29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

August 18,2018

สมาชิกสหกรณ์ลุกฮือ กดดันยกเลิกโครงการ ซื้อปุ๋ย ๓๐ ล.หวั่นไม่ซื่อ

           สมาชิกสหกรณ์เรียกร้องระงับซื้อปุ๋ยหินแร่ภูเขาไฟทีพีไอ ๓๐ ล้าน ผิดข้อบังคับหลายขั้นตอน ประธานชี้หุ้นติดลบ หากไม่ทำขาดทุนแน่ หลังประชุมเครียด นายทะเทียนสั่งระงับ คืนเงินภายใน ๗ วัน

           เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.ที่สำนักงานสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ถนนมิตรภาพ มีสมาชิกสหกรณ์ฯ กว่า ๑๐๐ คน เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ นางประทิน สีสา สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กรณีคณะกรรมการสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา นำเงินของสหกรณ์ฯ จำนวน ๓๐ ล้านบาท สั่งซื้อปุ๋ยหินแร่ภูเขาไฟทีพีไอ โดยไม่มีมติผ่านที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการฯ แต่อย่างใด เกิดเป็นข้อกังขาให้กับกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ฯ ดังกล่าว จึงตัดสินใจรวมตัวกันเข้าเรียกร้องถึงการดำเนินการของคณะกรรมการให้เกิดความถูกต้อง

           นางประทิน สีสา สหกรณ์จังหวัดนครราช สีมา กล่าวว่า “เนื่องจากเงินจำนวน ๓๐ ล้านบาท ถูกจ่ายไปแบบไม่มีหลักฐาน สหกรณ์ฯ ก็จะมีการปิดบัญชี ถ้าสหกรณ์ฯ ขาดทุน หุ้นที่สมาชิกถืออยู่ที่สหกรณ์ฯ เดิมมีการถือหุ้นมีมูลค่าหุ้นละ ๑๐ บาท ถ้าสหกรณ์ขาดทุน มูลค่าหุ้น ๑๐ บาท ก็จะติดลบ นี่คือผลกระทบที่จะส่งผลต่อสมาชิกและสถานภาพของสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้นายทะเบียนกำลังจะสั่งให้คณะกรรมการดำเนินการแก้ไขอยู่ การยกมือเลือกเขาเป็นกรรมการ นั่นคือการมอบอำนาจให้เขาเป็นตัวแทนเรา ดังนั้นเขาดำเนินการนอกอำนาจหน้าที่ สมาชิกฯ ทุกท่านก็ต้องคอยกระตุ้น ขณะนี้สามารถติดตามผลได้ที่คณะกรรมการว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนใดแล้ว ในฐานะสมาชิกที่เลือกเขามา ในเร็วๆ นี้สหกรณ์กำลังจะมีการประชุมใหญ่ จะมีการวางแผนว่าจะดำเนินงานปีต่อไปอย่างไร และเลือกคณะกรรมการชุดใหม่พร้อมทั้งเลือกผู้ตรวจสอบกิจการ และพิจารณาการจัดสรรกำไรสุทธิ เพราะฉะนั้นสำหรับท่านที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้แทนสหกรณ์มาร่วมประชุม ต้องให้ความสำคัญในการประชุม เมื่อประชุมใหญ่เสร็จแล้วต้องกลับไปเล่าให้พี่น้องในกลุ่มตัวเองทราบ นอกจากเรื่องเงินปันผล สมาชิกก็ต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง อื่นๆ ด้วย ต้องติดตามความเคลื่อนไหว รวมทั้งผลการประชุมทุกครั้ง”

