13thDecember

13thDecember

13thDecember

 

March 31,2017

‘๘ อำเภอด่านนอก’เรียกร้อง พัฒนา‘โรงพยาบาล-คมนาคม-น้ำ’ หวังยกฐานะเทียบเท่าจังหวัด

                แกนนำจัดตั้งบัวใหญ่ยื่น ๗ ข้อเรียกร้องผ่านอดีตผู้ว่าฯ จัดสรรงบประมาณพัฒนาพื้นที่ ทั้งโรงพยาบาล รถไฟ ถนน น้ำ การศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้เกิดความเท่าเทียม พร้อมเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนากลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์

                เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคมที่ผ่านมา บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “อรุณ อัครปรีดี” ซึ่งคือนายอรุณ อัครปรีดี ประธานเครือข่าย ๘ อำเภอเมืองด่านนอก จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแกนนำขับเคลื่อนการตั้งจังหวัดบัวใหญ่ โพสต์ข้อความว่า “ตนได้พูดคุยกับนายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยนายธงชัย กล่าวกับตนว่า ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้สอบถามถึงกรณีที่เครือข่าย ๘ อำเภอเรียกร้องการพัฒนาพื้นที่ที่ขาดการพัฒนาเหลื่อมล้ำกับพื้นที่ส่วนอื่น จนนำไปสู่การที่นายกรัฐมนตรีได้จัดสรรงบกลางมาก่อสร้างโรงพยาบาลบัวใหญ่สองร้อยกว่าล้านบาทนั้น หากยังมีอะไรที่จำเป็นต้องขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณลงมาสนับสนุนตามความต้องการของประชาชน ให้ทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอไปด่วนที่สุดให้ทันบรรจุในงบประมาณประจำปี ๒๕๖๑

                               “ภายหลังที่ได้พูดคุยกับนายธงชัย ลืออดุลย์ ตนได้ให้ ผอ.คำพันธ์ บุญยืด อดีตหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ช่วยตรวจทานรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ การยื่นหนังสือสืบเนื่องจากนายอรุณ และประชาชนใน ๘ อำเภอโซนเหนือของจังหวัดนครราชสีมา เห็นว่า พื้นที่ไม่ได้รับการเหลียวแลพัฒนาเท่าเทียมกับส่วนอื่น จนนำความเสื่อมถอย เกิดความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมปรากฏให้เห็นชัดเจน ทั้งเกี่ยวกับการไม่ได้รับบริการด้านสาธารณสุข การรักษาพยาบาล ความสะดวกสบายและปัญหาการทำกิน จึงอยากให้นายธงชัย นำสิ่งที่ประชาชนใน ๘ อำเภอต้องการได้รับการแก้ไขสื่อถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการพิจารณาจัดสรรงบประมาณลงมาพัฒนาแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนตามที่ประชาชนต้องการ และเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนากลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ อีกส่วนหนึ่ง โดยมี ๗ ข้อ ใจความว่า

                ๑. โรงพยาบาลบัวใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น ยังไม่ได้รับการจัดสรรเครื่องมือแพทย์ให้สอดคล้องกับบริบทของระดับโรงพยาบาลทั่วไป แม้ขณะนี้จะมีผู้มีจิตศรัทธาได้ขานรับแสดงเจตจำนงจะร่วมบริจาคค่าปรับปรุงห้องคนไข้จำนวนไม่น้อย ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเตรียมงบเครื่องมือแพทย์ และอัตราจำนวนแพทย์เฉพาะทางให้ครบตามความจำเป็นก่อนการสร้างเพื่อสามารถเปิดใช้อาคารใหม่ได้ทันที ๒. ขอให้พัฒนาลำน้ำชีส่วนที่พาดผ่านอำเภอบ้านเหลื่อมและแก้งสนามนาง ให้เป็นแก้มลิงตามบึงน้ำธรรมชาติซึ่งมีหลายแห่ง พื้นที่ดั้งเดิมแห่งละหลายพันไร่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ซึ่งพระราชทานไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๗ เป็นส่วนที่ยังไม่ได้รับการสนองพระราชดำริ รวมทั้งก่อสร้างคลองซอย เพื่อส่งน้ำสู่พื้นที่เกษตรกรรมให้มากที่สุด

