พิธีเปิด “ห้องสวนหัวใจ อาคารหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา”

          เปิด “ห้องสวนหัวใจ” รพ.มหาราชนครราชสีมา รองรับผู้ป่วยเขตนครชัยบุรินทร์กว่า ๗ ล้านคน หลังอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ-อัมพาตพุ่ง! ไทยอยู่อันดับ ๒ ของโลก เผยอีก ๓ เดือนข้างหน้าจะเปิดเพิ่มอีกที่ ‘บุรีรัมย์’ พร้อมระดมรับบริจาคสมทบทุนสร้าง “อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” อีกกว่า ๑๗ ล้านบาท

          เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ บริเวณชั้น ๒ ห้องสวนหัวใจ อาคารหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เจ้าอาวาสวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิด “ห้องสวนหัวใจ อาคารหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา” โดยมีนายแพทย์สุวิทย์ โรจนศักดิ์โสธร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา, นายแพทย์สมชัย อัศวสุดสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมในพิธีเปิด ทั้งนี้ ยังมีการมอบเงินสมทบทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑๗,๒๑๐,๐๐๐ บาท

          นายแพทย์สมชัย อัศวสุดสาคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ เป็นโรงพยาบาลรัฐแห่งแรกของกระทรวงสาธารณสุข ที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เปิดบริการตรวจรักษาโรคหัวใจแก่ประชาชนด้วยเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย ศูนย์โรคหัวใจได้พัฒนาศักยภาพการรักษาต่อเนื่องโดยเฉพาะการสวนหัวใจ ต่อมาในปี ๒๕๔๓ เครื่องสวนหัวใจเครื่องแรกได้เปิดใช้บริการ ปัจจุบันมีห้องสวนหัวใจ จำนวน ๔ ห้อง โดยมีภาระงานการสวนหัวใจและทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจ บอลลูนขยายลิ้นหัวใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การรักษาภาวะหัวใจวงจรโดยการจี้ด้วยกระแสไฟฟ้า ภายในปี ๒๕๕๘ มีผลการปฏิบัติงานดังนี้ ๑. การสวนหัวใจหรือการทำบอลลูนขยายเส้นเลือดหัวใจ จำนวน ๒,๕๐๓ ราย ๒. การขยายลิ้นหัวใจด้วยบอลลูนทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ จำนวน ๓๑ ราย ๓. การรักษาด้วยไฟฟ้าหัวใจโดยการจี้ จำนวน ๑๔ ราย ๔. การปิดผนังหัวใจในเด็กเล็กและผู้ใหญ่ จำนวน ๕๐ ราย และ ๕. การใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ จำนวน ๒๑๒ ราย

          “สำหรับห้องสวนหัวใจ อาคารหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมานี้ ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม เจ้าอาวาสวัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม และศิษยานุศิษย์ได้สนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างห้องสวนหัวใจ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น หลังเปิดใช้บริการแล้วจะช่วยให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคหัวใจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับบริการที่สะดวกเพิ่มขึ้น” นายแพทย์สมชัย กล่าว

          นายแพทย์บัญชา สุขอนันต์ชัย หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า สถิติการเกิดโรคหัวใจนั้นพบว่ามีเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทย อัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคอัมพาต ประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ ๒ ของสาธารณสุขโลก ส่วนสาเหตุเกิดจากการสูบบุหรี่ และน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการอุบัติของโรคหัวใจเพิ่มขึ้น การเปิดห้องปฏิบัติการสวนหัวใจเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาโรคง่ายขึ้น ซึ่งเดิมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีห้องสวนหัวใจอยู่ จำนวน ๓ ห้อง โดยจากการวัดสถิติในการรักษาอยู่ที่ประมาณ ๓,๐๐๐ รายต่อปี ซึ่งเปิดให้บริการตลอด ๒๔ ชั่วโมง แสดงให้เห็นว่าห้องสวนหัวใจนั้นถูกใช้งานตลอดเวลา เมื่อมีผู้ป่วยที่ต้องการใช้บริการแต่ห้องไม่ว่างก็ต้องรอ ฉะนั้น การเปิดให้บริการห้องสวนหัวใจห้องที่ ๔ ทำให้สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้นและทำการรักษาได้ทันท่วงที