           นายเฉลิมยศ อินทร์หมื่นไวย เลขาธิการกลุ่ม ๒๘ ตัวแทนสมาชิกฯจาก ต.หมื่นไวย เปิดเผยกับ ‘โคราชคนอีสาน’ ว่า “ผมทราบข่าวถึงความไม่ชัดเจนของระบบการเงินในสหกรณ์ฯ  เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคมที่ผ่านมา คือ มีการโอนเงิน ๓๐ ล้านไปซื้อปุ๋ยดินภูเขาไฟของทีพีไอ ซึ่งอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่พื้นที่บ้านเรามีการทำเกษตรค่อนข้างน้อยลง จึงอยากทราบว่าเขาดำเนินการได้อย่างไร ทั้งที่ไม่มีการวางแผนโครงการ และไม่ถามสมาชิกก่อนว่าใครต้องการปุ๋ยมากน้อยเพียงใด วันนี้จึงเดินทางมาพบกับสหกรณ์จังหวัด เพื่อขอรับคำแนะนำ และให้คณะกรรมการได้ตรวจสอบทบทวน เพื่อนำเงิน ๓๐ ล้านบาทกลับมาคืนสหกรณ์ ที่สำคัญต้องผ่านมติที่ประชุมของคณะกรรมการ ขณะนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการว่าจะยับยั้งหรือเดินหน้าต่อ หรือจะมีกระบวนการอย่างไร”

           ภายในวันเดียวกันมีการประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการดำเนินการทั้งสิ้น ๑๕ คน นำโดยนายสนิท แก้วทะเล ประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายทรงวุฒิ เอกบุตร รองประธานกรรมการ ร่วมชี้แจงต่อสมาชิกนับร้อย โดยทั้งคู่ได้พร้อมใจกันลั่นคำสัตย์สาบานต่อหน้าพระพุทธรูปและพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ ๑๐ ภายในห้องประชุมเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจก่อนเริ่มชี้แจงต่อสมาชิก

           นายสนิท แก้วทะเล ประธานกรรมการ กล่าวว่า “โครงการลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตโดยใช้หินแร่ภูเขาไฟทีพีไอและผลิตภัณฑ์การเกษตรทีพีไอ มีการชี้แจงให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด ได้รับทราบและที่ประประชุมมติอนุมัติให้สหกรณ์ฯ เข้าร่วมโครงการนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นครั้งแรกของการพิจารณาในโครงการฯ และมีการประชุมชี้แจงความคืบหน้าในการที่เข้าร่วมกับคณะกรรมการของสหกรณ์โนนไทยและด่านขุนทดตามลำดับ ซึ่งคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ได้เห็นชอบมาตลอดทุกครั้ง เพราะเป็นโครงการที่มีประโยชน์กับทุกฝ่าย ทุกสหกรณ์ที่ได้เข่าร่วมโครงการจะมีเงินรายได้ถึง ๑๐% จากยอดซื้อขายผลิตภัณฑ์การเกษตรทีพีไอ ซึ่งดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคารไว้เฉยๆ เหมือนที่ผ่านมา โดยสหกรณ์ต้องรับภาระติดลบจากการรับฝากเงินจากสมาชิกและนำไปฝากต่อที่ธนาคารเป็นจำนวน ๓-๔% ซึ่งเป็นยอดเงินติดลบเกือบ ๑๐ ล้านบาท ทำให้สหกรณ์ฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิลดลง ส่งผลให้การจัดสรรเงินปันผลตามหุ้นให้แก่สมาชิกลดลงอย่างน่าใจหาย จึงต้องมีการแก้ไขปัญหาและหาธุรกิจเพิ่ม เพื่อบริหารจัดการให้มีรายได้เพิ่มขึ้น กรณีนี้ได้ชี้แจงให้กรรมการทุกคนได้เข้าใจ และยกมือสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด เป็นแม่ข่ายให้กับสหกรณ์ต่างๆ ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ มาโดยตลอด

