18thSeptember

18thSeptember

18thSeptember

 

September 17,2025

ชลประทานเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมภาคอีสาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำที่เกิดจากพายุ พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

นอกจากภาคเหนือแล้ว ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังเป็นอีกพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝนทุกปี เหตุผลหนึ่งมาจากน้ำที่ท่วมจากทางภาคเหนือ จะไหลลงมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลำดับต่อไป ซึ่งต้องเร่งระบายลงแม่น้ำโขง แต่การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ดังกล่าว ต้องดูปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงด้วย ฉะนั้นช่วงเวลาที่น้ำโขงยังไม่สูงกว่าน้ำในประเทศ จะต้องเร่งระบายน้ำออกไปให้ได้มากที่สุด


โดยทางกรมชลประทานได้มีการลงพื้นที่ตรวจอ่างเก็บน้ำและวางแผนการระบายน้ำอ่างเก็บน้ำโดยไม่ให้กระทบท้ายน้ำ และสำนักชลประทานหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้มีการก่อสร้างและปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง เช่น ก่อสร้างสถานีสูบน้ำบ้านแดนเมือง อัตราการสูบน้ำรวม 150 ลบ.ม./วินาที และปรับปรุงพนังกั้นน้ำเดิมฝั่งขวาตามแนวลำห้วยหลวง ความยาว 18.6 กม. รวมถึงการก่อสร้างพนังกั้นน้ำใหม่ฝั่งซ้าย ความยาว 41.85 กม. และฝั่งขวา ยาว 29.34 กม. ตลอดทั้งสร้างอาคารบังคับน้ำตามลำน้ำห้วยหลวงและลำน้ำสาขา พร้อมระบบควบคุมอุทกภัยอัจฉริยะ (Smart Flood Control System) ช่วยบรรเทาอุทกภัย เป็นต้น


รวมถึงช่วงกลางปีที่ผ่านมาจากอิทธิพลของพายุวิภา ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ลำน้ำสาขาบริเวณริมแม่น้ำโขง ในจังหวัดสกลนครและนครพนม โดยทางกรมชลประทาน ได้เข้าติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องผลักดันน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำ(ปตร.) ต่างๆ และ สะพานที่อยู่ใกล้แม่น้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำจากลำน้ำอูน ลงสู่แม่น้ำสงคราม และลงสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบระบายน้ำจากลำน้ำก่ำลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด เป็นการช่วยลดปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่ให้ได้มากที่สุดอีกด้วย

ขณะนี้ทางกรมชลประทานยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ได้ตลอดเวลา


32 156