เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 ที่สถานีรถไฟบ้านกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ในแนวเส้นทางโครงการรถไฟทางคู่ มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว กลุ่มฟังเสียงโคราช จัดกิจกรรมถกปัญหาท้องถิ่น โดย ดร.จารุพงษ์  บรรเทา ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ พร้อมนายกิตติพัทธ์  แหวนโคกสูง นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) หนองไข่น้ำ และนายมารุต ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ คลาสคาเฟ่ ร่วมล้อมวงเสวนา “ท่าเรือบกโคราช” โครงการที่รอความหวังมา 3 รัฐบาล และต้องรออีกนานไหม ? ซึ่งมีผู้นำชุมชนและชาวบ้านให้ความสนใจร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

ดร.จารุพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีปริมาณการนำเข้าและขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดิมท่าเรือแหลมฉบัง เป็นจุดรับ–ส่ง สินค้าและกระจายสินค้า แต่ไม่เพียงพอต่อการจัดเก็บ การพักคอยสินค้าและกระจายส่งต่อ รัฐบาลจึงมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม ดำเนินการศึกษาและจัดหาพื้นที่เหมาะสมในการจัดตั้งท่าเรือบกไว้รับสินค้าโดยใช้ระบบรางขนส่งเป็นหลักและใช้หัวรถลากเป็นตัวขนส่งตู้สินค้ามายังท่าเรือบกเพื่อพักคอยสินค้า ก่อนส่งสินค้าทางระบบรางไปท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งมีกระบวนการปิดตู้ สำแดงภาษีเสร็จเรียบร้อย ภาคอีสานมีสินค้าส่งออกอาทิ แป้งมันสำปะหลัง ข้าว น้ำตาลและเกลือ ฯ ท่าเรือบก สามารถขนส่งสินค้าในปริมาณมาก จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดปริมาณการใช้พลังงานฟอสซิลรวมทั้งอุบัติเหตุบนถนนที่มีรถบรรทุกแล่นส่งสินค้าต่อวันหลาย 100 คัน

นายกิตติพัทธ์ นายก ทต.หนองไข่น้ำ กล่าวว่า เรามีความพร้อมด้านกายภาพ ซึ่งไม่เคยมีปัญหาน้ำท่วมและชาวบ้านให้การสนับสนุน 100 % ฝากถึงภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาการลงทุนดำเนินการที่ ต.หนองไข่น้ำ ที่คุ้มค่าและประหยัดงบประมาณมากกว่าจุดอื่น เพื่อประโยชน์กับท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม

นายมารุต กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการจัดตั้งท่าเรือบก (Dry Port) นครราชสีมา หรือท่าเรือบกโคราช โดยคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทยและผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ลงมาดูพื้นที่หลายครั้งพร้อมทำการศึกษาอย่างรอบด้าน ระบุสถานีบ้านกระโดน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2,200 ไร่ เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นที่นาชาวบ้านและไม่มีเป็นปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินและการจ่ายค่าชดเชยต่างๆ ที่สำคัญ รฟท.ได้ก่อสร้างจุดขนส่งสินค้า (Container Yard :CY) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันมีขบวนรถไฟขนส่งเกลือโดยเอกชนวันละ 16 โบกี้ จากบ้านกระโดนไปส่งที่มาบตาพุดและเป็นจุดเชื่อมจากทางหลวงแผ่นดิน (ทล.) 290 ถนนวงแหวนรอบเมืองด้านทิศเหนือ ทล. 2 ถ.มิตรภาพ ทล.205 ถ.สุรนารายณ์ ส่วนอีก 2 พื้นที่ คือ ต.กุดจิก อ.สูงเนิน และบ้านทับม้า ต.สีคิ้ว อ.สีคิ้ว มีความเหมาะสมน้อยกว่า โดยเฉพาะที่ ต.กุดจิก เป็นที่ลุ่มมีปัญหาน้ำท่วมและการเวนคืน เนื่องจากมีเอกชนกว้านซื้อที่ดินไว้เก็งกำไร หากยังมีผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน ชาวโคราชจะเสียโอกาสในการพัฒนาเมือง