May 22,2019
อนุวัฒน์’อดีตนปช.น้ำตาคลอ ได้รับอภัยโทษคดี ม.๑๑๒ ยืนยันจะเป็นคนดีของบ้านเมือง
“อนุวัฒน์ ทินราช” ประธาน นปช.ภาคอีสาน ผู้ต้องโทษคดี ม.๑๑๒ รับอิสรภาพ หลังเรือนจำกลางโคราช ร่วมปล่อยผู้ต้องราชทัณฑ์ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ.๒๕๖๒ จำนวน ๑๖๘ คน เผยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร.๑๐ ร้องลั่น “ทรงพระเจริญ” ๓ ครั้ง พร้อมยืนยันจะปฏิบัติตัวเป็นคนดีของบ้านเมือง
สืบเนื่องจากนายอนุวัฒน์ ทินราช ประธาน นปช.ภาคอีสาน และประธาน นปช.โคราช รวมทั้งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ.นครราชสีมา (ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕) ขึ้นปราศรัยบนเวทีประชุมแกนนำเสื้อแดงจากทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อ “นปช.ลั่นกลองรบ” ที่อาคารลิปตพัลลภ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ โดยใช้วาจาจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูงอย่างชัดเจน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ และมีการบันทึกคลิปวิดีโอเป็นหลักฐานด้วย
จากนั้น เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๑ ที่ห้องพิจารณาคดีที่ ๑๖ ชั้น ๓ ศาลจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาขึ้นนั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงภาคอีสาน และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เป็นเวลา ๓ ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ โดยภายหลังอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอนุวัฒน์ไปฝากขังที่เรือนจำกลางนครราชสีมาทันที ตามที่ “โคราชคนอีสาน” เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ล่าสุด ที่เรือนจำกลางนครราชสีมา เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒ นายราชัญ กวีกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนคร ราชสีมา และนายบำรุง จันทร์บ้านคลอง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา ร่วมทำพิธีปล่อยผู้ต้องราชทัณฑ์ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ ๒๕๖๒ จำนวนทั้งสิ้น ๑๖๘ คน โดยเป็นผู้ต้องโทษชาย ๑๔๓ คน และผู้ต้องโทษหญิง ๒๕ คน บรรดาญาติหลายร้อยคนได้มารอรับผู้ที่ได้รับอภัยโทษ ทันทีที่เสร็จพิธีการสำคัญ ผู้ต้องโทษได้กราบเท้าผู้มีพระคุณพร้อมสวมกอดแสดงความรักห่วงใยกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยน้ำตา และสร้างความประทับใจ ซึ่งมีนายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภาคอีสานและประธาน นปช.โคราช ผู้ต้องโทษคดี ม.๑๑๒ ได้รับการอภัยโทษด้วย โดยมีนายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตผู้ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช รวมทั้งญาติและภรรยา ของนายอนุวัฒน์ ทินราช ได้มารอรับด้วย
นายราชัญ กวีกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังราชทัณฑ์ที่มีความประพฤติดีให้ได้รับการปล่อยตัวและลดหย่อนผ่อนโทษ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้นได้กลับตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป เรือนจำกลางนครราชสีมา โดยคณะกรรมการตามมาตรา ๑๘ แห่ง พระราชกษฏีกาพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวจำนวนทั้งสิ้น ๑๖๘ คน จึงได้เตรียมความพร้อมโดยจัดการฝึกพัฒนาจิตใจและทักษะอาชีพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามดูแลและช่วยเหลือให้ผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอกได้อย่างปกติสุข มีอาชีพที่สุจริตไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก”
นายอนุวัฒน์ ทินราช กล่าวความรู้สึกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ได้ทรงโปรดพระราชทานอภัยโทษให้ตนและเพื่อนนักโทษ ขอยืนยันต่อไปจะปฏิบัติตัวเป็นคนดีของบ้านเมือง จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ตลอดไป ขอให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ ‘ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ’ นอกจากนี้นายอนุวัฒน์ ทินราช ได้ฝากข้อความถึงเพื่อนว่า ‘ออกมาเป็นอิสระแล้ว’ มีความต้องการเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบสุข หากมีโอกาสเราจะพบกันอีก”
อนึ่ง นายอนุวัฒน์ ทินราช เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๔๙๖ ที่บ้านหนองบัวลาย อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา มีลุงชื่อ นายน้อย ทินราช อาชีพทนายความ เป็น ส.ส.ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๑ และครั้งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒ และมีบิดาชื่อนายคำ ทินราช โดยมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เมื่อพ.ศ.๒๕๐๕ และเป็นกำนันตำบลบัวลาย เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๘ จากสิ่งแวดล้อมทางครอบครัวนายอนุวัฒน์จึงมีความใฝ่ฝันทางการเมือง เริ่มจากสามารถควบคุมเสียงของประชาชนได้ระดับหนึ่ง และสามารถขึ้นเป็นอดีตประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ครั้นเมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พ.ศ.๒๕๕๕ อยู่ในการยึดครองของพรรคเพื่อไทยและพรรคชาติพัฒนา นายอนุวัฒน์จึงได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายก อบจ.นครราชสีมา โดยการสนับสนุนของนายโกศล ปัทมะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย น้องชายของนายนพดล ปัทมะ ทนายความคนสนิทของทักษิณ ชินวัตร
ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๓ วันอังคารที่ ๒๑ - วันเสาร์ที่ ๒๕ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
891 1,626