15thJune

15thJune

15thJune

 

June 05,2025

‘โคราชชาติพัฒนา’ชนะยกทีม ‘หมอวรรณรัตน์’คุมนครโคราช ๔๒ เทศบาลได้นายกฯใหม่

เลือกตั้งเทศบาลนครโคราชผลไม่พลิก “โคราชชาติพัฒนา” ชนะยกทีมอีกสมัย ‘พรรคประชาชน’ คะแนนมาอันดับ ๒ ส่วน ‘อดุลย์’ ได้ไม่ถึงหมื่น ขณะที่ ‘หมอวรรณรัตน์’ ชาญนุกูล” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เตรียมนั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรี ยืนยันอายุไม่ใช่อุปสรรค กับนโยบาย “สานต่อนโยบายเดิม เสริมนโยบายใหม่ เพื่อให้โคราชก้าวสู่ความเป็น มหานครแห่งโอกาสและอนาคต” ส่วนอีก ๘๒ เทศบาลได้นายกฯ ใหม่ ๔๒ แห่ง 

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (ส.ท.) ที่มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ โดยมีผู้สมัครนายกเทศมนตรี ๔ คนจาก ๓ กลุ่ม 

เบอร์ ๑ นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ จากพรรคประชาชน อายุ ๕๘ ปี เป็นน้องชายนายพงษ์เลิศ สุภัทรวณิชย์ อดีตรองนายกเทศมนตรีสมัยนายสุรวุฒิ เชิดชัย เป็นนนายกเทศมนตรี และเป็นพี่ชายของนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.นครราชสีมา เขต ๑ พรรคประชาชน เป็นทายาทของโรงแรมโพธิ์ทอง เคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครฯ (สมัยนายสุรวุฒิ) รองประธานหอการค้านครราชสีมา ส่วนผู้สมัคร ส.ท.ในทีมนี้ได้เบอร์ ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖ ล้วนเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในสนามการเมือง แต่ในทีมนี้ยังมีผู้สนับสนุนเช่น นายธนาคม วิมลวัตรเวที อดีตประธานสภาเทศบาลนครฯ (สมัยนายสุรวุฒิ) ซึ่งเคยลงสมัคร ส.อบจ.แต่ไม่ได้รับเลือก และนายบริพัตร กุมารบุญ (โดม) อดีตส.ท.โคราชชาติพัฒนา (สมัย รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย เป็นนายกเทศมนตรี) โดยทีมนี้มีหัวหน้าพรรคประชาชนและแกนนำพรรคลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงด้วย

เบอร์ ๒ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อายุ ๗๖ ปี ทีมโคราชชาติพัฒนา อดีตส.ส.โคราช ๖ สมัย และส.ส.บัญชีรายชื่อที่เพิ่งลาออก เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารพรรคชาติพัฒนา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นคู่เขยของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และอยู่เบื้องหลังการทำงานของพรรคชาติพัฒนาทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น เข้าทำงานที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนาเป็นประจำ สมัยที่แล้วส่งลูกชายคนเดียวคือนายตะวัน ชาญนุกูล เป็นส.ท.เขต ๑ ได้สำเร็จ และลงสมัครในสมัยนี้อีก รวมแล้วมีอดีตส.ท.ลงสมัคร ๑๑ คน และผู้สมัครหน้าใหม่อีก ๑๓ คน ซึ่งมีทั้งทายาทนักธุรกิจใหญ่ในเมืองโคราช นักธุรกิจ อดีตผู้จัดการธนาคาร และคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์หลากหลายมาร่วมทีม โดย ส.ท.ได้เบอร์ ๗, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ ซึ่งการหาเสียงของทีมนี้เน้นการจัดเวทีปราศรัยและเดินพบประชาชนทั้ง ๔ เขตเลือกตั้ง

เบอร์ ๓ เคยพลาดหวังจากสนามเลือกตั้งนายก อบจ.นครราชสีมา นายมารุต ชุ่มขุนทด อายุ ๔๘ ปี ซีอีโอร้านคลาสคาเฟ่ ที่ลงสมัครในนามอิสระอีกครั้ง โดยไม่มีผู้สมัคร ส.ท.ร่วมทีม เน้นการหาเสียงทางโซเชียลมีเดีย แต่ก็มีการลงพื้นที่บ้างแต่ไม่ครอบคลุมเหมือนผู้สมัครรายอื่น 

