เมื่อเวลา 10.30 ,น.วันที่ 10  ก.พ.2567 นางอนัญญา โฮชิน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่อยู่ 901/10 ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาเงินกู้ จำนองที่ดิน และ ใบเอกสารสิทธิ์  นส.3 ก.รวมจำนวน 4 ฉบับ ที่เป็นของจริงแต่เจ้าของได้มีการขอเปลี่ยนเป็นโฉนดตัวจริงทั้งหมด มาร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ให้นายหน้าและนายทุน ได้ระวังมิจฉาชีพ ใช้เอกสารปลอมมาค้ำประกันการกู้ยืมเงิน

นางอนัญญา กล่าวว่า ช่วงปี 2565 - 2566 ได้ผันตัวเองมาเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน และโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวและในกลุ่มนายหน้าที่ดินต่างๆ ก็มีนายเอ(นามสมมุติ)  (นายณัฐนันท์ พันธ์ทองหล่อ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 ม.1 ต.หนองน้ำใส อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น) ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ค มากดไลก์กดแชร์ตลอด และในช่วงปี 2566 นายเอพร้อมแฟนหนุ่มที่เป็นคู่ขากัน ได้มาหาที่ร้าน แนะนำตัวเองว่าทำงานอยู่ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในตำแหน่งฝ่ายสินเชื่อและประเมินทรัพย์สิน ส่วนแฟนหนุ่มทำงานอยู่ในบริษัทเอกชน และรับดูดวง เปิดสำนักที่บ้านตัวเอง โดยส่วนตัวได้ไปดูดวงกับแฟนหนุ่มของนายเอ ก่อนหน้านี้ จึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน คบหากันเรื่อยมา

นางอนัญญา โฮชิน อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย

"ช่วงเดือน ส.ค. 2566 นายเอ ได้เดินทางมาพบที่ร้านพร้อมกับ น.ส.เบญจพล มาตย์นอก อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.12 ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น โดยนำน.ส.3 ก. จำนวน 4 ฉบับ ประกอบด้วยเลขที่ 4148,เลขที่ 2249, เลขที่1059,และเลขที่ 1874 เพื่อมาขอกู้เงินรวมจำนวน 1,600,000 บาท โดยมีนายเอเป็นผู้ค้ำประกัน และนายเอ ยืนยันว่าได้ทำการตรวจสอบแล้วว่า นส.3 ก.ทั้งหมดเป็นของจริง พร้อมทั้งลงลายมือชื่อยืนยันในเอกสาร นส.3 ก.ให้ด้วย และยืนยันอีกว่า จะคืนเงินทั้งหมดภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่ 24 ส.ค.2566 ครบกำหนด 24 พ.ย 2566 แต่เลยกำหนดก็ยังไม่มาคืนเงิน โดยรับแจ้งจากนายเอ ว่า น.ส.เบญจพล ตายแล้วเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2566"

นางอนัญญา กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค.2566 ได้นำเอกสาร นส.3 ก. ทั้งหมดไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินขอนแก่น สาขา อ.บ้านไผ่ เพื่อขอทราบที่ตั้งของที่ดิน นส.3 ก.ทั้ง 4 ฉบับ โดยคิดไว้ว่าหากลูกหนี้ ซึ่งก็คือ น.ส.เบญจพล ตายจริงๆก็จะให้ทนายความฟ้องผี เพื่อยึดเอาทรัพย์สินมาขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินคืนมา แต่จากการตรวจสอบ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานที่ดินแจ้งว่า เอกสารเป็น นส3 ก.ที่มีการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินแล้ว และไม่พบที่ดินที่เป็นทรัพย์สินของ น.ส.เบญจพล อีกทั้งยังพบว่า ที่ดินผืนดังกล่าว มีเจ้าของที่เป็นเจ้าของโฉนดอยู่แล้วซึ่งไม่ใช่ น.ส.เบญจพล จึงทำให้รู้ว่าตัวเองถูกหลอกถูกโกงเอาเงินไป  ซึ่งไม่เป็นไปตามที่นายเอ และ ย.ส.เบญจพล ยืนยันในวันที่มายื่นกู้เงิน จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.บ้านไผ่ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา

"เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอก จึงโพสต์เฟซบุ๊คเพื่อเตือนให้นายหน้าและนายทุน ระวังจะถูกมิจฉาชีพ หลอกเอาเอกสารปลอมมากู้เงินโดยอาศัยความเชื่อใจ และอยากฝากถึงกระทรวงหรือหนวยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบด้วยว่า เมื่อเอกสารสิทธิ์ นส.3ก. ฉบับดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่าเป็นเอกสารตัวจริง แต่มีการเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินแล้ว ในความเป็นจริง เมื่อเปลี่ยนเป็นโฉนดแล้ว นส.3ก ดังกล่าวก็ไม่สามารถนำมาใช้ในทางกฎหมายตามสิทธิ์ได้ ก็ควรจะอยู่ที่สำนักงานที่ดิน ที่ห้องเก็บเอกสารหรือทำลายทิ้งไป แต่มาพบว่าถูกนำมาใช้หลอกลวงคนอื่นจากมิจฉาชีพ ซึ่งไม่ทราบว่านำมาจากไหน หรือเก็บได้จากที่ไหน หรือมีใครรู้เห็นด้วยหรือไม่ก็อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบในส่วนนี้ด้วย และในส่วนที่ตนเองถูกหลอกนั้นได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สภ. บ้านไผ่แล้ว

พร้อมกันนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายเอ ทางโทรศัพท์ ซึ่งนายเอ กล่าวว่า ทุกอย่างมีการนำเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมายแล้ว จึงพูดอะไรไม่ได้ และไม่ขอพูดอะไรเพระจะมีผลกระทบกับทางคดี