October 09,2015
สุรินทร์สามารถนำช้างกลับคืนถิ่น เพื่อพัฒนาบ้านเกิดได้ ๗๓ เชือก
นายไกรศักดิ์ วรทัต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อน จากเดิมที่ประเทศไทยประสบปัญหาจากการที่ควาญช้างนำช้างออกตระเวนเร่ร่อนขายของที่ระลึก และอาหารช้างตามชุมชนเมือง ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งได้ก่อให้เกิดปัญหาภาพลักษณ์ของช้าง ปัญหาทางด้านสุขภาพช้าง และปัญหาการจราจรในเมืองต่างๆ ส่งผลกระทบให้จำนวนประชากรช้างลดลงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศในเชิงลบ ก่อให้เกิดปัญหานานัปการ และส่งผลระยะยาวต่อการอาจสูญพันธุ์ช้างได้ในที่สุด ซึ่งเมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๙ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์จึงได้ดำเนินโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด ตั้งอยู่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยการรวบรวมช้างที่ออกไปตระเวนเร่ร่อนในต่างจังหวัด ให้กลับมาอยู่รวมกันในศูนย์คชศึกษา โดยให้ค่าตอบควาญช้างและช้าง เชือกละ ๑๐,๘๐๐ บาทต่อเดือน และจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ภูมิปัญญาคชศาสตร์ และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติดงภูดินให้มีความยั่งยืน มีการจัดกิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม เช่น การสาธิตการเซ่นศาลปะกำ(โดยหมอช้างรุ่นสุดท้ายของโลก) การแสดงของช้าง การให้บริการนั่งช้าง เป็นต้น
“การดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนดังกล่าวเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างจังหวัดสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ปัจจุบันโครงการนำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิดสามารถแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนได้มากกว่า ๗๓ เชือก สำหรับงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เป็นเงิน ๑๓,๒๑๒,๐๐๐ บาท และงบประมาณกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๒๓,๒๑๒,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ยังได้กิจกรรมในการดำเนินงาน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในศูนย์คชศึกษา ประกอบด้วย การสาธิตการเซ่นไหว้ศาลปะกำ การแสดงความสามารถพิเศษของช้าง พิพิธภัณฑ์ช้าง การให้บริการช้างแท็กซี่ การชมช้างเล่นน้ำ การเรียนรู้วิธีเลี้ยงช้างและบังคับช้างและคาดว่าจะสามารถขยายการนำช้างกลับถิ่นเพิ่มขึ้นในอนาคตนี้” ปลัดอบจ.สุรินทร์ กล่าว
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๑๙ วันอังคารที่ ๖ - วันเสาร์ที่ ๑๐ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘
715 1,408