2ndMay

2ndMay

2ndMay

 

January 01,1970

แรงงานหนุ่มบุรีรัมย์ไม่มีทางเลือก ยอมเสี่ยงไปทำงานอิสราเอลอีกครั้ง

 

หนุ่มแรงงานชาวบุรีรัมย์ ยอมเสี่ยงเดินทางกลับไปทำงานอิสราเอลอีกรอบให้ครบสัญญาจ้าง แม้จะยังมีการสู้รบ เพราะมีภาระหนี้สินหลายแสนและมีครอบครัวต้องดูแล ทำให้ไม่มีทางเลือก แม่จุดธูปไหว้ศาลตายายหน้าบ้านขอให้คุ้มครอง

วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ นางบุญศรี โปร่งจิต อายุ ๖๒ ปี ชาวตำบลหนองตาด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ได้วิดีโอคอลผ่านโทรศัพท์มือถือสอบถามความเป็นอยู่ของนายต้อม โปร่งจิต อายุ ๓๓ ปี ลูกชายที่เพิ่งตัดสินใจเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกรอบ เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๖ เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกชาย เพราะขณะนี้ยังคงมีการสู้รบกันอยู่ แต่ลูกชายบอกว่าไม่มีทางเลือกเนื่องจากยังคงมีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบหลายแสนบาท ประกอบกับต้องดูแลครอบครัวและลูกน้อยอีก ๒ คน จึงยอมเสี่ยงที่จะกลับไปทำงานอิสราเอลให้ครบตามสัญญาจ้าง ๕ ปี ๓ เดือน เพราะรอบแรกเพิ่งจะทำงานได้แค่ ๑ ปี ๒ เดือนก็เกิดการสู้รบจนทางการประกาศให้อพยพ และส่งกลับภูมิลำเนา ส่วนเงินที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐตามสิทธิกองทุนฯ ๑๕,๐๐๐ บาท ก็นำไปใช้จ่ายช่วงที่กลับไปอยู่บ้าน

ทั้งนี้ นายต้อมได้ส่งคลิปขณะทำงาน สภาพความเป็นอยู่ที่แคมป์ของแรงงานในอิสราเอลให้แม่ดูเป็นระยะด้วย เพื่อให้ผู้เป็นแม่คลายความกังวลว่าจุดที่ทำงานอยู่มีความปลอดภัย และนายจ้างก็ดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งการเดินทางกลับไปรอบนี้นายจ้างก็ดูแลค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด โดยเขาบอกว่าจุดที่ทำงานอยู่ในชุมชนมัสเตอร์คิว ฉนวนกาซา ทางตอนใต้ ซึ่งยังอยู่ห่างจากจุดที่สู้รบกันมากกว่า ๒๐ กิโลเมตร แต่ก็ยังได้ยินเสียงปืนระเบิดดังเป็นระยะๆ แต่นายจ้างก็ดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างดีมีอุโมงค์ไว้สำหรับหลบภัยด้วย

นางบุญศรี ผู้เป็นแม่ บอกว่า ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากให้ลูกชายกลับไปที่อิสราเอลอีก ห่วงเรื่องความปลอดภัยของลูก เพราะหลังจากที่เกิดเหตุสู้รบกันรอบแรกตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ ก็ติดต่อลูกชายไม่ได้ เป็นห่วงมาก แต่เมื่อลูกชายได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยก็ไม่อยากให้กลับไปเสี่ยงอันตรายอีก แต่เพราะไม่มีทางเลือกลูกจึงขอกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกรอบให้ครบสัญญาจ้าง เพราะหวังว่าจะมีเงินมาใช้หนี้ ธ.ก.ส.ทั้งต้นและดอกเบี้ยราวๆ ๗ แสนบาท เพราะที่อิสราเอลค่าแรงค่อนข้างสูง เชื่อว่าจะสามารถปลดหนี้ และเลี้ยงครอบครัวได้ แต่หากทำงานในไทยซึ่งมีค่าแรงน้อยกว่า ก็ไม่รู้จะเพียงพอใช้หนี้หรือไม่ ด้วยความเป็นห่วงก็จะวิดีโอคอลคุยกับลูกชายทุกวัน และไหว้ศาลตายายหน้าบ้าน เพื่อขอให้ปกป้องคุ้มครองลูกชายด้วย    


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๙ ฉบับที่ ๒๗๖๐ วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๖ - วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗

 


180 1,453