ผู้ร่วมบุญทุกท่านในครั้งนี้” นายพันเลิศ กล่าว

นายพันเลิศ เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของยอดเงินทำบุญกฐินนั้น เมื่อคืน (๑๐ พ.ย.) ได้ประมาณ ๔.๕ ล้านบาท โดยที่ดินแปลงดังกล่าวถ้าซื้อแบบผ่อนจะราคา ๑๐ ล้านบาท แต่ถ้าเป็นเงินสดจะราคา ๘ ล้านบาท ซึ่งทางวัดมีอยู่แล้วประมาณ ๒ ล้าน ยังขาดอีกประมาณ ๖ ล้าน การทอดกฐินในวันนี้ก็หวังว่าจะได้ ๕ ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ ผู้มีจิตศรัทธายังสามารถร่วมสมทบโดยการโอนเงินเข้าบัญชีวัดโดยตรงได้ด้วย”

“ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อเรื่องการทำบุญ จากประสบการณ์ตั้งแต่วัยเด็กว่า ถ้าเราตั้งใจทำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผลดีๆ ก็จะตามมาเสมอ อาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง แต่ถ้าเราทำดี ผลลัพธ์ดีดี ก็จะตามมา จึงขอฝากถึงทุกท่านว่าให้ตั้งใจทำความดีไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็แล้วแต่ เพื่อให้สังคมของเราเป็นสังคมที่น่าอยู่” นายพันเลิศ กล่าวท้ายสุด

การซื้อที่ดินถวายวัดเพื่อเปิดเป็นทางออกนั้น ตามความเชื่อของชาวพุทธ เหมือนเป็นการเปิดทางแห่งแสงสว่างให้ได้รับความเจริญก้าวหน้า ในการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และได้รับความเจริญก้าวหน้าในการทำธุรกิจ ประกอบกับปีนี้เมืองโคราชฉลองครบรอบ ๕๕๕ ปี และแปลงโฉนดที่ดินที่ซื้อเป็นแปลงที่ ๕ ของวัด และบริษัทสยามวิชโก้ตั้งอยู่เลขที่ ๕๕๕ ในปีนี้ครบรอบ ๕ ปีการก่อตั้งบริษัท และใช้ช้างแห่ขบวนมหากฐินครั้งนี้ ๕ เชือก ฉะนั้น จึงถือว่าลงตัวและเหมาะสมอย่างมาก

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่ต้องการร่วมทำบุญสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “กฐินวัดศาลาลอย ๒๕๖๖ โดย บริษัท สยามวิชโก้ จำกัด” เลขที่บัญชี ๔๗๐-๐-๕๕๐๗๙-๑ โดยเปิดรับถึงสิ้นปีนี้