7thMay

7thMay

7thMay

 

April 26,2024

จับแล้วนักโทษชาย หนีศาลขอนแก่น ขณะกลับมาปาร์ตี้ยาบ้าภายในรีสอร์ทชื่อดัง

 

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 เม.ย.2567 ที่ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น  พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วยนายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น ,นายปิยวัฒน์ กองสุราษฏร์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม น.ช.รัชพล เขียนนอก หรืออาร์ต อายุ 35 ปี นักโทษคดียาเสพติดซึ่งหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลด้วยการปีนประตูรั้วด้านข้างศาล จ.ขอนแก่นหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เพื่อนร่วมขบวนการค้ายาเสพติดมารอรับเหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับจับกุมนายพลังวัชร ขุนสินไชยรัชร หรือน๊อตอายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/4 ถนนทหาร ต.ถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ขณะที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขต ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น

 

พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น  กล่าวว่า หลังจากที่ น.ช.รัชพล หรือนายอาร์ต อาศัยจังหวะช่วงที่กำลังควบคุมตัวจากศาล จ.ขอนแก่น กลับมาขึ้นรถของกรมราชทัณฑ์เพื่อนำกลับไปคุมขังที่ทัณฑพสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น หลังสิ้นสุดการฟังคำพิพากษาโดยปีนรั้วศาลออกพร้อมโซ่ตรวนและชุดนักโทษ ก่อนที่จะมีนายพลังวัชรหรือนายน็อต   ขับรถจักรยานยนต์  ฮอนด้าเวฟหมายเลขทะเบียน  ขพฉ-780 ระยอง มารับและหลบหนีไป ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น.ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และชุดเฉพาะกิจกรมราชทัณฑ์ ได้กำลังไล่ล่าติดตามจับกุมอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทราบว่า ทั้ง 2 คนได้ไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่บ้านผือ ต.พระลับ  อ.เมืองขอนแก่นเพื่อถอดโซ่ตรวน ซึ่งเมื่อถอดโซ่ตรวนได้แล้ว นายอาร์ตก็ไปเอารถยนต์เก๋ง  โตโยต้าโว  สีบรอนด์ทอง หมายเลขทะเบียน กต-5872 ขอนแก่น ซึ่งเป็นของคนรู้จักกัน ขับขี่ออกมาเพื่อหลบหนีต่อ ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนีจากศาลนั้น จอดทิ้งไว้ในบ้านญาติของนายน๊อต

 

"จากนั้นทั้ง 2 คนได้ไปเอายาบ้า จำนวน 14,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนไว้ในพื้นที่อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม แล้วก็เปิดห้องพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ชุดจับกุมได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมและแกะรอยจนทราบว่า ทั้ง 2 คนออกจากรีสอร์ทที่ อ.เชียงยืน ในเวลา 05.00 น.แล้วมาเข้าพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ บ.ศิลา ม.18 ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น โดยเข้าพักที่ห้องหมายเลข 24 วันนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบแน่ชัดแล้วว่า ทั้ง 2 คน เข้าพักและไม่มีใครออกมา  จึงประสานงานร่วมรีสอร์ทและวางกำลังโดยรอบก่อนที่จะเข้าทำการตรวจค้น ซึ่งเมื่อเข้าในห้องก็มีกลิ่นยาบ้าคละคลุ้งและพบนายอาร์ตและนายน๊อตกำลังมั่วสุมเสพยาบ้าอยู่  โดยในชักโครกของห้องส้วมมีน้ำสีแดง นอกจากนี้ยังคงพบถุงบรรจุยาบ้าเกลื่อนพื้น  จึงได้ควบคุมตัวและตรวจยึดยาบ้าในห้องจำนวน 8,000 เม็ด ส่วนยาบ้าที่ถูกแกะทิ้งลงชักโครกนั้นประมาณ 6,000 เม็ด จึงควบคุมตัวและตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น   จากนั้นจึงได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านญาติที่ผู้ต้องหาระบุ ซึ่งก็พบโซ่ตรวน รวมทั้งชุดนักโทษสีน้ำตาล หมวกกันน็อค  รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีและ โทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง"

 

พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของ น.ส.ธีระดา ศิริสุทธา   ภรรยาของนายอาร์ตนั้น จากการสอบสวน ไม่พบพิรุธว่ามีการช่วยเหลือให้นักโทษหลบหนี ขณะที่การสอบสวน นายอาร์ต ยอมรับว่า เคยถูกตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น จับกุมตัวพร้อมยาบ้า จำนวน 8,600 เม็ด เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา และถูกคุมตัวเข้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น จนถูกศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 24 เม.ย.   ที่ผ่านมา ขณะไปที่ศาลหลังฟังคำพิพากษาแล้วเดินไปขึ้นรถ เพื่อกลับเข้าคุก เห็นภรรยาและเพื่อนจอดรถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนเทพารักษ์ จึงตัดสินใจวิ่งหนีข้ามรั้ว ออกไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเพื่อน ให้พาหลบหนี โดยคิดว่า เมื่อหนีรอดมาได้ ก็ไปเอายาบ้า จำนวน 14,000 เม็ดที่ซ่อนเอาไว้ ส่งให้เครือข่ายเอาไปขาย เอาเงินหนีต่อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังการสอบสวนแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ   ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดก็หมาย ส่วนนายอาร์ตจะถูกแจ้งข้อหา หักแหกหลบหนีศาล เพิ่มอีก 1 ข้อหา ส่วนนายน็อต  จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มจากยาเสพติดอีก 1 ข้อหาคือข้อหา พานักโทษหักแหกหลบหนี ก่อนทำการควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแ่กน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ขณะที่ นายปิยวัฒน์ กองสุราษฏร์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้มอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 5000 บาท ให้ชุดสืบสวน ที่ตามจับ น.ช.รัชพลและนายพลังวัชรได้ ซึ่งเมื่อถูกจับตำรวจก็จะมีการสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติม ทั้งในส่วนที่พบยาบ้าขณะเข้าจับกุมจำนวน 8,000 เม็ด และคดีเกี่ยวกับการแหกหักหลบหนีศาล ซึ่งนายอาร์ตเดิมมีคดียาเสพติดอยู่แล้ว และหลบหนีศาลในวันศาลนัดฟังคำพิพากษา ก็จะเพิ่มโทษเข้าไปอีก ทั้งนี้ในส่วนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จะมีการหารือร่วมกับทางศาลและตำรวจ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นและเพิ่มมาตรการป้องกันให้รัดกุมมากขึ้น

 

"จากเหตุการณ์ล่าสุดนั้น ทำให้พบว่ามีมาตรการป้องกันในหลายจุดยังต้องปรับปรุง แต่ทั้งนี้ตามกฎหมายในการนำนักโทษไปขึ้นศาลนั้นเป็นภารกิจความรับผิดชอบของตำรวจ โดยราชทัณฑ์เป็นที่ควบคุมตัวเท่านั้น ตำรวจศาลจะเป็นผู้ดำเนินการคุมตัวหากจะมีการเบิกตัวนักโทษ เราจะไม่โทษว่าใครถูกใครผิด ซึ่งต้องดูสาเหตุที่เกิดว่าเกิดความบกพร่องที่จุดไหน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทราบดีอยู่แล้ว แต่การแหกหักหลบหนีที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นที่ศาล เราก็จะดูในเรื่องภาพรวมของศาลและตำรวจ ว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนหรือไม่ แล้วนำมาถอดบทเรียนร่วมกันระหว่างศาลและตำรวจ ในการเพิ่มมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก"

 


4 78