และเบอร์ ๔ นายอดุลย์ อยู่ยืน อายุ ๕๘ ปี ทีมพลังเทศบาล เคยสมัคร ส.ส.โคราชพรรคภูมิใจไทย เคยเป็นเทศมนตรีสมัยนายสุรวุฒิ จากนั้นเปลี่ยนสนามไปเป็นส.อบจ.นครราชสีมา อำเภอเมือง เขต ๒ ประมาณ ๓ สมัย โดยสมัยล่าสุดพ่ายแพ้ให้กับนางวันเพ็ญ สุวัฒโนดม รองนายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล ที่มาลงสมัคร ส.อบจ.ในเขต ๒ อำเภอเมืองในนามทีมโคราชชาติพัฒนาแข่งกับนายอดุลย์ หลังเลือกตั้งนางยลดา หวังศุภกิจโกศล แต่งตั้งนายอดุลย์เป็นที่ปรึกษานายก อบจ. (๕ มีนาคม ๒๕๖๘) แต่นายอดุลย์ก็ลาออกมาลงสมัครนายกเทศมนตรีนครฯ มีข่าวว่านางยลดาไม่ได้สนับสนุน แต่นายอดุลย์ต้องการมาเอาคืนทีมโคราชชาติพัฒนา และมีข่าวว่าอดีตนายกฯ รายหนึ่งสนับสนุน จึงรวบรวมอดีตส.ท.จากทีมประสานมิตรในสมัยนายสุรวุฒิเป็นนายกเทศมนตรีมาลงสมัคร รวมทั้งทายาททางการเมือง และอดีตผู้สมัครรายอื่นมาร่วมทีม มีการลงพื้นที่หาเสียงและจัดเวทีปราศรัยตามสถานที่ต่างๆ เช่นกัน 

โดยในช่วงของการหาเสียงมีการจัดเวทีที่เปิดให้ผู้สมัครนายกเทศมนตรีฯ แสดงวิสัยทัศน์ประมาณ ๔ เวที ได้รับความสนใจจากชาวโคราชอย่างมาก โดยส่วนใหญ่คาดว่า ทีมเดิมคือ “โคราชชาติพัฒนา” จะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอีกครั้ง ซึ่งช่วงสุดท้ายใช้สโลแกนหาเสียงว่า “มากประสบการณ์ บริหารงานอย่างมืออาชีพ”

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ ๒ ทีมโคราชชาติพัฒนา

ประชาชนตื่นตัวเลือกตั้ง
ในวันอาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และ ส.ท. บรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น ๙๐,๙๘๓ คน หลังเปิดหีบบัตร ๑๘๕ หน่วย ใน ๔ เขตเลือกตั้ง มีประชาชนตื่นตัวทยอยเดินทางออกมาใช้สิทธิลงคะแนนท่ามกลางสภาพอากาศค่อนข้างดี ท้องฟ้าปลอดโปร่ง โดยมีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) คอยอำนวยความสะดวกตรวจสอบรายชื่อ ซึ่งในเวลา ๐๘.๓๐ น. ที่ชั้นล่างภัตตาคารเสียวเสี้ยว เขตเลือกตั้งที่ ๑ หน่วยเลือกตั้งที่ ๒๘ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ ๒ ทีมโคราชชาติพัฒนา พร้อมภริยา และนายตะวัน ชาญนุกูล ลูกชาย ผู้สมัคร ส.ท.เขต ๑ เบอร์ ๘ เดินทางมาใช้สิทธิ โดย น.พ.วรรณรัตน์เป็นผู้ใช้สิทธิลำดับที่ ๑๑๘ มีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และคณะมาให้กำลังใจ น.พ.วรรณรัตน์ กล่าวว่า ในช่วงการเดินรณรงค์หาเสียงกับพี่น้องประชาชน เคาะตามประตูบ้าน ตึกแถว ตลาดสด ชุมชนต่างๆ ส่วนใหญ่ให้การขานรับเป็นอย่างดี เชื่อมั่นว่าทีมโคราชชาติพัฒนาคงจะได้รับการสนับสนุนจากชาวโคราชอย่างดี ถือโอกาสนี้ขอเชิญชวนพี่น้องชาวโคราช ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างพร้อมเพรียงถ้วนหน้า ส่วนในเวลา ๐๙.๓๐ น. ที่อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชำ) เขตเลือกตั้งที่ ๔ หน่วยเลือกตั้งที่ ๑๐ นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเบอร์ ๑ พรรคประชาชน เดินทางมาใช้สิทธิ โดยมีชื่ออยู่ในลำดับที่ ๓๐

นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเบอร์ ๑ พรรคประชาชน

‘สุวัจน์’ชี้ นายกฯ ต้องเข้าใจงาน
ในเวลา ๐๙.๓๐ น.วันเดียวกัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ซึ่งมีชื่อในบ้านเลขที่ ๒๒๒๒/๒ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา เดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ ๒๕ เขตเลือกตั้งที่ ๔ ศาลาอเนกประสงค์ภายในวัดหลักร้อย ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา 
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์หลังการเลือกตั้งว่า นายกเทศมนตรี ผู้บริหารท้องถิ่นทุกแห่งที่มีการเลือกตั้งมาจะต้องมีความเข้าใจในการที่จะเข้าไปดูแลแก้ไข เข้าไปเยียวยาให้กับพี่น้องประชาชนในเรื่องเศรษฐกิจ โดยภาพรวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นขณะนี้ หรือโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลได้ลงทุนก็คือบทบาทและความสําคัญที่นายกเทศมนตรี หรือคณะผู้บริหารท้องถิ่นต้องเข้าใจ และมีความร่วมมือกันใน การที่จะทํางานให้ตอบสนองทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการพัฒนาเมืองก็จะไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผู้บริหารท้องถิ่นต้องมีวิสัยทัศน์ มีความเข้าใจในเรื่องการบริหารงบประมาณจากส่วนกลางโครงการใหญ่ๆ จากส่วนกลาง และสามารถที่จะต่อยอด สามารถที่จะเชื่อมโยงกับส่วนงานต่างๆ เพื่อให้ท้องถิ่นของตนเองสามารถที่จะได้รับประโยชน์ ได้รับงบประมาณที่จะไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ 

เบอร์ ๒ นำเกือบทุกกระดาน
จากนั้นหลังปิดหีบเลือกตั้งเวลา ๑๗.๐๐ น. มีการทยอยนับคะแนนตามหน่วยทั้ง ๔ เขต ปรากฏว่าในหลายหน่วยเลือกตั้ง ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ ๒ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล และผู้สมัครส.ท.ทีมโคราชชาติพัฒนา เบอร์ ๗, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑, ๑๒ มีคะแนนนำผู้สมัครจากทีมอื่นเกือบทุกกระดาน และเมื่อมีคะแนนครบทุกหน่วยเลือกตั้งปรากฏว่า ผู้สมัครนายกเทศมนตรีที่ได้คะแนนอันดับ ๑ คือเบอร์ ๒ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ทีมโคราชชาติพัฒนา ๒๑,๐๔๓ คะแนน, อันดับ ๒ เบอร์ ๑ นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ พรรคประชาชน ได้ ๑๐,๒๓๖ คะแนน, อันดับ ๓ เบอร์ ๔ นายอดุลย์ อยู่ยืน กลุ่มพลังเทศบาล ได้ ๗,๙๑๗ คะแนน และอันดับสุดท้าย ผู้สมัครอิสระ นายมารุต ชุ่มขุนทด ได้ ๔,๐๔๕ คะแนน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาคะแนนของผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครฯ ทั้ง ๔ เขต ซึ่งมีทั้งหมด ๑๘๕ หน่วยเลือกตั้ง เขต ๑ มีจำนวน ๕๒ หน่วยเลือกตั้ง เบอร์ ๑ นายพงษ์ยุทธ์ สุภัทรวณิชย์ ได้ ๒,๓๖๒ คะแนน โดยมีคะแนนชนะ น.พ.วรรณรัตน์ เบอร์ ๒ ใน ๖ หน่วยเลือกตั้ง (หน่วยที่ ๖, ๙, ๑๕, ๒๘, ๓๓, ๔๓) ในขณะที่น.พ.วรรณรัตน์ได้ ๔,๗๔๘ คะแนน ได้คะแนนน้อยกว่านายอดุลย์เบอร์ ๔ แค่ ๒ หน่วยเลือกตั้ง (หน่วยที่ ๓๔, ๔๑) ส่วนเบอร์ ๓ นายมารุตได้ ๙๔๑ คะแนน และเบอร์ ๔ นายอดุลย์ได้ ๑,๖๑๙ คะแนน

