4thOctober

4thOctober

4thOctober

 

September 19,2024

รวบแล้วจอมโจรขโมยระฆัง 5 วัด อ้างเอาขายหาเงินเลี้ยงลูกน้อยและส่งงวดรถ

 

รวบแล้วจอมโจรใจบาปตระเวนขโมยระฆังทองเหลืองเก่าแก่ 5 วัดที่บุรีรัมย์  ที่แท้มีอาชีพเก็บของเก่าขาย  สารภาพเอาไปแปรสภาพขายตามร้านรับซื้อของเก่า ยอมรับกลัวบาปกรรมแต่อ้างจำใจทำเพราะรายได้ไม่พอเลี้ยงลูกน้อยและส่งงวดรถ     

ความคืบหน้ากรณีที่มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน คาดใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะตระเวนก่อเหตุลักขโมยระฆังทองเหลืองตามวัดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ หายไปแล้ว 5 วัดทั้งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.นางรอง และ อ.ชำนิ    โดยก่อเหตุทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืนอาศัยช่วงที่พระสงฆ์ออกไปบิณฑบาต และสวดอภิธรรมศพญาติโยมที่เสียชีวิตลงมือก่อเหตุ  สร้างความเดือดร้อนให้กับวัดต่างๆ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง   เฉลิมพระเกียรติ   และ สภ.ชำนิ   ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามถนน และสถานที่ต่างๆ  เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

 

ล่าสุด (18 ก.ย.67)   เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรอง และ สภ.เฉลิมพระเกียรติ  จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจับกุมนายอัมภรณ์ หรือเล็ก อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง  พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน  สีดำ หมายเลขทะเบียน บห-3695 บุรีรัมย์  ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์  ระฆังทองเหลืองเก่าแก่ตามวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์รวม 5 วัด จากนั้นได้นำตัวนายอัมภรณ์ ไปสอบสวน และดำเนินคดียังโรงพักในท้องที่ที่ก่อเหตุ

 

 จากการสอบถามนายอัมภรณ์ หรือเล็ก ให้การว่า มีอาชีพตระเวนหาของเก่าตามบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ เพื่อคัดแยกและนำไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า จึงอาศัยช่วงที่ตระเวนออกไปหาเก็บของเก่าตามสถานที่ต่างๆ ไปก่อเหตุขโมยระฆังทองเหลืองตามวัดในช่วงที่พระออกไปบิณฑบาต และไม่อยู่วัด ได้ระฆังไปทั้งหมด 6 ใบจากจำนวน 5 วัด  คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม 67 ที่วัดป่าโพธิ์แก้ว อ.ชำนิ ได้ระฆังไป 1 ใบ, วันที่ 18 สิงหาคม 67 ขโมยที่วัดบ้านสี่เหลี่ยม อ.เฉลิมพระเกียรติ ได้ระฆังไป 1 ใบ, วันที่ 24 สิงหาคม 67 ขโมยที่วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง ได้ระฆังไป 1 ใบ, วันที่ 2 กันยายน 67 ขโมยที่วัดบ้านถนน อ.นางรอง ได้ระฆังไป 1 ใบ และวันที่ 15 กันยายน 67 ขโมยที่วัดหนองโสน  อ.นางรอง ได้ระฆังไป 2 ใบ

 

หลังจากได้ระฆังไปแล้ว ก็จะนำไปตัดเป็นแผ่นแล้วนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ใน อ.หนองกกี่  กิโลกรัมละ 100 บาท ระฆังลูกหนึ่งเมื่อชำแหละแล้วนำไปขายก็จะได้เงินลูกละ 2,000 – 3,000 บาทขึ้นอยู่กับน้ำหนัก   อ้างว่าสาเหตุที่ทำไปเพราะตนทำงานคนเดียวหาเงินไม่ทัน เพราะมีภรรยาและลูกน้อยที่มีอาชีพเพียง 1 ขวบเศษต้องเลี้ยงดู บางส่วนก็เอาไปจ่ายค่างวดรถด้วย  เมื่อถามว่าไปขโมยของในวัดไม่กลัวบาปเหรอ นายอัมภรณ์ ก็ตอบว่ากลัวแต่จำใจต้องทำเพราะรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่เชื่อในคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ก็จะได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป    

 


12 91