May 27,2019
‘สวนสัตว์โคราช’สู่ทศวรรษที่ ๓ ชู‘ซาฟารีอีสาน’แห่งเดียว
สวนสัตว์โคราชฉลอง ๓๐ ปี ชู ๕ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอฟริกา นักท่องเที่ยว ๑.๒ ล้านคนต่อปี เร่งพัฒนารูปแบบโชว์สัตว์แนวใหม่ เตรียมโปรเจ็กต์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสัมผัสสัตว์ใกล้ชิด
เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อํานวยการสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ถึงการฉลองครบรอบ ๓๐ ปี ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ ๓ ว่า สวนสัตว์นครราชสีมา เป็นหนึ่งในสมาชิกองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ในสมัยของพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เปิดให้บริการครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๙ และเมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ถือว่า สวนสัตว์นครราชสีมา มีอายุครบ ๓๐ ปี สําหรับการดําเนินงานในด้านการอนุรักษ์ ขยายพันธุ์สัตว์ป่าและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ในรูปแบบสวนสัตว์นันทนาการแบบครบวงจร แห่งแรกในภาคอีสาน ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีกิจกรรมมากมายทั้งทําบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๙ รูป เพื่อเป็นศิริมงคลกับเจ้าหน้าที่ รวมถึง ทอดผ้าป่าอาหารสัตว์ ได้ยอดเงิน ๑๖๑,๗๔๙.๕๐ บาท และนำไปซื้ออาหารให้สัตว์ทั้งหมด และมีการเปิดนิทรรศการประวัติความเป็นของสวนสัตว์นครราชสีมา รวมถึงการออกโรงทานอีก ๑๓ โรงทานให้ประชาชนได้กินฟรี
นายเทวินทร์ เปิดเผยอีกว่า สวนสัตว์นครราชสีมามีพื้นที่ ๕๔๕ ไร่ มีนักท่องเที่ยวประมาณ ๑,๒๐๐,๐๐๐ คนต่อปี ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๘๐% และกลุ่มต่างชาติประมาณ ๕% สัตว์ป่ามากกว่า ๑,๙๐๐ ตัว ทั้งหมด ๒๐๐ กว่าชนิด มีสัตว์เด่นที่เรียกว่า BIG ๕ คือ ๕ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งทุ่งหญ้าแอฟริกา ได้แก่ ช้างแอฟริกา, ควายป่า, สิงโต, เสือดำ-เสือดาว และแรดขาว ถือเป็นจุดเด่นของสวนสัตว์นครราชสีมา เพราะเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่นำ ๕ ผู้ยิ่งใหญ่ในแอฟริกามาไว้รวมกัน หรือเรียกว่า ซาฟารีอีสาน แต่ที่ผ่านมาเรื่องความนิยมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติดูสัตว์ในสวนสัตว์ดูน้อยลงไป เพราะมีค่านิยมด้านอื่นๆ เข้ามาทั้งเรื่องของคนรุ่นใหม่ ตลาดใหม่ๆ ห้างสรรพสินค้าใหม่ จึงทำให้การประชาสัมพันธ์การตลาดไม่เป็นที่นิยมมากนัก
“ภาคอีสานมีสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ๔ แห่ง คือที่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี และสุรินทร์ (คชอาณาจักร) ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งหมด โดยเฉพาะขอนแก่นที่ดูมีศักยภาพมากทั้งในส่วนของภูมิประเทศ และการออกแบบใหม่ที่ดูตื่นตา มีเนื้อที่ถึง ๓ พันไร่ แต่สวนสัตว์นครราชสีมาก็พยายามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่อง สถานที่ การให้บริการ รวมถึงรูปแบบการโชว์แบบใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งโลกใต้น้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน, อาณาจักรสัตว์นักล่า, สวนสัตว์เด็ก/ฟลามิงโก้, ฮิปโปโปเตมัส, ช้างแอฟริกา/ยีราฟ, ควายป่าแอฟริกา, ซิมแปนซี/ค่างห้าสี, แรดขาว, สิงโตแอฟริกา และเดิ่นกวาง”
นายเทวินทร์ เปิดเผยอีกว่า ในอนาคตสวนสัตว์นครราชสีมา วางเป้าที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และจะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสสัตว์แบบใกล้ชิด โดยจะออกแบบห้องประชุม ห้องน้ำ ห้องรับประทานอาหาร เหมือนได้นั่งอยู่กลางกลุ่มสัตว์ต่างๆ ล้อมไปด้วยกระจกมองเห็นสัตว์แบบชัดเจน เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวไปในตัว
สำหรับสวนสัตว์นครราชสีมา เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. สำหรับอัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๒๐ บาท ข้าราชการ/ทหาร/ตำรวจ(ในเครื่องแบบ) ๕๐ บาท ผู้สูงอายุตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป/ภิกษุ-สามเณร/คนพิการ เข้าชมฟรี สำหรับชาวต่างชาติผู้ใหญ่อัตราค่าเข้า ๑๕๐ บาท เด็ก ๗๐ บาท
อนึ่ง สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์ลำดับที่ ๔ ในองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๓๒ ในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้ชื่อ “โครงการสวนสัตว์นครราชสีมา” กระทั่งมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๓๙ โดยมี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธี และใช้ชื่อว่า “สวนสัตว์นครราชสีมา” เป็นต้นมา สวนสัตว์นครราชสีมาจัดเป็นสถานที่พักผ่อนเชิงนิเวศของประชาชน เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่าและธรรมชาติศึกษาของเยาวชนที่มีความทันสมัยตามมาตรฐานการสวนสัตว์ให้มีคุณภาพในระดับสากล ภายใต้นิยาม “ท่องเที่ยว เรียนรู้ สู่ธรรมชาติ”
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๔ วันอาทิตย์ที่ ๒๖-วันศุกร์ที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
879 1,583