ส่วนในเขต ๒ มีจำนวน ๔๕ หน่วยเลือกตั้ง นายพงษ์ยุทธได้ ๒,๒๑๕ คะแนน, น.พ.วรรณรัตน์ได้ ๕,๓๐๗ คะแนน, นายมารุตได้ ๙๖๔ คะแนน และนายอดุลย์ได้ ๒,๔๗๙ คะแนน โดยในเขตนี้ น.พ.วรรณรัตน์มีคะแนนน้อยกว่านายอดุลย์ใน ๓ หน่วย (หน่วยที่ ๒๒, ๓๔, ๔๑) และน้อยกว่านายพงษ์ยุทธในหน่วยที่ ๑๒

เขต ๓ มีจำนวน ๔๗ หน่วยเลือกตั้ง เบอร์ ๑ นายพงษ์ยุทธได้ ๒,๘๙๓ คะแนน ชนะเบอร์ ๒ ในหน่วยที่ ๔, ๑๐, ๑๓, ๓๗ ในขณะที่เบอร์ ๒ น.พ.วรรณรัตน์ได้ ๔,๙๘๘ คะแนน, เบอร์ ๓ นายมารุตได้ ๑,๐๗๗ คะแนน และเบอร์ ๔ นายอดุลย์ได้ ๑,๘๙๙ คะแนน และเขต ๔ มีจำนวน ๔๑ หน่วยเลือกตั้ง เบอร์ ๑ นายพงษ์ยุทธได้ ๒,๗๖๖ คะแนน มีคะแนนมากกว่าเบอร์ ๒ ในหน่วยที่ ๒, ๑๕, ๓๖ ส่วนเบอร์ ๒ น.พ.วรรณรัตน์ได้ ๖,๐๐๐ คะแนน, เบอร์ ๓ นายมารุตได้ ๑,๐๖๓ คะแนน และเบอร์ ๔ นายอดุลย์ได้ ๑,๙๒๐ คะแนน

สรุป ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีฯ ทั้ง ๔ เขต มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ๙๑,๘๑๐ คน มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ๔๗,๓๖๘ คน คิดเป็น ๕๑.๔๙%, บัตรดี ๔๓,๒๔๑ ใบ คิดเป็น ๙๑.๒๙%, บัตรเสีย ๑,๑๒๘ ใบ คิดเป็น ๒.๓๘% และไม่ประสงค์เลือกใคร ๒,๙๙๙ ใบ คิดเป็น ๖.๓๓%

ส.ท.โคราชชาติพัฒนากวาดทั้ง ๔ เขต
ในขณะที่ผู้สมัคร ส.ท.จากทีมโคราชชาติพัฒนาทั้ง ๔ เขต (๒๔ คน) ได้รับชัยชนะยกทีม ดังนี้ เขต ๑ เบอร์ ๗ นายทศพร สกุลภิญโญ ๔,๐๘๘ คะแนน, เบอร์ ๘ นายตะวัน ชาญนุกูล ๔,๐๓๗ คะแนน, เบอร์ ๙ นางวชิราภรณ์ รัตนพงษ์วณิช ๔,๐๔๒ คะแนน, เบอร์ ๑๐ นายสิทธิโชค ลิขิตวรสิริ ๓,๙๐๗ คะแนน, เบอร์ ๑๑ นายณัฏฐ์ชยกร สุวัฒนะพงศ์เชฏ ๓,๙๙๘ คะแนน, เบอร์ ๑๒ นายมติ อังศุพันธุ์ ๓,๙๙๘ คะแนน

เขต ๒ เบอร์ ๗ นายญาณกิตติ์ ศิริทรัพย์ ๔,๙๑๐ คะแนน, เบอร์ ๘ น.ส.จิรัฐิพรรณษ์ วงศ์จร ๔,๕๙๘ คะแนน, เบอร์ ๙ นายปพิชญา ธีระรัตนานนท์ ๔,๕๓๓ คะแนน, เบอร์ ๑๐ น.ส.วรรณวิศา อาจองษา ๔,๔๖๔ คะแนน, เบอร์ ๑๑ นายพิพันธ์ศักดิ์ พูลพิพัฒน์ ๔,๔๒๘ คะแนน และเบอร์ ๑๒ นายสุพจน์ ไทยสมัคร ๔,๖๓๓ คะแนน 

