February 20,2025
เลือก‘ประธานหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง’ฉลุย หนุน‘กิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์’ เดินหน้าสามัคคีปรองดอง
ได้ประธานมูลนิธิคนใหม่แล้ว “หลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง” หลังขัดแย้งมานาน มติเอกฉันท์ยกมือให้ “กิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์” นั่งเก้าอี้ประธานสมัยที่ ๔๑ พร้อมเดินหน้าสามัคคีปรองดอง มุ่งงานกู้ชีพกู้ภัยช่วยเหลือสังคม ที่ผ่านมาแค่คิดต่าง ทั้ง ๖ ซกพร้อมเดินไปด้วยกัน
ตามที่คณะกรรมการบริหารมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา (หลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง) สมัยที่ ๔๐ หมดวาระลง และไม่สามารถหาข้อยุติเกี่ยวกับการเลือกตั้งได้ ส่งผลให้ชุดเดิมต้องรักษาการฯ เรื่อยมา และยืดเยื้อมานาน โดยชุดรักษาการฯ จะหมดวาระในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ นั้น กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. จึงมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นที่มูลนิธิฯ ถนนโยธา เมืองนครราชสีมา โดยมีประธานกิตติมศักดิ์ถาวร ๓ คน ได้แก่ นายศักดา อัศวกุล, นายชัยวัฒน์ ชัยธนะกาญจน์กุล และนายอนันต์ บูรณะบัญญัติ ทำหน้าที่ประธานกรรมการการเลือกตั้งประธานมูลนิธิฯ สมัยที่ ๔๑ ซึ่งมีกรรมการทั้ง ๖ ซก หรือ ๖ สมาคมเข้าร่วมด้วย ได้แก่ ๑.สมาคมจีนเตี้ยอันในประเทศไทยสาขานครราชสีมา ๒.สมาคมเตี่ยเอี้ยแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา ๓.สมาคมโผวเล้ง นครราชสีมา ๔.สมาคมเหยี่ยวเพ้ง ๕.สมาคมจีนเก๊กเอี๊ยแห่งประเทศไทยสาขานครราชสีมา และ ๖.สมาคมเท่งไฮ้แห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา พร้อมด้วยกลุ่มแม่บ้านมูลนิธิฯ และผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน
นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์
นายอนันต์ บูรณะบัญญัติ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งฯ ให้ทั้ง ๖ สมาคมแนะนำตัว และแจ้งวิธีการเลือกตั้ง โดยให้มีการเสนอชื่อซึ่งต้องมีผู้รับรอง หากมีการเสนอชื่อเพียงคนเดียวจะถือว่าผู้นั้นได้เป็นประธานมูลนิธิฯ ทั้งนี้ นายสุเทพ ณัฐกานต์กนก ได้เสนอว่า ต้องการให้ผู้ที่ได้เสนอชื่อเป็นประธานมูลนิธิฯ มีการนำเสนอวิสัยทัศน์ด้วยว่า หากเข้ามาเป็นประธานแล้วจะมีแนวทางในการทำงานให้กับมูลนิธิฯ อย่างไรบ้าง
จากนั้น นายศิวัช (อ๊อด) เตียเจริฐวรรธน์ เสนอชื่อนายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์ (เจ้าของสุรสวัสดิ์แลนด์และสุรสวัสดิ์แลนด์อพาร์ตเม้นท์) จากสมาคมจีนเก๊กเอี๊ยแห่งประเทศไทยสาขานครราชสีมา เป็นประธานฯ โดยไม่มีคนเสนอชื่ออื่น ซึ่งที่ประชุมยกมือรับรอง ส่งผลให้นายกิตติศาสตร์ได้นั่งเก้าอี้ประธานมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง) สมัยที่ ๔๑ โดยไม่ต้องมีการลงคะแนน
นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์
ต้องรักและสามัคคี
นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์ กล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากที่เห็นบรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้น เพราะเมื่อก่อนมีการแข่งขันกัน จึงรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่เห็นกรรมการจากทั้ง ๖ สมาคมให้เกียรติผมเป็นประธานอย่างเป็นเอกฉันท์ ในส่วนตัวแล้วที่เข้ามารับใช้องค์กรเริ่มเข้าสู่ปีที่ ๑๑ แล้ว ในการทำงานได้รับการชี้แนะจากผู้อาวุโสมาตลอดว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร รวมทั้งสมาคมต่างๆ ก็ให้คำแนะนำที่ดีมาตลอด มูลนิธิของเราต้องเดินไปด้วยกัน ลำพังซกใดซกหนึ่งไม่สามารถเดินไปได้ ต้องมีความรักและสามัคคีกัน สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรพวกเราจะร่วมใจกัน เพราะมูลนิธิฯ มีวัตถุประสงค์คือช่วยเหลือสังคมเป็นหลัก งานกู้ชีพกู้ภัย รวมทั้งการศึกษา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็นำเงินไปมอบแก่โรงเรียนโคราชวิทยา โดยคณะกรรมการของเราหาเงินช่วยการศึกษาได้ประมาณ ๑ ล้านบาท ต่อจากนี้ พวกเราจะทำงานร่วมกัน ซึ่งความจริงๆ แล้ว ผมอาจจะอาวุโสน้อยกว่าหลายคน แต่ทุกท่านให้เกียรติผม ไม่ว่าจะเป็นพี่อ๊อดศิวัช ป๋าซิม และกรรมการทุกสมาคม ซึ่งหวังว่าทุกท่านจะร่วมบริหารมูลนิธิเพื่อสังคมของคนโคราชให้เดินหน้าต่อไปด้วยสงบ และสร้างชื่อเสียงต่อไป”