                               ๓. พัฒนาลุ่มน้ำลำสะแทดซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งอำเภอบัวใหญ่ อำเภอโนนแดง อำเภอประทาย เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ เป็นพื้นที่การเกษตรชั้นดีของ ๘ อำเภอมาแต่ครั้งโบราณ โดยทำเป็นแพ็กเกจ เช่นเดียวกับที่กำลังพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกรอยู่ในขณะนี้ ให้ประชาชนสามารถอยู่ติดพื้นที่ไม่ต้องทิ้งถิ่น ๔. ก่อสร้างถนนทางหลวงแผ่นดินสาย ๒๐๒ เป็นถนน ๔ ช่องจราจรตั้งแต่จังหวัดชัยภูมิ ผ่านอำเภอแก้งสนามนาง อำเภอบัวใหญ่ อำเภอสีดา อำเภอประทาย อำเภอชุมพวง เชื่อมไปจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ ให้เป็นถนนสายหลักเชื่อมโซนเหนือของกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ เพื่อความสะดวกความเจริญของพื้นที่ ทั้งยังเป็นการลดความคับคั่งของการจราจรของตัวเมืองนครราชสีมาอีกส่วนหนึ่งด้วย

                               ๕. ขอให้ทบทวนเส้นทางรถไฟสายชุมทางบัวใหญ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งเป็นส่วนต่อของทางรถไฟสายแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่ ซึ่งกำหนดเส้นทางไว้ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างยุคจอมพลสฤษติ์ ธนะรัชต์ และผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกเคยมาศึกษาให้ความเห็นว่าเป็นเส้นทางที่คุ้มค่าที่สุดในการลงทุน แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ในสมัยที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตนายอำเภอบ้านไผ่ ขณะเป็น รมว.กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันให้เปลี่ยนเส้นทางคราวประชุม ครม.สัญจรที่ จ.อุดรธานี โดยแก้ไขเส้นทางเป็น บ้านไผ่-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ทำให้เกิดชุมทางหลายแห่งที่อยู่ใกล้กัน ทำให้รถไฟที่ออกจากแก่งคอยหากจะมุ่งไปสู่จังหวัดมุกดาหารต้องมาใช้ทางร่วมสายนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งไม่น่าสอดคล้องกับหลักวิศวกรรมจราจรทางราง ควรจะเปลี่ยนกลับมาเป็นเส้นทางเดิมซึ่งธนาคารโลกเคยให้ความช่วยเหลือศึกษาความเหมาะสมไว้แล้ว

                               ๖. ขอให้สร้างถนนมาตรฐานเชื่อมระหว่างกลุ่มอำเภอทั้ง ๘ ให้เกิดความสะดวกในการสัญจร และเพื่อการส่งต่อผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลบัวใหญ่ เพื่อสงวนชีวิตของประชาชนที่ต้องได้รับการบริการทางแพทย์อย่างทันต่อเหตุการณ์ และ ๗. ขอให้ยกฐานะวิทยาลัยการอาชีพบัวใหญ่ เป็นวิทยาลัยเทคนิค และเพิ่มคณะวิชาสายอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานที่มีความเปลี่ยนแปลงตามเทคโนโลยีที่มีวิวัฒนาการไม่หยุดนิ่งตลอดเวลา

                               โดยท้ายสุดผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “อรุณ อัครปรีดี” ทิ้งท้ายไว้ว่า “ข้อเสนอนี้หากได้รับการสนองตอบครบทุกข้อ ก็คงจะเป็นบุญกุศลแก่พวกเราชาว ๘ อำเภออย่างหาที่สุดมิได้ ขอขอบคุณท่านผู้ว่าธงชัย ลืออดุลย์ที่ท่านได้ผลักดันจนบัวใหญ่เราได้รับการยกฐานะโรงพยาบาลบัวใหญ่ขึ้นเป็นโรงพยาบาลระดับจังหวัดมาแล้ว ขอบคุณอย่างสูงครับ”

ขอบคุณภาพจาก http://nakhonratchasima.mol.go.th/node/69

 

               โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๒๕ วันเสาร์ที่ ๑ - วันพุธที่ ๕ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐


709 1,472