เขต ๓ เบอร์ ๗ นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ ๔,๓๐๙ คะแนน, เบอร์ ๘ น.ส.เกรซ ไตรบัญญัติกุล ๔,๒๙๑ คะแนน, เบอร์ ๙ นายธีรยุทธ ศรีมงคล ๔,๑๙๘ คะแนน, เบอร์ ๑๐ นายธนกฤต มาลัยพิพัฒน์ ๔,๐๑๑ คะแนน, เบอร์ ๑๑ นายอลงกรณ์ มิลินทานุช ๓,๙๘๑ คะแนน และเบอร์ ๑๒ นายปรีดา สุวัฒโนดม ๔,๐๐๒ คะแนน

เขต ๔ เบอร์ ๗ น.ส.มารยาท พิมพ์ปรุ ๕,๒๖๒ คะแนน, เบอร์ ๘ นายจิรรัชฏ์ บุตรเนียร ๕,๐๔๓ คะแนน, เบอร์ ๙ นายณัชฐปกรณ์ ฉัตรพงษ์สวัส ๔,๙๖๖ คะแนน, เบอร์ ๑๐ นายสรเสกข์ นันทวิภาวงศ์ ๔,๘๓๖ คะแนน, เบอร์ นายภาณุนันท์ รัศมี ๔,๘๑๔ คะแนน และเบอร์ ๑๒ นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ ๔,๘๗๗ คะแนน

‘พรรคประชาชน’ อันดับ ๒
ในขณะที่ผู้สมัคร ส.ท.กลุ่มพรรคประชาชน เบอร์ ๑-๖ มีคะแนนมาเป็นอันดับ ๒ และกลุ่มพลังเทศบาล เบอร์ ๑๓-๑๘ มีคะแนนอันดับสุดท้าย แม้ผู้สมัครหลายคนจะเป็นอดีตส.ท.กลุ่มประสานมิตรก็ตาม 
‘โคราชชาติพัฒนา’ประกาศชัย

หลังทราบคะแนนรวมทุกเขตอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ที่สำนักงานใหญ่พรรคชาติพัฒนา ถนนมิตรภาพ เมืองนครราชสีมา ซึ่งตั้งเป็นวอร์รูมสำหรับการเลือกตั้งเทศบาลนครฯ ครั้งนี้ มีการชูมือประกาศชัยชนะ และผู้คนไปร่วมแสดงความยินดีกับน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล และผู้สมัคร ส.ท.ทั้ง ๒๔ คน โดย น.พ.วรรณรัตน์กล่าวขอบคุณชาวโคราช สำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบความไว้วางใจให้ทีมโคราชชาติพัฒนา มีคุณค่าอย่างยิ่งในการร่วมกันพัฒนา นำพาความเจริญมาสู่เมืองโคราช ตนพร้อมทำงานทันที เมื่อ กกต.ประกาศรับรอง โดยดำเนินการทันทีคือ ปัญหาเร่งด่วน น้ำประปาขาดแคลน เกิดจากท่อประปารั่วไหล ขยะมูลฝอยสะสมและน้ำท่วมและน้ำเสีย ต้องวางแผนแก้ไขตามลำดับ แม้จะอายุ ๗๖ ปี แต่ก็มิใช่อุปสรรค พร้อมทำงานอย่างเต็มที่

ในขณะที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีก ๓ คนได้ออกมาโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งและลงคะแนนเสียงให้ ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ทีมโคราชชาติพัฒนา นำโดยน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล และว่าที่ส.ท.ได้ขึ้นรถแห่ขอบคุณชาวเทศบาลนครฯ ด้วย

