November 01,2024
ป.ป.ช.ลงพื้นที่‘รร.ชุมพวงศึกษา’ ผอ.แจงเงินบริจาค-ซองผ้าป่า พร้อมโพสต์เฟซบุ๊กยืนยันไม่ชี้แจงและไม่ยอมให้เพจดังมาตัดสินชีวิต
ตามที่ ได้รับแจ้งข่าวจากศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center : CDC) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 กรณีเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่ภาพและข้อมูลระบุว่า “บังคับบริจาคเงินซื้อรถตู้ รร.โรงเรียนชุมพวงศึกษา จ.นครราชสีมา เรียกเก็บค่าเทอมเด็กคนละ 500 บาท และบังคับให้เขียนใบบริจาคเงินขั้นต่ำคนละ 400 บาท ผอ. บอกผู้ปกครองจะเอาเงินนี้ไปซื้อรถตู้โรงเรียน แถมแจกซองผ้าป่าให้เด็กคนละ 5 ซอง บังคับทำบุญอีก จนตอนนี้ผู้ปกครองบ่นกันไม่มีเงินแล้ว” และมีผู้แชร์ข้อมูลออกไปอย่างกว้างขวาง
กระทั่งต่อมาเฟซบุ๊กชื่อ "Viroj Onet" ซึ่งเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของของนายวิโรจน์ ดวนสันเทียะ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมพวงศึกษาโพสต์ข้อความว่า "1 ปี ณ ชุมพวงศึกษา ผมเลวร้ายขนาดนั้นเลยรึ ถึงผมเป็นคนต่างถิ่นแต่ก็ตั้งใจมาพัฒนาและดูแลลูก ๆ ของท่านเป็นอย่างดี ผมเสียสละ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ สติปัญญา และกำลังทรัพย์ที่ผมมีถึงแม้มีไม่มากแต่สุขใจที่ได้เป็นผู้ให้ ผมมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาโรงเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ /ขอบคุณทุกกำลังใจจากท่านผู้ปกครอง และนักเรียน พร้อมทั้งกัลยาณมิตรจากทุกทิศทุกทาง (อย่าพึ่งตัดสินใครถ้าท่านยังไม่รู้จักเขาจริง) ผมขอโทษเจ้านายเขต เจ้านายระดับสพฐ.ที่ทำให้ท่านเดือดร้อน"
และโพสต์อีกในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ว่า "ผม นายวิโรจน์ ดวนสันเทียะ ผอ.โรงเรียนชุมพวงศึกษา ต้องขอโทษศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันที่ทำให้โรงเรียนท่านเสียหาย ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันดีงามร่วม 58 ปี ผมไม่ขอชี้แจงอะไรใด ๆ เพราะผมชี้แจงชัดเจนในวันประชุมผู้ปกครองไปแล้ว ถ้าผมชี้แจงจะเหมือนเป็นการแก้ตัวในสิ่งที่ผมทำ ให้ท่านผู้ปกครอง และลูก ๆ นักเรียนเป็นคนชี้แจงน่าจะดีกว่า /ผมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ทั้งจากผู้ปกครอง นักเรียน และศิษย์เก่า
ผมจะไม่ยอมให้เพจหมาเฝ้าบ้านมาตัดสินชีวิตการทำงานผมอย่างเด็ดขาด คนที่ควรจะตัดสินผมว่าผมควรอยู่ที่นี่ต่อหรือไปจากที่นี่ต้องเป็นนักเรียนและผู้ปกครอง พร้อมทั้งศิษย์เก่า ผมพร้อมรับคำตัดสิน ผมยังจะมุ่งมั่น ตั้งใจ ดูแลลูกหลานของท่านชาวชุมพวงศึกษาต่อไปและจะทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด"
ล่าสุดวันเดียวกัน (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567) นางสาวสุรีรัตน์ นวลฉิมพลี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจสอบประเด็นดังกล่าวร่วมกับนักสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 โดยเข้าพบและสอบถามข้อเท็จจริงจาก นายวิโรจน์ ดวนสันเทียะ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมพวงศึกษา และครูผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงว่าประเด็นที่เป็นข่าวในสื่อออนไลน์ น่าจะเกิดจากการพูดคุยในที่การประชุมผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนชุมพวงศึกษาได้จัดประชุม เมื่อวันที่ 28 - 29 ตุลาคม 2567 และเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
โดยผู้อำนวยการโรงเรียนชุมพวงได้ชี้แจงในสามประเด็น ดังนี้
ประเด็นแรก การเก็บค่าเทอมนักเรียนคนละ 500 บาท ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงว่า เดิมโรงเรียนชุมพวงศึกษาต้องเก็บค่าบำรุงการศึกษาเป็นเงิน 1,200 บาท แต่เนื่องจากโรงเรียนมีงบประมาณในรายการที่ขอเก็บเงินบำรุงการศึกษาคงเหลือ และเห็นว่าจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง จึงเก็บค่าบำรุงการศึกษาเหลือเพียง 500 บาท
ประเด็นที่สอง การบังคับให้เขียนใบบริจาคเงินขั้นต่ำคนละ 400 บาท ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงว่า โรงเรียนมีความประสงค์ที่จะรับบริจาคเงินโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสถานศึกษา และได้มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนในที่ประชุมผู้ปกครองให้ร่วมบริจาคตามความสมัครใจ โดยไม่ได้กำหนดขั้นต่ำในการรับบริจาคตามที่เป็นข่าว และประเด็นการรับบริจาคเพื่อนำเงินไปซื้อรถตู้โรงเรียนนั้น เป็นเพียงการยกตัวอย่างว่าโรงเรียนมีสิ่งใดที่ขาดแคลนหรือต้องได้รับการบำรุงรักษาบ้าง โดยโรงเรียนมีเอกสารการออกใบเสร็จที่สามารถนำไปลดหย่อยภาษีให้แก่ผู้ร่วมบริจาครวมทั้งจัดทำหนังสือขอบคุณ ซึ่งเงินบริจาคทั้งหมดที่โรงเรียนได้รับตั้งแต่วันที่ 28 – 31 ตุลาคม 2567 เป็นเงินประมาณ 488,564 บาท และโรงเรียนยังไม่ได้ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณแต่อย่างใด
ประเด็นที่สาม การแจกซองผ้าป่าให้เด็กคนละ 5 ซอง บังคับทำบุญ ผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงว่า โรงเรียนได้ให้ครูที่ปรึกษารับซองผ้าป่าไปแจกให้กับนักเรียนคนละ 1 ซอง ไปให้ผู้ปกครองเพื่อร่วมทำบุญกับโรงเรียน และฝากนักเรียนไปช่วยแจกซองผ้าป่าให้ญาติพี่น้องหรือผู้ที่สนใจร่วมทำบุญ คนละ 4 ซอง โดยโรงเรียนมีกำหนดจัดผ้าป่า วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา พบเอกสารเกี่ยวกับการแจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคเงินให้แก่โรงเรียนชุมพวงศึกษา และเอกสารการออกใบเสร็จรับเงินที่โรงเรียนออกให้แก่ผู้บริจาค โดยแต่ละรายมีการบริจาคเงินจำนวนไม่เท่ากัน อาทิ 10 บาท 300 บาท 400 บาท 1,000 บาท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้ขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการรับบริจาคในประเด็นดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อมูล และหากพิจารณาเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย จะดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน หน้าที่ และอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช. ต่อไป
186 3,900