           “ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ในการประชุมคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์ฯ ได้ต่างพิจารณาอนุมัติเงินเพื่อสั่งผลิตและสั่งซื้อหินแร่ภูเขาไฟทีพีไอ โดยบริษัททีพีไอฯ ให้ หจก.ครอบครัวทีพีไอ ดูแลด้านการซื้อขายผลิตภัณฑ์การเกษตรทีพีไอในระบบสหกรณ์ และคุณนภัทรธมณฑ์ กาฬเทพ เป็นผู้บริหารใน หจก.ครอบครัวทีพีไอ และการสั่งซื้อให้สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ จำเป็นต้องสั่งให้บริษัททีพีไอ ผลิตหินแร่ภูเขาไฟเพื่อส่งสินค้าไปให้สหกรณ์การเกษตรนาบอน สหกรณ์การเกษตรปากพนัง และสหกรณ์การ เกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า (สตก.) ธ.ก.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีออเดอร์สั่งซื้อมาแล้ว ตามหนังสือของสหกรณ์การ เกษตรนาบอน จำกัด ที่ได้แจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ของสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราช สีมา ได้ทราบแล้ว เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคมที่ผ่านมา ผมและผู้จัดการพร้อมทีมงานไปร่วมประชุมคณะกรรมการของ สตก.ธ.ก.ส. นครศรีธรรมราชและผู้นำสหกรณ์การเกษตรนาบอน สหกรณ์การเกษตรปากพนัง และ ณ สตก. ธ.ก.ส.นครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งจะมียอดสั่งซื้อจำนวน ๓๐๐ ล้านบาท จากสมาชิก ๕๐,๐๐๐ ราย รายละ ๖,๐๐๐ บาทเพื่อใช้ในสวนปาล์ม สวนยาง ตรงนี้มีหนังสือจากสหกรณ์การเกษตรนาบอน ตามที่ได้แจ้งให้ทราบทั่วกันแล้ว จึงจำเป็นต้องโอนเงินสั่งผลิตเพื่อส่งสินค้าให้สหกรณ์ดังกล่าว ซึ่งจำนวน ๓๐ ล้านบาทนั้น เพียง ๑๐% เท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีรายได้เข้าสหกรณ์แล้ว ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท เข้าบัญชีสหกรณ์แล้วเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคมที่ผ่านมา การผลิตได้เกิดขึ้นแล้ว รอการส่งสินค้าไปสหกรณ์ปลายทางเท่านั้น ทุกอย่างมีขั้นตอนการทำงานที่รัดกุมและต้องมีมติของคณะกรรมการของสหกรณ์ลูกค้าปลายทางเป็นลายลักษณ์อักษรจึงจะส่งสินค้าให้ เมื่อสินค้าไปถึงแล้วต้องมีสัญญาการเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้อีกชั้นหนึ่ง โดยดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อผลประโยชน์ของสหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมาเป็นหลัก ฉะนั้นทุกคนสบายใจได้ว่าโครงการนี้ปลอดภัยที่สุด ไม่มีความเสียหายแน่นอน และจะมีรายได้เข้ามาเป็นกำไรให้สหกรณ์มากกว่าการฝากเงินกับธนาคาร” นายสนิท กล่าวชี้แจง

           อย่างไรก็ตาม ภายในที่ประชุมคณะกรรมการส่วนใหญ่ไม่เห็นชอบต่อการดำเนินการโครงการในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวผิดประกาศและระเบียบข้อบังคับของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จึงเกิดการถกเถียงกันอย่าดุเดือดอยู่หลายชั่วโมง โดยไม่มีทีท่าจะจบลง กระทั่งมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดจากนายทะเบียนให้ระงับโครงการดังกล่าว และขอเงินจำนวน ๓๐ ล้านบาทคืนแก่สหกรณ์การเกษตรเมืองนครราชสีมา จำกัด ภายใน ๗ วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือสั่งการจากสำนักงานจังหวัดนครราชสีมา 

 

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๑ วันพฤหัสบดีที่  ๑๖ - วันจันทร์ที่  ๒๐  เดือนสิงหาคม  พุทธศักราช ๒๕๖๑

 

785 1416