8thSeptember

8thSeptember

8thSeptember

 

July 04,2024

เจ้าสัวประเดิม ๒๔ ล้าน สร้างปอดใหม่เมืองโคราช ยืนยันไม่ได้รื้อ‘สนามม้า’

 

เจ้าสัวใหญ่เมืองโคราช ประเดิมบริจาค ๒๔ ล้านบาท ปรับโฉมสนามกีฬาทหาร สู่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ร.๑๐ เป็นปอดและแลนด์มาร์กแห่งใหม่ “สว่าง สะอาด สวยงาม ปลอดภัย” แม่ทัพภาคที่ ๒  ยืนยันไม่ได้รื้อสนามม้า ไม่กระทบแข่งม้าและคนเลี้ยงม้า อนาคตเชื่อมต่อกับบุ่งตาหลั่ว พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาคเพิ่มเติม


เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. ที่ร้านฮอสคอฟฟี่ ติดกับสนามกีฬาทหารกองทัพภาคที่ ๒ (สนามม้าเดิม) พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ ร่วมกับคหบดี นักธุรกิจ และภาคประชาชน ประกอบด้วย นายศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ (เซี๊ยะ) ประธานกรรมการ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ (เสี่ยสู) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มคิงส์ยนต์ ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุ, นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เจ้าของสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ ๒ และโครงการพาข้าว, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตส.ส.จังหวัดนครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา, นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ราชสีมา และนายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวการปรับปรุงสนามกีฬาทหาร กองทัพภาคที่ ๒ (สนามม้า) เป็นสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ ๑๐

ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ ๒ มีแนวคิดในการจัดทำ “โครงการปรับปรุงสนามกีฬาทหารเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ ๑๐” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ บนที่ราชพัสดุขนาดพื้นที่ ๗,๗๙๙.๑๗ ตารางวา (๑๙-๑-๙๙.๑๗ ไร่) ประกอบด้วย สนามกีฬา ลานประติมากรรม สวนสาธารณะ และลานกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสต่างๆ ของกองทัพภาคที่ ๒ ส่วนราชการภายนอก รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อให้กำลังพลและครอบครัว มีพื้นที่ในการประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งการปรับปรุงพื้นที่สนามกีฬาทหาร กองทัพภาคที่ ๒ ตามแผนพัฒนาเป็นสวนสาธารณะลานกีฬาอเนกประสงค์ จำนวน ๘ จุด ได้แก่ ปรับปรุงลู่ม้าเดิม, ปรับปรุงสนามกีฬา, ก่อสร้างพื้นที่เป็นลานประติมากรรม, ก่อสร้างทางเดินเชื่อมภายในพื้นที่, ก่สร้างสนามสำหรับจักรยานขาไถ, ก่อสร้างสวนสาธารณะ, ปรับปรุงพื้นที่สำหรับม้าเดิม และก่อสร้างลานกิจกรรม

พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒


ในส่วนงบประมาณดำเนินโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกองทัพภาคที่ ๒ สนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เมื่อแล้วเสร็จจะส่งมอบให้กองทัพบก เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ได้ออกแบบแผนการปรับปรุงแล้ว และอยู่ในขั้นดำเนินการในระยะเวลา ๙๐ วัน และกำหนดพิธีเปิดใช้บริการ ในวันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) สนามกีฬาทหารกองทัพภาคที่ ๒ ปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๖๓ ทำให้อาคารสถานที่เกิดการชำรุด ทรุดโทรม วัสดุอุปกรณ์เสื่อมสภาพลง กองทัพบกจึงยกเลิกการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของสนามม้า (สนามกีฬาทหาร ทภ.๒) โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบของการดำเนินกิจการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเกิดประโยชน์สูงสุด

