ตามที่เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ หรือ "สส.โต", "บิ๊กโต", "พี่โต" รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และอดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 ลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขต อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อนำปฏิทินปีใหม่ พ.ศ.2569 ที่มีรูปท้าวสุรนารี (ย่าโม) ไปมอบให้ประชาชนเป็นที่ระลึก และความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว เนื่องในโอกาสที่ปี 2569 เป็นปีที่ครบรอบ 200 ปี วันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี 

โดยนายวัชรพลลงพื้นที่จุดแรกที่ศาลาอเนกประสงค์วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา มีนายเอกภพ โตมรศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวทะเล ซึ่งเป็นน้องชาย พร้อมด้วยนางวันเพ็ญ สุวัฒโนดม ส.อบจ.นครราชสีมา เขต 2 (อดีตรองนายก ทต.หัวทะเล), ทีมผู้บริหารเทศบาลตำบลหัวทะเล และส.ท.เทศบาลตำบลหัวทะเล ร่วมต้อนรับ รวมทั้งทั้งประชาชน ที่เป็นผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม.ในพื้นที่ ต.หัวทะเล ที่มาร่วมกว่า 300 คน 

สำหรับในครั้งนี้ มีการนำปฏิทินปีใหม่ 2569 รูปย่าโม จำนวนกว่า 15,000 ฉบับ มอบแก่ผู้นำชุมชนเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลหัวทะเล หลังจากนั้นนายวัชรพลนำคณะเดินทางไปแจกปฏิทินอีก 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลโคกสูง ตำบลหนองระเวียง และตำบลหนองไข่น้ำ ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 ฐานที่มั่นทางการเมืองของนายวัชรพล ซึ่งเคยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตนี้ติดต่อกัน 3 สมัย ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้กับผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566

นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และอดีต ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 เปิดเผยว่า ตนกำลังเดินหน้าฟื้นฟูฐานเสียงในเขตเลือกตั้งที่ 2 อย่างจริงจัง โดยการลงพื้นที่พบปะประชาชนในกหมู่บ้าน ทุกตำบลเป็นยุทธศาสตร์หลัก เพราะเชื่อว่าพรรคชาติพัฒนาในฐานะพรรคเล็กต้องทำงานแบบติดดินและสร้างผลงานที่จับต้องได้ให้ประชาชนเห็น ตนมีโอกาสใช้เวลาคลุกคลีกับชาวบ้านมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากไม่ได้เป็น ส.ส. ซึ่งทำให้เกิดสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและทำให้เข้าใจปัญหาของพื้นที่อย่างแท้จริง ตนเชื่อว่าศรัทธาของประชาชนจะกลับคืนมา เพราะประชาชนต้องการผู้แทนที่ใกล้ชิด เข้าใจปัญหา และแก้ปัญหาให้เขาได้จริง ไม่ใช่ทำงานเพียงผิวเผินหรือสร้างกระแสในโซเชียลเพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น

นายวัชรพล เปิดเผยอีกว่า สำหรับการทำงานของพรรคชาติพัฒนานั้น การแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค จะขับเคลื่อนนโยบายในระดับชาติ ส่วนตนจะรับหน้าที่ดูแลพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอย่างเต็มตัว โดยมีเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ “ทวงคืน 3 เขตเลือกตั้งในอำเภอเมืองนครราชสีมา” ให้กลับมาเป็นของพรรคชาติพัฒนาอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าหากได้อำเภอเมืองกลับคืนมา ความเชื่อมั่นและสิ่งดีๆ จะกลับมาสู่พรรคและพื้นที่อย่างแน่นอน ตนย้ำว่าการทำงานของพรรคชาติพัฒนาไม่ใช่การสร้างกระแส แต่คือการลงมือทำจริงในพื้นที่ และนั่นคือสิ่งที่ตนเชื่อว่าประชาชนต้องการมากที่สุดในเวลานี้

ในเวลาต่อมา koratdaily/โคราชคนอีสาน ได้สอบถามนายวัชรพลถึงการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ใน 3 เขตอำเภอเมืองว่า มีใครบ้าง นายวัชรพลเปิดเผยว่า เขต 1 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ, เขต 2 นายวัชรพล โตมรศักดิ์ และเขต 3 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา อดีตประธานสภาอบจ.นครราชสีมา และส.อบจ.หลายสมัย 

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ และนายสมบัติ กาญจนวัฒนา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคชาติพัฒนาจะส่งอดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาลงสมัคร ซึ่งก็คือนายประเสริฐ บุญชัยสุข นอกจากจะเป็นอดีตนายกเทศมนตรีฯ แล้วยังเป็นส.ส.หลายสมัย และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย จึงต้องติดตามว่า ในเขต 1 นั้น จะเป็นนายเทวัญ หรือนายประเสริฐ บุญชัยสุข 

ในขณะที่นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ซึ่งเป็นน้องชายกำนันเบ้า (นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา) นั้น สมัยที่แล้ว (เลือกตั้ง 2566) ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 4 แต่มาสมัยหน้าจะลงสมัครเขต 3 แทนพี่ชาย 

อนึ่ง การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ในเขตเลือกตั้งที่ 1, 2 และ 3 ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) ได้รับเลือกตั้งทั้ง 3 เขต ซึ่งเป็นช่วงที่กระแสพรรคได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ผู้สมัครหน้าใหม่ในหลายเขตชนะเลือกตั้ง รวมทั้ง 3 เขตนี้ด้วย ประกอบด้วย เขต 1 นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ เขต 2 นายปิยชาติ รุจิพรวศิน และเขต 3 นายศุทธสิทธิ์  พจน์ฐศักดิ์