November 25,2024
สาวบุรีรัมย์ขี่จักรยานยนต์ไปธุระเจอเชือกว่าวเกี่ยวรัดคอหวิดขาดและบาดหน้าเสียโฉมไร้ผู้รับผิดชอบ
สาวขายประกัน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขี่ จยย.ซ้อนเพื่อนไปทำธุระต่างอำเภอ ระหว่างทางโดนเชือกว่าวปริศนาเกี่ยวรัดคอหวิดขาด บาดหน้าเสียโฉม เพื่อนพยายามช่วยโดนเชือกบาดนิ้วเป็นแผลด้วย แต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของว่าวโอดเจ็บฟรี เผยถ้าไม่ใส่หมวกกันน็อคหรือขับเร็วอาจคอขาดเสียชีวิตได้ วอนผู้นำชุมชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องกัน
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นางพิมพ์พิสา คะเชนทร์กูล หรือปุ้ย อายุ 33 ปี พนักงานขายประกันภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บ้านตาตื๊ด ต.หนองกง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบและเตือนภัย หลังจากเมื่อวานนี้ (22 พฤศจิกายน 2567) ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนเพื่อนไปทำธุระที่ตำบลเมืองไผ่ อ.หนองกี่ แต่ระหว่างทางที่ขับขี่ไปบนถนนสายบ้านลุงขี้หนู-บ้านโคกเพชร ในท้องที่ตำบลท่าโพธ์ชัย อ.หนองกี่ โดนเชือกไนล่อนซึ่งนำมาทำเป็นเชือกว่าว เกี่ยวรัดคอเกือบหายใจไม่ออกและบาดที่หน้ากากอนามัยจนขาดแล้วเชือกก็บาดโดนใบหน้าและปากเป็นแผล เพื่อนที่นั่งซ้อนท้ายไปด้วยก็พยายามใช้มือดึงเชือกออกจนถูกเชือกบาดมือเป็นแผลด้วย
หลังเกิดเหตุได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และได้ขี่รถจักรยานยนต์ในสภาพที่บาดเจ็บไปแจ้งกับผู้นำหมู่บ้าน ให้ช่วยหาว่าใครเป็นเจ้าของเชือกผูกว่าวที่ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของหรือรับผิดชอบ จากนั้นจึงได้พากันไปหาหมอที่ รพ.นางรอง
โดยนางพิมพ์พิสา บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตกใจมากขนาดตนเองใส่ทั้งแมสและหมวกกันน็อคแล้วยังเกือบเสียโฉม แต่ถ้าวันเกิดเหตุไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย หรือหมวกกันน็อก และหากขับรถเร็ว อาจจะบาดเจ็บหนักหรือถึงแก่ชีวิตได้ แต่แม้ว่าจะบาดเจ็บไม่สาหัสแต่ก็ต้องไปล้างแผลทุกวัน และใบหน้าที่ถูกเชือกว่าวบาดอาจจะเป็นแผลเป็น จึงเตรียมนำหลักฐานรูปถ่ายที่เกิดเหตุ เชือกว่าว และใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความที่ สภ.หนองกี่ เพื่อให้เจ้าของว่าออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ก็อยากฝากถึงคนที่คิดจะเล่นว่าว เพราะช่วงนี้เข้าสู่หน้าหนาวแล้วก็จะมีคนนิยมเล่นว่าวจำนวนมาก ไม่ควรที่จะเล่นใกล้ถนน และควรจะดูแลว่าวของตัวเองไม่ให้สร้างความเดือดร้อนเป็นอันตรายกับคนอื่น และอยากฝากถึงผู้นำหมู่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการ ไม่ให้มีการเล่นว่าใกล้ถนนหรือเสี่ยงอันตราย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพราะหากคนที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคหรือขับรถเร็วอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
52 284