บัตรไม่เลือกใครยอดพันใบทุกเขต
สำหรับผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครฯ (ส.ท.) ในเขต ๑ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ๒๐,๘๗๕ คน, มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ๑๐,๕๕๖ คน คิดเป็น ๕๐.๕๗%, บัตรดี ๘,๙๓๐ ใบ คิดเป็น ๘๔.๖๐%, บัตรเสีย ๕๗๒ ใบ คิดเป็น ๕.๔๒% และไม่ประสงค์เลือกใคร ๑,๐๕๔ ใบ คิดเป็น ๙.๙๘% ในขณะที่เขต ๒ มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ๑๑,๙๑๓ คน คิดเป็น ๕๑.๘๔%, บัตรดี ๑๐,๑๙๑ ใบ คิดเป็น ๘๕.๕๕%, บัตรเสีย ๕๗๐ ใบ คิดเป็น ๔.๗๘% และไม่ประสงค์เลือกใคร ๑,๑๕๒ ใบ คิดเป็น ๙.๖๗% ส่วนเขต ๓ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ๒๓,๒๑๕ คน, มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ๑๑,๙๒๕ คน คิดเป็น ๕๑.๓๗%, บัตรดี ๑๐,๐๑๔ ใบ คิดเป็น ๘๓.๙๗%, บัตรเสีย ๔๔๓ ใบ คิดเป็น ๓.๗๑% และไม่ประสงค์เลือกใคร ๑,๔๖๘ ใบ คิดเป็น ๑๒.๓๑% และเขต ๔ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ๒๔,๕๑๙ คน, มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ๑๒,๘๔๗ คน คิดเป็น ๕๒.๔๐%, บัตรดี ๑๐,๘๙๘ ใบ คิดเป็น ๘๔.๘๓%, บัตรเสีย ๖๐๙ ใบ คิดเป็น ๔.๗๔% และไม่ประสงค์เลือกใคร ๑,๓๔๐ ใบ คิดเป็น ๑๐.๔๓% (คะแนนผู้สมัครส.ท.ทั้ง ๓ ทีมใน ๔ เขตเลือกตั้ง พลิกไปดูหน้า ๑๒)

นโยบาย ‘โคราชชาติพัฒนา’
โดยทีมโคราชชาติพัฒนา ได้นำเสนอนโยบายช่วงหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเทศบาลนครนครราชสีมา ว่า “๔ ปีข้างหน้า โคราชชาติพัฒนาจะสานต่อนโยบายเดิม เสริมนโยบายใหม่ เพื่อให้โคราชก้าวสู่ความเป็น มหานครแห่งโอกาสและอนาคต” จำนวน ๘ ข้อ ดังนี้ ๑.น้ำประปาสะอาดไม่ขาดแคลน : เร่งรัดแก้ปัญหาการสูญเสียน้ำประปาเป็นการเร่งด่วน ด้วยการตรวจสอบจุดรั่วไหลด้วยระบบ DMA และระบบ SCADA เพื่อการแก้ไขซ่อมแซมและหรือเปลี่ยนท่อใหม่แทนท่อเก่าที่หมดอายุการใช้งาน เปลี่ยนมิเตอร์จ่ายน้ำใหม่แทนมิเตอร์เก่าที่ใช้การไม่ได้ เพิ่มประสิทธิภาพโรงกรองน้ำประปา รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเมืองในอนาคต ๒.น้ำท่วมเมืองต้องแก้ให้จบ : ก่อสร้างระบบระบายน้ำส่วนที่ยังขาดอยู่เพิ่มเติม ให้สามารถระบายน้ำท่วมขัง ลงสู่ลำน้ำสาธารณะได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งก่อสร้างผนังกั้นน้ำริมสองฝั่งของลำตะคองป้องกันน้ำเอ่อท่วมเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ ๓.น้ำเสียจากทุกพื้นที่ต้องได้รับการบำบัด : เร่งรัดก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ด้านเหนือของเมืองและพื้นที่อื่นที่เหลืออยู่ทั้งหมด นำเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสียตามมาตรฐานสากล ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียปัจจุบัน ให้สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รองรับปริมาณน้ำเสียที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเมืองในอนาคต ๔.ขยะต้องไม่ตกค้าง : เดินหน้าโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยระยะที่ ๒ ทันทีเมื่อคดีสิ้นสุด รณรงค์ลดขยะเป็นสูญ (zero waste) อย่างต่อเนื่อง 

