December 18,2024
เอกชนใหญ่จับมือสหกรณ์ ๓ ปท. ส่งออกเนื้อโคไปจีน
ครั้งแรกในไทย บริษัทเอกชนเซ็นสัญญากับสหกรณ์ ๓ ประเทศ “ไทย สปป.ลาว และจีน” เผยแผนความร่วมมือจัดตั้งโรงงานเชือด ชำแหละ แปรรูปโคเนื้อ เพื่อการผลิตเนื้อวัวส่งออกไปจีนให้เป็นตลาดโคเนื้ออย่างถาวร ช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงวัวให้ได้ราคาสูงขึ้น
เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๗ ที่ห้องประชุม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีลงนามกิจการค้าร่วม (Consortium) ระหว่างบริษัทศูนย์กลางกสิกรรม (ประเทศไทย) จำกัด กับ สหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูน จำกัด โดยมี พล.อ.จิรศักดิ์ บุตรเนียร ประธานกรรมการบริหารบริษัทศูนย์กลางกสิกรรม (ประเทศไทย) จำกัด และนายสุรพล วรวงษ์ ประธานกรรมการ สหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูน ร่วมลงนาม โดยมีนายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ และพล.ท.อาทิตย์ ศรีหริ่ง ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่บริษัทเอกชนจับมือกับสหกรณ์ ๓ ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว และจีน ส่งออกเนื้อวัวไปยังประเทศจีนเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรเลี้ยงวัวให้มีราคาสูงขึ้น
พล.อ.จิรศักดิ์ บุตรเนียร ประธานกรรมการบริหารบริษัทศูนย์กลางกสิกรรม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า พิธีลงนามระหว่าง บริษัทศูนย์กลางกสิกรรม (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูน จำกัด เพื่อเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการค้าต่างตอบแทนไทย-จีน เพื่อการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปสาธารณรัฐประชาชนจีน แบบจตุภาคี ผสานพลังภาครัฐ มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน ชุมชน และต่างประเทศ มาร่วมมือเป็นกลไกขับเคลื่อนภาคการตลาด นำร่องด้วยการขับเคลื่อนห่วงโซ่การเกษตรและอุตสาหกรรมโคเนื้อภาคอีสาน โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านวิชาการจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งจัดประชุมเสวนาวิชาการ เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเผยแพร่ภารกิจการแก้ไขปัญหาโคเนื้อราคาตกต่ำ พร้อมด้วยแผนความร่วมมือจัดตั้งโรงงานเชือด ชำแหละ แปรรูปโคเนื้อ เพื่อการผลิตเนื้อวัวส่งออกไปจีนให้เป็นตลาดโคเนื้ออย่างถาวร
ขณะที่นายนวรัตน์ คุณะโคตร รองประธานสหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูณจำกัด อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เบื้องต้นสิ่งที่จะทำให้เห็นภาพคือทำโรงงานชำแหละขนาดใหญ่อัตราการผลิตอยู่ที่ ๕๐๐ ตัวต่อวัน น่าจะเป็นที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ถ้าทำสำเร็จเริ่มต้นสร้างที่สหกรณ์แก่นคูนเพื่อที่จะชำแหละ จากนั้นจะมีโรงงานตัดแต่งเนื้อเพื่อแปรรูปเนื้อเป็นสินค้าส่งออกไปประเทศจีน และยังจะมีห้องเย็นเพื่อที่จะนำการส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งถือว่าได้ว่าการส่งเนื้อโคจะเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่เป็นเอกชนร่วมมือกับสหกรณ์
“เราไม่เพียงแค่เป็นโรงชำแหละ แต่ยังเป็นศูนย์กักกันเพื่อการส่งออกของโคหรือโคมีชีวิตและยังมีการส่งออกไปยังสปป.ลาว ที่นั่นจะมีตลาดที่จะส่งโคมีชีวิตไปประเทศจีน ๑ ปี อยู่ที่ประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ ตัว โคมีชีวิตจากไทยจะส่งไปที่ลาวโดยผ่านศูนย์กักกันของที่อำเภอมัญจาคีรีจะมีอัตราการกักกันอยู่ที่ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ตัว เพราะว่าจะส่งไปยังสปป.ลาว ๒ ตลาด” นายนวรัตน์ คุณะโคตร กล่าว
นายนวรัตน์ กล่าวอีกว่า เริ่มจากการส่งโคมีชีวิตไปประเทศจีนโดยไปพักไว้ที่สปป.ลาว ส่วนที่สอง สปป.ลาวจะสร้างโรงชำแหละเพื่อแปรรูปและส่งไปที่ประเทศจีน วัตถุดิบหลักๆ จะนำมาจดประเทศไทย เบื้องต้นทางศูนย์กลางกสิกรรมได้ข้อตกลงกับบริษัทครบวงจรกสิกรรมสปป.ลาวเป็นตัวแทนในการนำเข้าโคมีชีวิตทั้งที่จะส่งไปประเทศจีนและเข้าโรงชำแหละ ส่วนโรงชำแหละที่สปป.ลาว ๑,๐๐๐ ตัวต่อวัน โคที่จะส่งออกประมาณ ๑๕,๐๐๐ ตัว ที่จะต้องป้อนให้โรงงานที่สปป.ลาว ตลาดประเทศไทยสามารถที่จะระบายโคออกไปยังสปป.ลาวได้ ทั้งหมดนี้ถือว่าศูนย์กลางกสิกรรมกับกสิกรรมครบวงจร สปป.ลาวจะเป็นบริษัทเอกชนกลุ่มแรกที่ทำธุรกิจผ่าน ๓ ประเทศเป็นเจ้าแรกที่จะส่งไปจีน และศูนย์กลางกสิกรรมร่วมมือกับสหกรณ์บริการแก่นคูนจะเป็นเจ้าแรกเช่นกันที่จะส่งโคเนื้อแปรรูปส่งไปจีนโดยตรง และทางอำเภอมัญจาคีรีจะเป็นต้นแบบในการช่วยเหลือเกษตรกรยกระดับราคาวัวที่ตกต่ำให้สูงขึ้น
“เบื้องต้นจะส่งออกครั้งแรก ๕๐๐ ตัว ตามที่ประสานงานกับสปป.ลาว ให้ทดลองส่งออกเบื้องต้นว่าติดปัญหาอะไร และหลังจากที่กลับจากประเทศจีน จะไปติดต่อธุรกิจเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ในการส่งออกเบื้องต้นมีสมาคมผู้เลี้ยงโคภาคอีสานมาช่วยสนับสนุน ซึ่งสมาคมจะรวบรวมวัวทั้ง ๕๐๐ ตัว ในอนาคตจะเป็นกี่ตัวก็แล้วแต่ ทางสมาคมจะเป็นคนรวบรวมให้ทั้งหมด และจะมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ ทำให้มั่นใจว่าเราจะทำได้และมีคุณภาพ จะไม่มีสินค้าด้อยคุณภาพแน่นอน” นายนวรัตน์ กล่าวท้ายสุด
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๒๗๗๑ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน - วันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗
179 544