(18 ส.ค.68) คนชราและผู้พิการหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่เคยมีกระสุนปืนใหญ่ จรวด BM21 ตกในชุมชน และพื้นที่การเกษตรของหมู่บ้านกว่า 20 ลูก ต่างใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงกลัวจะมีการสู้รบกันรอบที่สอง เนื่องจากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในการเจรจา GBC ยังมีการลอบวางทุ่นระเบิดทำให้ทหารไทยที่ออกลาดตระเวนเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสถานการณ์ก็ยังตึงเครียด จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน ช่วยสนับสนุนในการก่อสร้างบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยในบริเวณบ้านครัวเรือนที่มีคนชรา ผู้ป่วยติเตียง  และผู้สูงอายุอาศัยอยู่ เพราะหากมีการปะทะกันอีกรอบเกรงจะหนีไม่ทัน เพราะคนชรา ผู้พิการ จะเดินเหินลำบากหากรอการอพยพอาจจะไม่ทัน   อีกทั้งบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยของหมู่บ้านที่มีอยู่ก็มีหมู่บ้านละ 1–2 จุดเท่านั้น ไม่เพียงพอกับจำนวนชาวบ้านที่จะเข้าไปหลบภัย อีกทั้งคนชรา ผู้พิการเคลื่อนไหวลำบากอาจจะไปเข้าหลุมหลบภัยของหมู่บ้านไม่ทัน แต่หากมีอยู่ภายในบ้านของตัวเองก็จะสะดวกและหลบได้ทัน

ยายรวม ถือวรรณ อายุ 59 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านชายแดนใน อ.บ้านกรวด บอกว่า ครอบครัวมีคนพิการ 2 คน และป่วยเป็นมะเร็งอีก 1 คน ก็ยอมรับว่าตอนนี้ใช้ชีวิตด้วยความระแวง  เพราะไม่มีรู้ว่าจะมีการสู้รบกันอีกรอบหรือไม่ ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยทำบังเกอร์ภายในบริเวณบ้านให้ เพราะไม่มีเงินทำเองทุกวันนี้ก็ใช้แค่เบี้ยคนชราและเบี้ยผู้พิการเท่านั้น หากเกิดการปะทะอีกรอบจะได้หลบเข้าบังเกอร์ได้ทัน เพราะหากจะไปหลบที่หลุมหลบภัยของหมู่บ้านก็อาจจะไม่ทัน เพราะเคลื่อนไหวลำบาก และมีแค่จุดเดียวก็ไม่เพียงพอกับจำนวนชาวบ้าน  

เช่นเดียวกับนายปรอม หมั่นยืน อายุ 78 ปี บอกว่า ที่บ้านมีผู้สูงอายุ 2 คน ส่วนลูกๆ ก็อยู่ต่างอำเภอและต่างจังหวัด ยอมรับว่ายังหวาดระแวงเกรงจะมีการสู้รบกันอีกรอบ ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยทำบังเกอร์ให้ที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยหากเกิดการปะทะจะได้เข้าไปหลบได้ทัน ก่อนจะอพยพไปยังที่ปลอดภัย เพราะหากไปหลุมหลบภัยของหมู่บ้าน ก็ค่อนข้างไกลและมีไม่เพียงด้วย