๕.ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต้องเกิดให้ได้ : เร่งรัดผลักดันการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่ใช้เทคโนโลยีที่สะอาดและทันสมัยทุกรูปแบบตามความเหมาะสม เพื่อให้การเดินทางภายในเมืองและระหว่างตัวเมืองกับปริมณฑล เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และตรงเวลาอย่างไร้รอยต่อ รองรับการเติบโตของเมืองในอนาคต ด้วยการสนับสนุนและร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ๖.โคราชเมืองอัจฉริยะและทันสมัย : ติดตั้ง Wi-Fi ฟรีในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลและบริการดิจิทัลของประชาชนได้มากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์และกล้องวงจรปิด (CCTV) ทั่วทั้งเมือง พร้อมติดตั้งกล้องเอไอ (AI Camera) เพื่อติดตามการจราจรแบบเรียลไทม์ และมีระบบวิเคราะห์ข้อมูล ในการป้องกันอาชญากรรม และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เปิดให้มีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger Station) ในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้น ๗.ขยายการให้บริการสุขภาพถึงบ้าน : จัดตั้งทีมบริการสาธารณสุขระดับปฐมภูมิถึงบ้าน (Homeward Care) เพื่อดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้สูงวัย ผู้ป่วยพิการ และผู้ป่วยติดเตียง จัดให้มีบริการศูนย์ฟอกไตใกล้บ้าน ใกล้ใจ ใกล้ชีวิต จัดให้มีระบบรถทันตกรรมเคลื่อนที่ถึงหน้าบ้าน จัดตั้งหน่วยให้บริการระบบการแพทย์ฉุกเฉินครอบคลุมทุกพื้นที่ และ ๘.เทศบาลสะอาด โปร่งใส และตรวจสอบได้ : พัฒนาแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์เพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการติดต่อราชการกับเทศบาลนคร อาทิ การขออนุมัติ การขออนุญาต การจองคิวล่วงหน้าเพื่อขอรับบริการ การตรวจสอบจำนวนเงินภาษี และการชำระภาษีทุกประเภททางระบบออนไลน์ เป็นต้น

เทศบาล ๘๒ แห่งได้นายกใหม่ ๔๒ คน
ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมามีทั้งหมด ๙๐ เทศบาล โดยในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในพื้นที่ ๘๒ เทศบาล โดยปรากฏผลเลือกตั้งมีนายกเทศมนตรีคนเดิมได้รับเลือกตั้งเข้ามา ๔๐ คน และได้นายกเทศมนตรีใหม่ ๔๒ คน โดยผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาใหม่ เช่น เทศบาลตำบลปรุใหญ่ นายนนทรัฐ ขจีกุล (ทนายนนท์), เทศบาลตำบลบ้านโพธิ์ นายรุ่งเพชร ขึงโพธิ์, เทศบาลตำบลสุรนารี นายวิศิษฎ์ คะเชนชาติ, เทศบาลตำบลโคกกรวด นายวีระวัฒน์ มิตรสูงเนิน อดีตส.อบจ.นครราชสีมา, เทศบาลตำบลหนองไข่น้ำ นายมารุต อินทร์โคกสูง (คนใหม่), เทศบาลตำบลสูงเนิน นายณัฐธวรรธน์ ชัยวิฑูอนุกูล, เทศบาลตำบลพิมาย นายก้องเกียรติ วิชชาพิณ, เทศบาลเมืองเมืองปัก (อ.ปักธงชัย) นายกิตติศักดิ์ พันธ์เกษม เป็นต้น

กกต.สรุปมาใช้สิทธิ์เฉลี่ย ๖๕%
นายสุรพงษ์ ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กกต.จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภาพรวมมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเทศบาลในจังหวัดนครราชสีมาเฉลี่ย ๖๕% และการนับคะแนนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ก่อนถึงเวลาปิดหีบบัตรมีการแจ้งเบาะแสซื้อเสียงเข้ามาเรื่อยๆ แต่ไม่มีความปรากฏ ขณะนี้มีการร้อง ๙ เรื่อง ฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรา ๖๕ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครผู้อื่น ฯ โดยจัดทำ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้หรือจัดเตรียม เพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมเกี่ยวกับการซื้อเสียง ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมาประกอบสำนวนตามกระบวนการร้องกล่าวหาแล้ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ถ้าไม่มีเรื่องร้องเรียนคาดว่าจะรับรองผลภายในวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๘ แต่หากมีเรื่องร้องเรียนคาดว่าจะมีการรับรองผลการเลือกตั้งไม่เกินวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๒๗๗๕ วันที่ ๑๕ เมษายน - วันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๘


71 2,152