สนธิกำลังทุกหน่วยลุยปูพรมทุกพื้นที่กวาดล้างให้สิ้นเครือข่ายนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด พบรายใหญ่ลักลอบปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ยึดโฉนดที่ดินชาวบ้านอีกเพียบ มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

             เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น.วันที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๑ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และพ.ท.อาทิตย์ ดอกชา หัวหน้าชุดกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดชัยภูมิ สั่งระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยภูมิ นำหมายศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ ๘๘/ ๒๕๖๑ ขอเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย เลขที่ ๗๘/๑-๒ หมู่ ๑๒ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังได้รับการร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่จำนวนมากว่า โดยนางสาวสมจิต ลิ้มพัฒนชัย อายุ ๓๗ ปี อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ของจ.ชัยภูมิ และมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

             โดยให้ผู้กู้นำโฉนดที่ดินมาวางค้ำประกันกู้ยืมเงิน ในสัญญาที่ไม่เป็นธรรม และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด จนมีการถูกยึดโฉนดที่ดินไปโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมตามมาเป็นจำนวนมากหลายสิบแปลง รวมมูลค่ารายวันอีกหลายสิบล้านบาท 

             ในการตรวจค้นครั้งนี้สามารถยึดเอกสารหลักฐาน สัญญาเงินกู้ เอกสารโฉนดที่ดินอีกจำนวนมากกว่า ๒ หลัง ที่พบว่ามีการดำเนินการปล่อยเงินกู้นอกระบบให้ผู้กู้ลงลายมือชื่อ(โอนลอย) ไว้ในเอกสารสัญญากู้ยืมเปล่าไว้ เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้กู้ และคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ผู้กู้ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฏหมายกำหนด และนำไปสู่การถูกยึดโฉนดที่ดิน ได้รับผลกระทบครั้งนี้ตามมาอีกจำนวนมาก

             จากนั้น เชิญตัวนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายใหญ่ครั้งนี้ คือนางสาวสมจิต ลิ้มพัฒนชัย อายุ ๓๗ ปี มาสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนโฉนดที่ดินของประชาชนที่ถูกยึดมาโดยไม่เป็นธรรม จะมีการดำเนินการ เพื่อให้ความเป็นธรรม เปิดโอกาสให้ผู้กู้ที่ต้องการไถ่ถอนโฉนดที่ดินคืนจากผู้ให้กู้รายนี้ ได้ไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้ง ๒ ฝ่ายระหว่างผู้ให้กู้รายนี้กับผู้กู้ที่จะต้องให้คิดดอกเบี้ยเงินต้นตามกฎหมายที่เกิดความเป็นธรรมทั้ง ๒ ฝ่ายต่อไปด้วยอีกทางในครั้งนี้ด้วย

             ต่อมาเมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. ของวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๑ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ สั่งระดมชุดกองกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ภูเขียว ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค ๓ และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวััยภูมิ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดชัยภูมิ ที่ จ.๕๓/๒๕๖๑ เข้าขอตรวจค้นบ้านเป้าหมายกลุ่มนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดในพื้นที่ต่อเนื่อง 

             โดยในวันนี้เป็นบ้านของนายสงวน กิตติวัจนสกุล อายุ ๖๙ ปี เลขที่ ๖๐ หมู่ ๑ ถ.ราษฎ์บำรุง ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ หลังมีผู้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมจำนวนมากต่อศูนย์ธรรมจังหวัดชัยภูมิ และตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิว่า บ้านหลังดังกล่าวได้เปิดเป็นแหล่งปล่อยเงินกู้นอกระบบ และทำสัญญากู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม พร้อมทั้งเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยมีประชาชนถูกยึดโฉนดที่ดินไปเป็นจำนวนมาก

             เมื่อไปถึงพบเจ้าของบ้าน และได้นำพาขอตรวจค้นภายในบ้านพักดังกล่าวด้วยตนเอง เพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย และมีการตรวจค้นพบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งเป็นโฉนดที่ดินรวมกว่า ๓๕ แปลง/ชุด สมุดบัญชีเงินฝากกว่า ๘ เล่ม สมุดบัญชีเงินกู้ลูกค้ารวมกว่า ๒๔ เล่ม รวมมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า ๘๔,๒๘๕,๐๐๐ บาท จึงเชิญตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีในข้อหาเบื้องต้น ฐานกระทำความผิดประกอบสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับเป็นทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 

             ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ยอมรับสารภาพว่าปล่อยเงินกู้จริง ส่วนรายละเอียดจะขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวนต่อไป เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้านการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการไถ่ถอนโฉนดที่ดินที่ถูกยึดไป จากสัญญาเงินกู้ที่ไม่เป็นธรรมและเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายต่อไป

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๓ วันพฤหัสบดีที่ ๖ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๑