          “เทคโนโลยีที่ใช้ในห้องสวนหัวใจนั้น เรียกว่า มิราเคิลเทคโนโลยี สามารถใส่หลอดเลือดที่มีขนาดเล็กได้ เพื่อที่จะทำการขยายหลอดเลือด จากการที่ได้ทำการรักษามาทำให้เห็นผลที่ดีได้อย่างชัดเจน เช่น คนไข้ที่กำลังจะเสียชีวิตมีความดันตก เมื่อทำการรักษาโดยใช้เครื่องดังกล่าวก็สามารถทำให้ความดันหัวใจกลับมาเป็นปกติและสามารถกลับบ้านได้ ฉะนั้น เครื่องสวนหัวใจนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ ซึ่งในเขตนครชัยบุรินทร์ (จ.นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์) มีผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจอยู่ประมาณ ๗ ล้านคน ซึ่งมีเครื่องสวนหัวใจแค่เพียงจังหวัดนครราชสีมาเพียงที่เดียว แต่อีก ๒-๓ เดือนข้างหน้าจะมีเพิ่มที่จังหวัดบุรีรัมย์ เพราะผู้ป่วย ๗ ล้านคน ใช้เครื่องตรวจหัวใจเพีอง ๔ เครื่อง ขณะที่กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยอยู่ ๑๕ ล้านคน มีเครื่องตรวจหัวใจมากกว่า ๓๐ เครื่อง” นายแพทย์บัญชา กล่าว

          พร้อมกันนี้ บริเวณชั้น ๕ อาคารหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยังมีพิธีรับบริจาคเงินสมทบทุนสร้าง “อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา” นำโดยนายยงยุทธ เสถียรถิระกุล บริษัท อุตสาหกรรมโคราช จำกัด ร่วมสมทบทุนจำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท, คณะผู้บริหาร บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, นาย       จีรพันธ์ อัศวธนกุล กรรมการอำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, นางยุพา บุญเสถียรวงศ์ ร้านยงสงวน จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, นางหงษ์ แซ่ตัง ร้านตังเจริญ จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, คุณสมใจ พันธ์เกษม จำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท, ครอบครัวหล่อรุ่งเรืองกุล ร้านช่างศิลป์ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท, นางทัศนียา พัฒนจิตวิไล บริษัท ราชาออโต้เซลส์ จำกัด จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท, นางสาวสุดา เหรียญมณี ร้านบ้านขนมไทย จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, นางวาณี ศิริวิวัฒน์วร จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, นางเจริญทิพย์ จันทร์เจริญสุข จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, นางฝน คงศักดิ์ตระกูล ห้างทองโค้วเทียมหยู ด่านเกวียน จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, นายสิชล พานิชโยทัย จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท, นางมณฑล บุญทานนท์ หจก.สุขภัณฑ์ปูนการช่าง จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท, นายแพทย์พงเทพ พรมดี คลินิกผิว Laser & Cosmetic จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท, ทัตแพทย์สมศักดิ์ ชยาวิวัฒนาวงศ์ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท, นางชูเกียว ประเสริฐสุข จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท, นางบุญเรือน จิตต์สุวรรณ มูลนิธิพูนสุข-บุญเรือน จิตต์สุวรรณ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท, นายสุวิทย์ คำดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท, นายจิรัฏฐ์ ธัญญะเศรษฐ์ โรงสีธัญญะเศรษฐ์ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท, นางสงบ เจียมจังหรีด จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท, รศ.พญ.เนสินี-นายกิติศักดิ์ ไชยเอีย จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท รวมยอดบริจาคในครั้งนี้ทั้งสิ้น ๑๗,๒๑๐,๐๐๐ บาท

          ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสมทบทุนสร้าง “อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ได้ที่ตู้รับบริจาค ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หรือโอนผ่านบัญชีกองทุนหลวงพ่อกัณหา ธนาคารกรุงไทย สาขาโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เลขที่บัญชี ๙๘๒-๖-๐๗๐๒๗-๐, ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขานครราชสีมา เลขที่บัญชี ๕๐๓-๒๙๘๙๒๔-๖, ธนาคารกรุงเทพ สาขานครราชสีมา เลขที่บัญชี ๒๘๕-๕-๗๕๒๒๕-๕ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โทร. ๐๔๔-๒๓๕๐๕๐-๑ โทรสาร. ๐๔๔-๒๓๕๐๕๐ E-mail : pr.maharat.korat@gmail.com

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๓๙ วันเสาร์ที่ ๑๖ - วันพุธที่ ๒๐ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๙