ปรับปรุงให้ดีขึ้น
พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมาหลายปีตั้งแต่ปี ๒๕๖๓ ถึงปัจจุบัน พื้นที่สนามม้าในค่ายสุรนารีมีความเหมาะสมหลายอย่างที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับคนโคราช ในนามของกองทัพภาคที่ ๒ คิดว่าพื้นที่แห่งนี้ควรจะปรับปรุงให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ในส่วนที่มีความทรุดโทรมลง น่าจะทำให้ดีกว่านี้ จึงหารือกับคหบดีพ่อค้าประชาชน และบุคคลที่มีจิตอันเป็นกุศลต่างๆ ที่จะร่วมพัฒนาโคราช และจะทำพื้นที่ตรงนี้ให้ดีขึ้น โดยจะแบ่งเป็น ๓ เฟส ซึ่งเฟสแรกจะการปรับปรุงลานกีฬา โดยไม่ได้แตะต้องสนามม้าเดิม ซึ่งสนามม้าเดิมจะมีลู่วิ่ง อัฒจรรย์ มีพื้นที่ไว้แข่งม้า ถ้าเมื่อใดที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้วจัดให้มีการแข่งขันม้าก็สามารถแข่งขันได้เลย โดยที่ไม่ได้ทําอะไร เราจะปรับปรุงเฉพาะลู่ม้าเดิม สนามกีฬา ลานประติมากรรม ทางเดินเชื่อม สวนสาธารณะ และพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นลานกิจกรรม ในเบื้องต้นมีการดีไซน์โดยความร่วมมือกับสถาปนิกจาก มทร.อีสานที่ออกแบบอย่างสวยงาม จะทำพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของโคราช สะอาด สว่าง ปลอดภัย และน่าท่องเที่ยว ซึ่งในเฟส ๒ และเฟส ๓ จะสามารถเชื่อมโยงกับบุ่งตาหลั่วอย่างสวยงาม

“พื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นที่ราชพัสดุเหมือนเดิม โดยกองทัพภาคที่ ๒ ขอใช้ มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์จากเดิมคือสนามแข่งขันกีฬาทหารหรือสนามม้าเป็นลานกิจกรรม เป็นสนามที่ให้ทหารใช้ในเรื่องของกิจกรรมที่เกี่ยวกับการฝึก จึงมีการปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เนื่องจากโควิด ส่วนงบประมาณในการปรับปรุงเป็นการที่ภาคเอกชนลงความเห็นที่จะสนับสนุน” แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าว

นายศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ (เซี๊ยะ) ประธานกรรมการ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)

ภูมิใจสะอาดสวยงาม
นายศิริพงษ์ รุ่งโรจน์กิติยศ (เซี๊ยะ) กล่าวว่า ขอบคุณกองทัพภาคที่ ๒ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ทัพที่กรุณาติดตามและยกสถานที่สวยงามเหล่านี้ให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวโคราช โครงการนี้ก็จะสําเร็จลุล่วงโดยเร็ว อยากเชิญชวนชาวโคราช เมื่อโครงการนี้สําเร็จก็มาท่องเที่ยว รวมทั้งประชาชนของประเทศไทยที่มีโอกาสผ่านมาโคราชก็เชิญมาท่องเที่ยวได้ เราภูมิใจมาก สะอาด สวยงาม และปลอดภัย ตามนโยบายของแม่ทัพ

ทางด้านนายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ (เสี่ยสู) กล่าวว่า โครงการนี้กองทัพภาคที่ ๒ ร่วมกับภาคประชาชน ที่จะปรับปรุงสนามม้าที่อยู่กลางเมืองให้เป็นปอดแห่งใหม่ และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมา ผมว่าสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างราชการกับเอกชน เป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน ช่วยกันเผยแพร่ข่าวที่จะมีการปรับปรุงในส่วนนี้ จะบริจาคมากหรือน้อยก็ไม่มีปัญหา ขอให้เราชาวโคราชมาร่วมมือร่วมใจกันทําสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาของเรา

นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ (เสี่ยสู)

นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กล่าวว่า ในฐานะคนโคราช ขอเชิญชวนชาวโคราชทุกท่าน ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อที่จะนํามาปรับปรุงสวนสาธารณะแห่งนี้ เนื่องจากพื้นที่ใหญ่กว้างขวาง เราสามารถที่จะนําวิธีต่างๆ เหล่านี้มา ทํากิจกรรมต่างๆ ได้ ตามที่เราจะออกแบบกันในอนาคต เช่นถ้าเป็นเหมือนสวนลุมฯ ก็จะมีรำไทเก๊ก หรือรำมวยจีน หรืออื่นๆ รวมทั้งอาจจะเป็นสนามฟุตซอล สนามบาสเกตบอล เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้สามารถทําให้เราสามารถนําคอนเทนต์ต่างๆ เข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้ ตนตั้งความหวังไว้ว่า ถ้าชาวโคราชร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ให้คนที่ผ่านโคราชต้องมาแวะโคราช มาดูสนามตรงนี้สักครั้ง

นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ

แลนด์มาร์กแห่งใหม่
นายวัชรพล โตมรศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของเราชาวโคราช หลังจากที่ปี ๒๕๔๒ กองทัพภาคที่ ๒ สร้างสวนน้ำบุ่งตาหลั่ว เราเรียกว่าสวนน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ บุ่งตาหลั่ว และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพฯ มาเปิด และในปีนี้เป็นปีมหามงคล ครบ ๖ รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ซึ่งกองทัพภาคที่ ๒ และภาคธุรกิจ ส่วนราชการต่างๆ มีความคิดที่จะพัฒนาบริเวณสนามม้าให้เป็นปอดของคนโคราช เพื่อรองรับพี่น้องประชาชนในเขตอําเภอเมือง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการรองรับที่จะทําให้พี่น้องชาวโคราชมีปอดในการที่จะให้ทุกคนมาออกกําลังกาย และเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชาวโคราช ถือว่าเป็นการเตรียมการที่ดีมาก

นายวัชรพล โตมรศักดิ์

 

“วันนี้มีการพูดคุยถึงเรื่องการออกแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มทร.อีสาน และส่วนราชการต่างๆ ที่มาช่วยกันดําเนินการก่อสร้าง  ไม่ได้ใช้เงินงบประมาณของทางราชการ แต่เป็นการร่วมลงทุนของพี่น้องชาวโคราช ซึ่ง ๓-๔ ท่านนี้ล้วนเป็นคหบดีชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าอีกไม่ช้าสถานที่แห่งนี้จะประสบความสําเร็จ เป็นปอดแห่งใหม่ และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศและชาวโคราชด้วย จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวโคราชและทุกท่าน ถ้าคิดว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเราชาวโคราช และเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย อยากให้มาร่วมสนับสนุน หรือถ้าคิดว่าสิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงก็ขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์และบอกกล่าวด้วยว่า โครงการปรับปรุงสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ ๑๐ ของเราจะเป็นปอดแห่งใหม่ของชาวโคราช เป็นความร่วมมือของพวกเราชาวโคราชร่วมกัน” นายวัชรพล กล่าว

นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ราชสีมา

ชวนร่วมกันสร้าง
ในขณะที่นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ราชสีมา กล่าวสั้นๆ ว่า ในนามของภาคเอกชนเล็กๆ รายหนึ่ง ดีใจที่ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมกับโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับพี่น้อง ตั้งแต่วัยเด็ก วัยกลางคน วัย สว. นอกจากความดีใจแล้ว เชื่อว่าคนที่มาร่วมงาน คนที่มาร่วมออกกําลังกาย พักผ่อน ก็จะสุขใจ จากแรงที่เราดีใจสุขใจ ตนคิดว่าสิ่งสําคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งคือความร่วมใจร่วมกันเป็นเจ้าภาพในพื้นที่ที่เป็นประโยชน์นี้ ร่วมกับกองทัพภาคที่ ๒ ร่วมกับทุกคน เราจะได้สร้างด้วยกัน เพราะว่าสถานที่แห่งนี้เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้นเรามาช่วยกันสร้าง เพื่อส่งทอดต่อลูกหลานของเรา รู้สึกดีใจ สุขใจ และขอร่วมใจด้วย

นายไพจิตร มานะศิลป์


นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในนามตัวแทนของหอการค้าฯ มีความยินดีอย่างยิ่งที่กองทัพมีโครงการดีดีแบบนี้ให้ชาวโคราช ขอเชิญชวนทั้งประชาชนได้ร่วมกันอีกครั้งที่จะทําเพื่อคนโคราชด้วยกัน ที่จะมีสวนสาธารณะแห่งใหม่ให้คนโคราชมาใช้กัน

ยืนยันไม่ได้รื้อสนามม้า
พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าวอีกว่า ในขอบเขตของงานบนพื้นที่ ๑๙ ไร่นี้ สิ่งที่จะดำเนินการคือ ลู่ม้าเดิม ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าไม่มีการปรับปรุงหรือว่าทําให้การแข่งขันม้าแข่งไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่จะมีการแข่งขันม้า ลู่วิ่งก็ยังอยู่ ลู่ม้าเดิมก็ยังอยู่ อัฒจรรย์ที่ใช้ในการชมก็ยังมีอยู่ ทุกอย่างมีอยู่เหมือนเดิมทั้งหมด กิจกรรมด้านในจะประกอบไปด้วย ลู่ม้าเดิมจะปรับปรุงให้ดีขึ้น แล้วก็ลานกีฬาประกอบด้วย สนามฟุตบอล สนามฟุตซอล สนามเปตอง และมีสนามตะกร้อลอดห่วง ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ให้ข้อคิดว่าควรจะมีสนามตะกร้อลอดห่วงด้วย ลานประติมากรรมโครงการสวยงามเป็นแลนด์มาร์ก และมีสนามขาไถ่ให้เด็กๆ ได้มาขี่รถเล็กๆ ไถฝึกออกกําลังกาย รวมทั้งสวนสาธารณะต่างๆ ๗ ไอเทมที่มีอยู่ใน ๗ ที่มีอยู่ในอยู่ในลานกีฬาทั้งหมด ถ้ามีการแข่งขันม้าจะสวยงามมาก และไม่มีอะไรบังการแข่งขันม้า ไม่ได้มีอุปสรรคต่อการแข่งขันม้า วิถีชีวิตของพี่น้องคนเลี้ยงม้า จ็อกกี้ สมาคมคนเลี้ยงม้าไม่ได้กระทบ และยืนยันว่าไม่ได้มีการรื้อสนามม้า ไม่กระทบวิถีชีวิตของคนเลี้ยงม้า ถ้าเมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันก็สามารถแข่งได้เลย