ให้ ๖ สมาคมร่วมมือปรองดอง
จากนั้น นายอนันต์ บูรณะบัญญัติ เป็นตัวแทน ๑ ใน ๓ ประธานกรรมการการเลือกตั้งฯ กล่าวว่า ขอให้คณะกรรมการชุดใหม่ทำให้มูลนิธิมีชื่อเสียง ร่วมมือทำงานอย่างปกติสุข ซึ่งตนในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในมูลนิธิมานาน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งใน ๖ สมาคม เพราะจะทำให้ทำงานลำบาก ขอปวารณาว่า ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายดลใจให้ทั้ง ๖ สมาคมหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือ ปรองดอง มีอะไรก็ให้ค่อยพูดค่อยจากัน ให้มูลนิธิเดินไปอย่างถูกต้อง สง่าผ่าเผย ช่วยกันนำพามูลนิธิให้ได้รับความศรัทธาเหมือนเมื่อเก่าก่อน
ต่อจากนั้น นายกิตติศาสตร์และผู้แทนอีก ๕ สมาคม แถลงต่อที่ประชุมว่า วันนี้ถือเป็นวันที่เรามาหลอมรวมใจกันทำงานเพื่อรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพบูชา เพื่อให้การบริหารมูลนิธิดำเนินไปตามวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือด้านกู้ชีพกู้ภัย และทุกๆ ด้าน เช่น การศึกษา การช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก มูลนิธิฯ ประกอบด้วย ๖ สมาคม ซึ่งต้องไปหารือกันว่าจะเดินไปในแนวทางไหน จะต้องเดินไปในทางเดียวกัน เราจะพยายามช่วยเหลือสังคมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเพื่อพี่น้องชาวโคราชของเราโดยการทำงานของ ๖ สมาคม ซึ่งเลข ๖ ประกอบด้วย ห และ ก ความหมายคือหันหน้าเข้าหากัน (เสียงปรบมือ) วันนี้จึงขอขอบคุณอีกครั้งและต่อไปทั้ง ๖ สมาคมจะมีการกำหนดนโยบายการบริหารมูลนิธิฯ ต่อไป
มุ่งช่วยเหลือสังคม
นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์กับ “โคราชคนอีสาน” หลังได้รับเลือกตั้งโดยกล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่มอบความไว้วางใจด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ ส่วนนโยบายการทำงานจะทำให้อยู่ในกรอบของตราสาระกฎระเบียบมูลนิธิฯ วันนี้เป็นการเลือกตั้งและตนได้รัลเลือกเป็นประธาน รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้รับเกียรติ ส่วนนโยบายต้องไปหารือกกับทั้ง ๖ สมาคมว่าจะร่วมกันบริหารมูลนิธิให้เดินไปในทางใด เพื่อช่วยเหลือสังคมให้ดีที่สุด ภารกิจของมูลนิธิฯ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และช่วยเหลือสังคมมาอย่างยาวนานกว่า ๖๐-๗๐ ปีแล้ว ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น คณะกรรมการรุ่นเก่าๆ ได้วางแนวทางให้เดินตามกรอบประเพณีเพื่อช่วยเหลือสังคมโคราช
“สำหรับภารกิจหลักคืองานกู้ชีพกู้ภัย และช่วยเหลือสาธารณภัยต่างๆ แม้กระทั่งต่างจังหวัด เช่น น้ำท่วมเชียงราย ภาคใต้ และหนองคาย เราก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย เรามีเครือข่ายมูลนิธิสว่างฯ กว่า ๗๐ หน่วย” นายกิตติศาสตร์ กล่าว
ไม่ขัดแย้งแค่ต่างความคิด
เมื่อถามว่า จะคลายความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นในมูลนิธิฯ อย่างไรนั้น นายกิตติศาสตร์ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่ความขัดแย้ง แต่เป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงด้วยการพูดคุยกัน ปรึกษาหารือและหาทางออกที่ดีที่สุด ต่อไปทั้ง ๖ สมาคมจะมีแต่ความกลมเกลียวและเดินไปในแนวทางเดียวกัน ไม่มีปัญหา
นายกิตติศาสตร์ ลิ้มประยูรสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิฯ คนใหม่ฝากถึงสมาชิกและสมาคมต่างๆ ว่า ในฐานะที่ตนขึ้นมาเป็นประธานมูลนิธิฯ สมัยที่ ๔๑ จะพยายามช่วยเหลือสังคมให้มากที่สุด โดยความร่วมมือของทั้ง ๖ สมาคมที่จะกลั่นกรองมาเป็นนโยบายในการบริหารต่อไป
สถาปนาและแต่งตั้งคณะกรรมการ
ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๘ มีพิธีสถาปนาคณะกรรมการบริหารมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา (หลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง) สมัยที่ ๔๑ ปี ๒๕๖๘-๒๕๖๙ ท่ามกลางผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานคับคั่ง
หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน ฉบับครบรอบปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๒๗๗๒ วันที่ ๑๕ มกราคม - วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
68 6,539