“โครงการนี้มี ๓ เฟส เฟสแรกที่ต้องการ ทําเร่งด่วนเพื่อคนโคราช เป็นเงินประมาณ ๒๐ กว่าล้านเศษ โดยจะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จปุ๊บเราวางแผนการบริหารจัดการเสร็จปุ๊บ เราก็จะเริ่มดําเนินการ” แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าว


งบ ๒๔ ล้านพร้อมแล้ว

เมื่อสื่อมวลชนถามว่า งบประมาณ ๒๔ ล้านบาทมีแล้วใช่หรือไม่? นายศิริพงศ์ รุ่งโรจน์กิติยศ ตอบว่า “งบพร้อมแล้ว” ท่ามกลางเสียงปรบมือตามมา

นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ในเรื่องงบนั้นก็หวังว่าชาวโคราชจะช่วยกันร่วมบริจาค จะมากจะน้อยก็อย่างที่พูดไปมากน้อยก็ให้เรามีส่วนร่วม แต่คิดว่าในยอดเงินที่แม่ทัพนำเรียนไปแล้วนั้นคือประมาณ ๒๔ ล้านบาท คิดว่าถ้าหลังจากที่เราเปิดให้ทุกคนที่มีจิตใจอยากจะปรับปรุงสนามม้าแห่งนี้ให้เป็นปอดแห่งใหม่เป็นสถานที่เป็นแลนด์มาร์กของโคราชแล้ว คิดว่าในส่วนที่ขาดก็น่าจะหาได้จนครบ จนสําเร็จ แม่ทัพก็คิดว่าไม่น่าจะเกิน ๒-๓ เดือนน่าจะเรียบร้อย เป็นโครงการที่ที่อยากจะให้ทันการเฉลิมฉลองครบ ๗๒ พรรษาในหลวงของเราในปีนี้ ซึ่งนี่คือสิ่งที่เราคิดกันเอาไว้ เพราะฉะนั้นในเรื่องของตัวงบประมาณก็คิดว่าในส่วนที่แม่ทัพได้ทาบทามไป ก็มีบางคนบริจาคมาให้แล้ว ส่วนที่จะเพิ่มเติมจนครบให้สําเร็จก็น่าจะเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ผูกขาดอยู่ในกลุ่มที่แม่ทัพไปเชิญชวนมา อยากจะให้ประชาชนที่อยู่ในโคราชร่วมกันสร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาด้วยกัน ตรงนี้เป็นเรื่องสําคัญอย่างที่คุณปรีชาว่า เราน่าจะร่วมใจ ในการที่จะทําสิ่งนี้ให้เป็นมรดกกับคนโคราชต่อไปในอนาคต

กองทัพไม่ยุ่งเรื่องเงิน
“เฟสแรกนี้ แม่ทัพได้คุยกับผู้ออกแบบคือ มทร.อีสาน งบประมาณ ๒๔ ล้าน แต่ว่าถ้ามีการควบคุมในการใช้เงินดีๆ ก็น่าจะเพียงพอ อาจจะไม่ถึงยอดนี้ก็ได้ แต่ว่าในยอดนี้คือยอดที่ทางผู้ออกแบบได้คิดคํานวณขึ้นมาแล้ว อยากเชิญชวนคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในการประชุม มาร่วมบริจาค ส่วนบัญชีธนาคารที่จะให้ผู้บริจาคเข้านั้น เพิ่งจะคุยกันในวันนี้ว่าเราจะทําชื่อบัญชีว่าอย่างไร หลังจากนี้ต่อไปต้องขอแรงสนับสนุนผู้สื่อข่าวให้ช่วยกระจายข่าวในเรื่องชื่อบัญชีธนาคารที่จะให้บริจาคเข้ามา ซึ่งกองทัพจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องการเงิน เพราะว่ากองทัพถือว่าให้การสนับสนุนให้พื้นที่หรือว่าสิ่งอํานวยความสะดวกอื่นๆ ที่สามารถจะช่วยได้ แต่ว่าเรื่องเงินเรื่องทองทางกองทัพจะไม่เข้ามายุ่ง เพราะเป็นการร่วมบริจาคของภาคประชาชนโคราช โดยกองทัพเป็นเจ้าของพื้นที่ที่ใช้งานอยู่ แล้วให้พื้นที่นี้มาทำประโยชน์ สิ่งเหล่านี้เป็นกรอบที่เราได้คุยกันในวันนี้” นายสุวัฒน์ กล่าว

เชื่อมกับบุ่งตาหลั่ว
นายสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ทําเสร็จแล้ว ทางกองทัพจะต้องดูแลต่อ เพราะว่ากองทัพจะดำเนินการในเฟส ๒-๓  จะเชื่อมต่อกับบุ่งตาหลั่ว เพราะว่าเฟส ๒ จะปรับปรุงอัฒจรรย์ใหม่ให้ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น แล้วจากตรงนี้เฟส ๒ ไปเฟส ๓ จะมีทางจักรยานไปเชื่อมกับทางลอยฟ้า ไปเชื่อมกับบุ่งตาหลั่ว ต่อไปจากบุ่งตาหลั่วจะมาที่นี่หรือจากตรงนี้จะไปบุ่งตาหลั่วก็สามารถจะมีทางจักรยานกับทางวิ่งไปได้ เท่ากับว่าเป็นการเชื่อมระหว่างสองจุดเข้าด้วยกัน จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่จะมาออกกำลังกาย มาท่องเที่ยว คิดว่าเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์กับคนโคราช หรือคนที่มาท่องเที่ยวที่โคราชในอนาคต ซึ่งจะไม่ไปยุ่งกับสนามม้า ขอให้กลุ่มผู้เลี้ยงม้าสบายใจได้ ถ้าทําตรงนี้เสร็จแล้ว กลุ่มคนเลี้ยงม้าน่าจะดีขึ้น เพราะว่าเมื่อมีอะไรครบหมด เป็นแหล่งท่องเที่ยว คนอาจจะเข้ามาดูวิถีชุมชนของคนเลี้ยงม้าที่โคราช อาจจะเป็นประโยชน์ทางอ้อมในอนาคตด้วย” โดยนายไพจิตรกล่าวเสริมว่า “เคยเรียนท่านแม่ทัพไปแล้วว่าจะมีส่วนที่เป็นสนามฝึกหัดขี่ม้า ก็จะเป็นอาชีพเพิ่มเติมให้กับคนเลี้ยงม้าด้วย อาจจะมีอาชาบําบัด เป็นต้น”

สว่าง สะอาด ปลอดภัย
พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ กล่าวเสริมในท้ายสุดว่า ยืนยันในฐานะแม่ทัพภาคที่ ๒ ว่า บริบทที่เกี่ยวข้องกับม้า ไม่ว่าจะเป็นจ็อกกี้ คนเลี้ยงม้า เจ้าของคอก หรือว่าแม่ค้าที่อยู่รอบๆ สนามม้า ที่มีผลต่อการหยุดการแข่งขันม้า ยืนยันว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเมื่อใดก็ตามสถานการณ์ดีขึ้นและมีการจัดการแข่งขันม้าได้ ก็สามารถแข่งได้ปกติ และเชื่อว่าสวยงามกว่าเก่า ลองมองภาพสนามม้าที่มีลานกีฬา มีสนามขาไถ ลานประติมากรรม แล้วถ้านั่งดูบนอัฒจรรย์มองเห็นม้าวิ่งแข่งด้วย ดูมีความสวยงาม ตนคิดว่าคนจะมามากกว่าเดิม วิถีชีวิตคนเลี้ยงม้าที่อยู่ที่นี่ก็จะเป็นอีกวิถีชีวิตหนึ่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของโคราชได้ด้วย และคอนเซปต์ที่นี่คือ สว่าง สะอาด ปลอดภัย โดยเฟสแรกคิดว่าไม่เกิน ๓ เดือนจะแล้วเสร็จ  

 


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๙ ฉบับที่ ๒๗๖๖ วันที่ ๑๕ เดือนมิถุนายน - วันที่ ๑๔ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๗


309 5,516